“สรวงศ์” ยัน “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำ หลายคนเคารพ-ขอคำปรึกษา มอบทีมกฎหมายเพื่อไทยมอนิเตอร์คำปราศรัยภูมิใจไทย แง้ม “แพทองธาร” เตรียมลงช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5


เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีกระแสข่าวอนุคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะชงเรื่องให้นายทะเบียนพรรคการเมือง ยุบ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม กรณีเข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เข้าข่ายครอบงำพรรคการเมือง ว่า มันไม่มีอะไรไปครอบงำได้ ประสบการณ์การเป็นผู้นำและประสบการณ์ทำงานของนายทักษิณ ทุกคนก็เห็นอยู่ ท่านมีประสบการณ์นอกประเทศถึง 17 ปี หลายคนจึงมีความเคารพ และให้เกียรติในการขอคำปรึกษาหารือ แต่ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งที่นายทักษิณพูดแล้วจะมาครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล เป็นไปไม่ได้เลย

ผู้สื่อข่าวถามต่อ ข้อกล่าวหานี้มีมาตลอด นายสรวงศ์ ระบุว่า นักร้องก็เป็นแบบนี้ และที่ผ่านมายังไม่มีการเรียกแกนนำพรรคเพื่อไทยไปชี้แจง เมื่อถามว่าจะชี้แจงสังคมอย่างไร เพราะตอนที่ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี หลุดจากตำแหน่ง แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็เดินทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า นายสรวงศ์ หัวเราะก่อนจะกล่าวว่า นายทักษิณ เป็นบุคคลที่หลายคนให้ความเคารพ คิดว่าเราต้องดูข้อเท็จจริงมากกว่าว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีการครอบงำ และไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนพูด

ส่วนของการปรากฏตัวของนายทักษิณ ในสถานที่ต่างๆ จะเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์การเมืองที่ไม่ค่อยดีในขณะนี้หรือไม่ นายสรวงศ์ ถอนหายใจ และเผยว่า ก็ต้องช่วยกัน ส่วนตัวมองว่าการเมืองไม่มีทางตัน เรายังมีความหวังอยากให้ประเทศไทยได้มีการเลือกตั้ง รัฐบาลอยู่ครบ 4 ปีก็เลือกตั้งใหม่ ใครไม่พอใจอะไรก็ไปอยู่ในคูหาเลือกตั้ง เพราะไม่เช่นนั้นประเทศก็ไม่เดินไปไหน ขอย้ำว่าเรายังมีความหวังอยู่ ไม่มีทางตันแน่นอน

...

ขณะเดียวกัน นายสรวงศ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 ซึ่งมีการปราศรัยใช้คำว่า ขายชาติ ว่า ทางพรรคเพื่อไทยมีทีมกฎหมายคอยมอนิเตอร์อยู่ การหาเสียงต้องไม่ใช่แบบนี้ ควรเป็นการเสนอว่าจะทำให้อะไรกับเขา มากกว่าที่จะมาโจมตีแบบนี้ รู้สึกผิดหวังกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ถือว่าเป็นสไตล์การหาเสียงของแต่ละพรรค แต่เพื่อไทยไม่มีแบบนี้ เพราะจะเสนอว่าเลือกแล้วอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

ในคำถามการปราศรัยครั้งนี้มีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกินไปหรือไม่ นายสรวงศ์ ตอบว่า จริงๆ แล้วก็บิดเบือนเยอะในหลายๆ เรื่อง อาจเป็นข้อความที่จะสนุกปาก แต่ลืมไปว่าตัวเองก็เคยอยู่ในจุดนี้ ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคมอนิเตอร์อยู่ ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ เดี๋ยวขอรอดูความเหมาะสมเรื่องข้อกฎหมาย และมองว่าการใช้คำว่าขายชาติรุนแรงไป ก่อนย้อนถามกลับว่า “ขายชาติขายได้เท่าไหร่ยังไม่รู้เลย เป็นวาทกรรมที่ใครก็พูดได้”

สำหรับกรณีที่มีการยกประเด็นที่นายกรัฐมนตรี คุยกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า อังเคิลอยากได้อะไร นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า อยากได้อะไร แล้วคำตอบที่ได้มาคืออะไร หากได้ฟังคลิปสนทนาเต็มทั้ง 17 นาทีจะทราบว่านายกรัฐมนตรีพูดตลอดว่าโอเคๆ เดี๋ยวไปถามกองทัพให้ ไม่มีอะไรที่เราไปตกลงหรือตกปากรับคำอะไร

พร้อมกันนี้ นายสรวงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า เดี๋ยวจะมีการจัดทั้งตัว สส.ในพื้นที่ใกล้เคียง ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็จะเดินทางลงพื้นที่ด้วย แต่กำลังดูคิวอยู่ เพราะเหลือเวลาหาเสียงอยู่เพียงไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 10 สิงหาคม 2568 เมื่อถามอีกว่า นายทักษิณ จะลงไปช่วยผู้สมัครหาเสียงหรือไม่ นายสรวงศ์ ตอบว่า เดี๋ยวต้องรอดู ทางผู้สมัครเองก็ได้ร้องขอ ให้ตั้งนายทักษิณเป็นผู้ช่วยหาเสียง

ผู้สื่อข่าวถามต่อการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันเสาร์ (12 กรกฎาคม 2568) ที่ผ่านมา ที่ จ.นครราชสีมา พบมีกลุ่มต่อต้าน จะกลายเป็นโดมิโนไปยังพื้นที่อื่นหรือไม่ นายสรวงศ์ ระบุว่า ในทุกพื้นที่มีทั้งคนรักและคนไม่ชอบ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องปกติของการเมือง เราในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกันเองอย่าไปเป็นเครื่องมือให้กับเขา ขอให้ดูทางการไทย โดยเฉพาะทหาร เขากำลังทำงานกันอย่างหนักมากในการเจรจาเพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะ และตนมั่นใจว่าประชาชนทั้ง 7 จังหวัดชายแดนไม่อยากให้เกิดการปะทะเช่นกัน และประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถรักษาเก้าอี้ สส.ศรีสะเกษ ได้ จะทำให้พรรคเสียหน้าหรือไม่ นายสรวงศ์ สวนกลับในทันทีว่า รักษาได้ ต้องทำเต็มที่ และผู้สมัครเองก็เป็นคนในพื้นที่ รู้ในสิ่งที่เป็นวิธีการแก้ปัญหา.