กมธ.พัฒนาการเมือง วุฒิสภา สงสัยร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมบางฉบับล้างมลทินไม่สมสัดส่วน เห็นด้วยควรให้อภัยเยาวชนที่ทำผิดด้วยความคึกคะนอง
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 23 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพรชัย วิริยะเลิศ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาฯ แถลงว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่ประชุม กมธ.ได้พิจารณาร่างเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม โดยเชิญเจ้าของร่างที่ยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรมาให้ข้อมูล ทั้ง 4 ร่างจากพรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคประชาชน และภาคประชาชน ขณะที่พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าชี้แจง ซึ่งร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญของสภาผู้แทนราษฎร จึงต้องการจะทราบว่าสามารถที่จะบรรลุความสงบสุขได้จริง ๆ หรือไม่ รวมถึงข้อครหาของสังคมที่เกิดขึ้น จากการชี้แจงทั้ง 4 ร่าง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1.มีการระบุฐานความผิดไว้ว่าจะนิรโทษกรรมฐานความผิดใดบ้าง ซึ่งจะมีความรวดเร็ว เพราะเมื่อพ.ร.บ.นี้ผ่าน ผู้ที่มีความผิดภายใต้พ.ร.บ.นี้ก็จะได้รับการนิรโทษกรรมโดยอัตโนมัติ แต่อาจจะมีความไม่ครอบคลุม และหลายฝ่ายมองว่ามีความไม่เป็นธรรม เพราะอาจจะนิรโทษกรรมให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ และ 2.ไม่ระบุฐานความผิด แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน และพิจารณาว่าแต่ละคดีควรจะได้รับการนิรโทษกรรมหรือไม่ มีข้อดีคือ สามารถพิจารณาได้อย่างครอบคลุมและเป็นรายกรณี แต่ข้อเสีย อาจจะใช้เวลาการพิจารณามากเกินไป
สงสัยล้างผิดไม่สมสัดส่วน
นายพรชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ กมธ.และประชาชนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนิรโทษกรรมว่า ได้สัดส่วนกับความผิดหรือไม่ เพราะบางร่างมีการนิรโทษกรรมให้กับฐานความผิดคดีอาญาร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นก่อการร้าย การกบฏตามมาตรา 113 การสะสมอาวุธตามมาตรา 114 หรือการวางเพลิงก็ตาม แต่ขณะเดียวกันไม่พิจารณาให้นิรโทษกรรมให้ความผิดมาตรา 112 ที่มีฐานความผิดแค่ 3-15 ปีเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นความผิดทางไซเบอร์แค่โพสต์เฟซบุ๊ก 25 โพสต์ หรือแชร์คลิปก็ติดคุก 20 กว่าปีก็มี จึงจำเป็นต้องพิจารณาว่า ฐานความผิดที่ได้รับการนิรโทษกรรม เหมาะสมกับความผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความผิดตามมาตรา 112 กมธ.เห็นว่าหากดูแล้ว เจตนาเพื่อการเมืองโดยเฉพาะก็ควรจะได้การนิรโทษ ซึ่งทางผู้ที่มาชี้แจงระบุว่า ความผิดตรงนี้เป็นความผิดคดีอาญา ถ้าจงใจมาก่อความวุ่นวายคงไม่สามารถนิรโทษได้ ซึ่ง กมธ.เห็นว่าหากมีความผิดเช่นนี้ คงจะมีการพิจารณาในชั้นกมธ. เพราะทุกร่างมีการตั้งคณะ กมธ.ขึ้นมาเพื่อพิจารณาความผิดอยู่แล้ว แต่โครงสร้างจะแตกต่างกัน และควรที่จะครอบคลุมทุกฝ่ายในการมีส่วนร่วมไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือคนจากฝั่งรัฐบาลอย่างเดียว รวมถึงควรเร่งรัดกระบวนการในการพิจารณาในการบรรจุในร่างพ.ร.บ.
...
กมธ.เห็นพ้องล้างผิดคดีเยาวชน
“กมธ. ยังเห็นด้วยกับร่างของภาคประชาชนที่เห็นว่า เยาวชนที่โดนคดีอาจจะทำไปด้วยคึกคะนอง ควรได้รับการนิรโทษกรรมโดยที่ไม่เกี่ยวว่าเขาได้โทษอะไรมา และควรให้อภัยเยาวชนที่กระทำความผิดในรูปแบบเดียวกับการให้อภัยนักเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ 6 ตุลา และ 14 ตุลา ก็จะสามารถสร้างสังคมสงบสุขได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ ในร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ระบุว่า จะนิรโทษกรรมคดีเลือกตั้งให้สส.และสว.ซึ่งผู้ชี้แจงระบุว่า จะนิรโทษกรรมเฉพาะกรณีที่ไปปิดคูหาเลือกตั้ง โดยที่มีเจตนาทางการเมืองเท่านั้น โดยไม่นิรโทษกรรมทุจริตเลือกตั้งทั้ง สส.และสว.” นายพรชัย กล่าว