“ประเสริฐ” โยนถาม “ภูมิธรรม-แพทองธาร” ขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญ ปมคลิปเสียงกับ “ฮุน เซน” ขอรอดู ป.ป.ช. ตั้ง คกก.สอบจริยธรรม ชี้ วาทกรรมภูมิใจไทย “ไล่หนูซื้องูเห่า” เป็นเทคนิคหาเสียง
วันที่ 15 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ระบุ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อาจจะขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอีก 15 วัน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า ตนยังไม่ทราบข้อเท็จจริง ให้ไปถามจากนายภูมิธรรม และนายกรัฐมนตรีเอง
เมื่อถามว่าหากมีการขอเลื่อนออกไปจริงจะเป็นการแสดงถึงความกังวลต่อคำชี้แจงหรือไม่ นายประเสริฐ ยืนยันว่าไม่กังวล เพราะการยื่นสำนวนต่อศาลต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วน และเป็นเรื่องสำคัญ เรามีเวลาและมีสิทธิ เพราะอยากให้ข้อมูลออกมาดีที่สุด “ท่านนายกฯ เตรียมพร้อมอยู่แล้ว มีทีมกฎหมายที่คอยซัพพอร์ตอยู่แล้ว”
ส่วนกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ตั้งคณะกรรมการไต่สวนสอบจริยธรรมนายกรัฐมนตรีปมคลิปเสียงนั้น นายประเสริฐ มองว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องติดตามว่าประเด็นที่ ป.ป.ช. ต้องการคืออะไร
...
ขณะเดียวกัน นายประเสริฐ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 ว่า เมื่อวาน (14 กรกฎาคม 2568) เป็นการรับสมัครวันแรก พรรคเพื่อไทยมีการเตรียมการในการหาเสียงในพื้นที่และการปราศรัย ส่วนการปราศรัยของพรรคภูมิใจไทยที่เปลี่ยนวาทกรรมจาก “ไล่หนูตีงูเห่า” เป็น “ไล่หนูซื้องูเห่า” นั้น นายประเสริฐ ระบุว่า การปราศรัยแบบนี้ดูค่อนข้างที่จะไม่ตรงข้อเท็จจริง ซึ่งตนก็ติดตามการปราศรัยเมื่อวานนี้ วาทกรรมไล่หนูตีงูเห่าเป็นตำนานของพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ประโยคที่บอกว่าซื้องูเห่าตนก็ยังไม่เข้าใจว่าจะสื่อถึงอะไร เพราะการเมืองอย่างเรื่องการโหวตในสภาฯ ก็เป็นเรื่องเอกสิทธิของ สส. ซึ่งการกล่าวของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คงจะสื่อถึงสมาชิกพรรคบางคนที่มีการโหวตแปลกไปจากสมาชิกคนอื่น
เมื่อถามว่ากังวลเรื่องเสียงหรือความนิยมในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ หรือไม่ เพราะเป็นพื้นที่ที่ติดชายแดน เนื่องจากเรื่องชายแดนที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ ระบุว่า พื้นที่เดิมก็เป็นของพรรคเพื่อไทย และเราก็ชนะการเลือกตั้งมาเมื่อครั้งที่แล้ว เพราะฉะนั้นตนคิดว่าการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนให้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่ถูกต้อง หากได้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ก็คิดว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด
สำหรับกรณีที่เมื่อวานนี้พรรคภูมิใจไทยขึ้นปราศรัยและช่วงหนึ่งกล่าวว่า ถ้าคนศรีสะเกษไม่อยากมีกรรมต่อ ขอให้เทคะแนนมายังฝั่งพรรคภูมิใจไทยนั้น นายประเสริฐ มองว่าก็เป็นเทคนิคการหาเสียง และอย่างที่ตนบอกว่า อยู่พรรคภูมิใจไทยมีตำแหน่ง อยู่พรรคเพื่อไทยก็มีตำแหน่งเหมือนกัน จึงมองว่าที่กล่าวมานั้นไม่จริง
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ในอนาคต นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทีมยุทธศาสตร์ของพรรคว่าจะประเมินสถานการณ์อย่างไร ส่วน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมหาเสียงด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ตนไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับทีมยุทธศาสตร์ เพราะการหาเสียงต้องเป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือผู้ช่วยผู้สมัครเท่านั้น
สำหรับความคาดหวังในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ครั้งนี้เป็นอย่างไร นายประเสริฐ ระบุ หวังว่าจะชนะการเลือกตั้งเพราะเป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว และผู้สมัครเองก็มีความผูกพัน อดีต สส.ของเราที่เสียชีวิต (นายอมรเทพ สมหมาย) ก็เป็นที่รักและทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และครอบครัวของเขาก็ทำงานทางด้านการเมืองมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นภรรยา รวมถึงลูกสาวก็ช่วยเหลืองานพ่อมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่พรรคภูมิใจไทยพยายามบอกว่าเป็นการขายชาติในส่วนเรื่องของคลิปเสียงที่นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับ สมเด็จฮุน เซน นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็ขอให้อย่าเป็นในลักษณะของการใส่ร้าย เพราะว่า กกต. ในการเลือกตั้งก็มีแนวปฏิบัติอยู่แล้ว การปราศรัยก็ขอให้อย่าเป็นไปในทางใส่ร้ายและทำให้ประชาชนเข้าใจผิด เพราะเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการที่นายกรัฐมนตรีกำลังทำคำชี้แจงต่อศาล เพราะฉะนั้นเวลาพูดเรื่องนี้พูดอะไรต้องระวัง.