“หมอมิ้ง” เผย นายกฯ กำลังเตรียมคำชี้แจง หากไม่ทันต้องขอขยายเวลาออกไป ยืนยัน “แพทองธาร” มีเจตนาบริสุทธิ์ หวังรักษาผลประโยชน์ของชาติ ตามที่ “ทักษิณ” เล่า ลั่นพร้อมเป็นพยานในชั้นศาลหากจำเป็น


วันที่ 14 ก.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีต่อศาลรัฐธรรมนูญออกไปอีกจากที่ศาลกำหนดให้ส่งภายใน 15 วันว่า ตอนนี้กำลังเตรียมการอยู่ หากทำไม่ทันก็คงขอขยายเวลาออกไป ส่วนจะให้นายวิษณุ เครืองาม มาช่วยดูหรือไม่นั้น วันนี้ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน ที่ปรึกษากฎหมายก็มีข้อปรึกษาและข้อแนะนำดีๆ เรารับฟังหมด ซึ่งทีมกฎหมายก็มีทีมของนายกรัฐมนตรีอยู่ และจะใช้ความเป็นจริงเจตนาที่ต้องการจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นข้อโต้แย้ง ซึ่งตนเองคิดว่าจะต้องสื่อสารกันให้ชัดเจน แม้กระทั่งกระบวนการทำ ที่ผ่านมาเราถูกเขาใช้ประโยชน์จากวิธีการต่างๆ ด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม อย่างการเอาคลิปเสียงคุยกันส่วนตัวมาเผยแพร่ แต่หากฟังในเนื้อหาก็จะเห็นว่าเจตนาทั้งหมดเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ โดยวิธีการสื่อสารกับคนที่ไม่ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลด้วยซ้ำ

ยัน “ฮุนเซน”วางแผนอัดคลิป

เมื่อถามถึงการพูดของนายทักษิณ ชินวัตร บนเวที Exclusive talk ผ่าทางตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ชี้แจงว่านางสาวแพทองธารสนทนากับสมเด็จฮุนเซนด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์และถูกวางแผนเพื่อที่จะบันทึกเสียง ซึ่งจะใช้เหตุผลนี้เป็นข้อโต้แย้งกับศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนเองอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีถูกติดต่อมาและฝั่งนั้นเลื่อนนัดมา 3 ครั้ง นายกรัฐมนตรีก็ไม่สบายใจที่จะต้องคุย เลยติดต่อตนเองมาและก็ได้เชิญนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในตอนนั้นไปด้วย นั่งรอเขาติดต่อ ระหว่างเจรจานายเคลียง ฮวด ล่ามแปลภาษาซึ่งเป็นนายกเทศมนตรี เป็นรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ก็บอกว่าตัวเขาไม่ได้อยู่กับสมเด็จฮุนเซน ขอหารือกับสมเด็จฮุนเซนก่อน  จึงมีการต่อสายไปให้ โดยที่ฝั่งเราก็นั่งรอแต่เขามีการถ่ายภาพของฮุนเซนส่งมาให้ เพื่อยืนยันว่านอนหลับอยู่ และได้บอกกลับไปว่าให้ปลุกขึ้นมา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เขาก็ไม่ได้ทำตาม และข้อสำคัญคือ สมเด็จฮุนเซนเป็นตัวแทนรัฐบาล

...

ฟังข้อเท็จจริงจะเห็นเจตนาดี

นายแพทย์พรหมินทร์ยังย้ำว่า ต้องเล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วจะเห็นเจตนา เพราะนายกรัฐมนตรีคำนึงถึงเรื่องภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศหรือกระทรวงกลาโหม แม้กระทั่งการรับสายโทรศัพท์ส่วนตัว ที่ไปต่อสายคุยกันหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว อยู่กันคนละทิศคนละทาง สมเด็จฮุนเซนต่อสายโทรศัพท์มาคุย ซึ่งปกติก็เคยคุยกันอยู่ แล้วการต่อสายครั้งนั้นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้รับปากอะไรเลยเพียงแต่บอกว่าจะไปหารือแล้วตอนเช้าจะกลับมาคุย ปรากฏว่าเขาเอาเรื่องในคลิปออกมาระหว่างที่นายกรัฐมนตรีและคณะกำลังนั่งประชุมกันที่บ้านพิษณุโลก

ปัดมองกองทัพฝ่ายตรงข้าม

เมื่อถามต่อว่าทั้งสามคนที่ไปนั่งรอโทรศัพท์พร้อมกับนายกรัฐมนตรีพร้อมจะเป็นพยานในศาลหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์กล่าวว่าหากมีความจำเป็นจะต้องยืนยันว่าเราอยู่จริง และก็มีหลักฐานทุกอย่างครบว่าไปนั่งคุยเตรียมตัวกันที่ไหน มีพยานมากมาย “สำหรับเรา ยืนยันเจตนาและที่สำคัญการหารือใกล้ชิดกับผู้เกี่ยวข้องโดยตรงโดยเฉพาะกองทัพ ไม่ได้มีอะไรเป็นไปตามที่เขากล่าวหา” นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าว