ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานกรณี "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" โยกงบประมาณปี 2568-2569 วันที่ 24 กรกฎาคมนี้ พร้อมสั่งคู่กรณียื่นเอกสารหลักฐาน หากติดใจให้ยื่นคัดค้านก่อนเริ่มกระบวนการไต่สวน


วันที่ 22 ก.ค. 2568 มีการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องที่ นายภัณฑิล น่วมเจิม และ ส.ส. รวม 121 คน ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย กรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง (ผู้ถูกร้อง) เป็นผู้ให้ความเห็นชอบการจัดทำโครงการและให้มีการเสนองบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 3 โครงการ ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนโดยทางตรงและทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และในกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีคำขอเสนอโครงการทั้ง 3 โครงการดังกล่าวอีกครั้ง ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 เป็นการเสนอของบประมาณด้วยโครงการที่มีรูปแบบเดียวกันและต่อเนื่องกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่ผู้ถูกร้องมีส่วนในการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทำใด ๆ ที่มีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงและทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง หรือไม่

สั่งยื่นหลักฐานภายในพุธนี้

โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2568 เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

นัดไต่สวนพยาน 24ก.ค.68

ส่วนคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสาม ศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลมีมติรับความเห็นของผู้ร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย จึงเป็นกรณีที่รัฐธรรมนูญกำหนดระยะเวลาไว้เป็นการเฉพาะเพื่อเป็นการเร่งรัดให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินกระบวนพิจารณาเป็นไปโดยรวดเร็ว เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาคดี คู่กรณีที่ติดใจคัดค้านบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริง ให้แถลงขออนุญาตคัดค้านในวันไต่สวนพยานบุคคลก่อนเริ่มการไต่สวนพยาน 

...



จากนั้นอภิปรายเตรียมการไต่สวนพยานบุคคลในวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2568 โดยศาลอนุญาตให้เฉพาะคู่กรณี ผู้เกี่ยวข้อง และบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตเท่านั้น เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนพยานบุคคลและงดการถ่ายทอดสดทั้งภาพและเสียงในระหว่างการไต่สวนพยานเนื่องจากพยานบุคคลที่มาให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นพยานคู่