“อนุทิน” ยัน มหาดไทยไม่รู้เรื่อง ปมงบ 700 ล้าน โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเทมาพื้นที่พรรคภูมิใจไทย ตัดพ้อพอออกจากรัฐบาล อะไรๆ ก็โทษคนเก่าไว้ก่อน ย้อนถามใครคุมงบกลาง ถ้าไม่ใช่นายกฯ แนะเจรจาคนระดับโลกต้องศึกษาประวัติเขาด้วย ใช้ล่ามอย่างเดียวไม่มีทางสำเร็จ
วันที่ 17 ก.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยในรายการ “มุมน้ำเงิน” ในช่องยูทูป Ringsideการเมือง ถึงกรณีงบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท มีการเทงบท้องถิ่นไปพื้นที่พรรคภูมิใจไทย บางแห่งสูงถึง 700 ล้านบาท ว่า ที่เป็นเรื่องขึ้นมา เพราะว่าเราออกจากรัฐบาล คนที่เข้าไปใหม่ อะไรๆ ก็โทษคนเก่าไว้ก่อน เป็นสิ่งปกติที่เขาทำ แต่เขาไม่ได้รู้เท่าเรา คือ งบ 1.57 แสนล้านบาท มันไม่ใช่งบปกติ มันเป็นงบกลาง ใครเป็นเจ้าของงบกลาง นายกฯ เพราะฉะนั้นมันต้องออกมาจากท่านนายกฯ อยู่แล้ว คนที่จะมาใช้งบนี้ได้ มหาดไทยไม่รู้เรื่องหรอกครับ เขาก็ต้องทำตามคำขอ มหาดไทยทุกวันนี้ให้ได้เฉพาะ อบต. ที่จะพิจารณาได้ ดังนั้นการที่คนบอกว่า อบจ. บางแห่งได้ถึง 700 ล้านบาทเนี่ย ก็ต้องไปถามนายก อบจ. คนนั้นว่าไปขอที่ใคร เพราะเขาไม่ต้องมาผ่านมหาดไทย ด้านนายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยครับ ถ้าได้ 700 ล้าน จัดรำวงแก้บนสัก 3 วัน จากนั้นนายอนุทิน กล่าวต่อว่า มันไม่ใช่กระทรวงมหาดไทยจะมาอนุมัติงบนี้ เพราะงบกลาง 1.57 แสนล้าน นายกฯ ได้ตั้งให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ และมีคณะกรรมการพิจารณางบนี้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครจะเซ็นอะไรไปก็แล้วแต่ ถ้างบมันจะออกก็ต้องผ่านคณะกรรมการชุดนี้ คนเสนอเขาต้องขอเยอะอยู่แล้ว แต่คณะกรรมการกลั่นกรองชุดนี้ต้องคอยตัด กระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่เป็นทางผ่าน เพราะเป็นหน่วยงานรับงบประมาณ
...
โดยในรายการ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงเรื่องการเจรจาภาษีสหรัฐ ว่า เวียดนามได้ไป 20% ทำให้เราทราบได้ว่า ยังไงเราไม่มีวันต่ำกว่า 20% แน่ เพราะว่าเราไปเจรจาทีหลัง อีกทั้งเวียดนามยังให้ภาษีสหรัฐ 0% หากรอเวลาอย่างนี้โดยไม่มีมาตรการอื่น ก็แทบไม่มีทางให้เขาเดินเหมือนกัน จึงต้องช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงเราจะได้ประโยชน์สูงสุด ตอนนี้เรามีเวลาเจรจาอยู่แค่ 13 วัน ที่ยังไม่มีวี่แววที่เขาจะยืดเวลาให้ และสหรัฐได้ส่งหนังสือแจ้งมาแล้วเรื่องเก็บภาษี 36% กับไทยที่จะใช้ 1 ส.ค. นี้ จึงต้องหาทางออกให้เร็วที่สุด
พร้อมทั้งยังตอบคำถามนายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่ถามถึงหัวใจการเจรจากับคนระดับโลกว่าคืออะไร ซึ่งนายอนุทิน ระบุว่า เวลาจะเริ่มเจรจากับใครต้องแสวงหาส่วนเป็นมิตรก่อน และต้องรำลึกความหลังก่อน ว่าเราเคยเจอเขา และต้องอ่านประวัติเขาด้วย เพราะคนระดับชาติอยู่ในวิกิพีเดียอยู่แล้ว สามารถอ่านได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเจรจา หากเปิดทอล์กกิ้งพอยต์ และใช้ล่ามด้วย ไม่มีทางสำเร็จ หากจะตกลงกันได้ก็คงเตี๊ยมกันมาก่อนแต่มันจะไม่ได้อะไรมากขึ้นกว่านี้แน่นอน