จับชีพจรผู้กุมบังเหียนนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล “เพื่อไทย”หลังจากเกิดเหตุไม่คาดฝันจากเพื่อนเกลอแห่งกัมพูชาจนทำให้ลูกสาว “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องประสบชะตากรรมถึงขั้นอาจจะหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ออกมาเผยโฉมหน้าอีกครั้งด้วยลีลาแบบเดิมๆ เพราะติดนิสัยเคยชินคือยังอวดเก่งและเบ่งบารมีตามแบบฉบับ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่พยายามแสดงตัวว่าเหตุทั้งหลายที่เกิดขึ้นถ้ามี “เขา” อยู่สามารถแก้ไขได้หมด แม้กระทั่งปัญหาของประเทศไทยไม่ใช่แค่ “ลูกสาว” และ “รัฐบาล”เขาสั่งลุยสุดซอยแบบเดียวกับนิรโทษกรรมไม่มีผิดปัญหาขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชานั้นเขาไม่รู้ว่าเหตุมาจากอะไร เพราะเขากับ “ฮุน เซน” นั้นก็รักใคร่ชอบพอกันเหมือนญาติมานานแล้วแต่ทำไมต้องเกิดเหตุอย่างนี้ที่ทำให้ “ฮุน เซน” มีแต่เสียกับเสียไม่มีใครอยากคบด้วยแน่การทำกับลูกสาวของเขาอย่างนี้เขาไม่ชอบใจอย่างยิ่ง โดยบอกว่าได้พูดคุยกับคนสนิทของ “ฮุน เซน” ว่าต่างก็มีลูกเป็นนายกรัฐมนตรีของแต่ละประเทศ แต่ทำอย่างนี้จะเปิดสงครามกันหรือเผยด้วยว่าลูกสาวของเขานั้นได้คุยกับ “ฮุน เซน” โดยมีคนอื่นร่วมอยู่ด้วยแต่ต้องรอถึง 3 ชั่วโมง อ้างว่านอนหลับที่ “แพทองธาร” คุยนั้นก็เป็นเทคนิคเพื่อหวังให้บรรยากาศดีขึ้น เพื่อนำไปสู่สันติภาพและความสงบจะได้ไม่ต้องรบกันทุกอย่างเป็นไปด้วยเจตนาดีไม่มีอะไรแอบแฝงด้วยจุดนี้จึงมั่นใจศาลจะเข้าใจและทำให้พ้นผิดได้ก็ไม่รู้ว่าศาลจะเข้าใจตรงกันหรือเปล่า!แน่นอนว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ หากศาลชี้ว่าผิดก็ไม่เป็นไร เพราะมีคนที่เข้ามาทำหน้าที่แทนอยู่แล้วคือ “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ “เพื่อไทย”ก็ว่าไปตามกติกาและมั่นใจว่าจะได้เป็นรัฐบาลไปจนกว่ามีการ “ยุบสภา” เพื่อเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากมีพรรคร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุนอยู่แล้วก็ว่ากันไปตามกติกา!แต่กติกาที่เป็นอยู่เวลานี้ไม่ค่อยจะดีนัก เพราะคนเขียนพยายามที่จะป้องกันตัวเขามากเพราะความกลัวทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรสักหน่อยมีแต่ความต้องการที่จะให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าและเทิดทูนสถาบันซึ่งมีบุญคุณต่อเขามากประเทศไทยเวลานี้มีปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนยากลำบาก แต่มั่นใจหากเขาอยู่จะสามารถแก้ไขได้เพียงแต่ต้องใช้เวลาสักหน่อยเนื่องจากปัญหาหนี้สินทั้งภาคประชาชนและภาครัฐอีกทั้งไม่มีเงินที่จะนำไปลุงทุนจึงต้องให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะประเทศจากตะวันออกกลางที่มีเงินจำนวนมากและพร้อมที่จะลงทุนเสียดายที่เขาเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ จึงไม่สามารถที่จะเจรจาให้เป็นเรื่องเป็นราวได้นอกจากนั้น ต้องแก้ไขปัญหานี้ซึ่งมีวิธีการอยู่แล้วและยังต้องเสริมด้วยโครงการโอทอป และซอฟต์พาวเวอร์ที่คนไทยสามารถทำได้ เพียงแต่รัฐต้องเอาจริงขึ้นเรื่องใหญ่อีกเรื่องคือการนำธุรกิจใต้ดินให้ขึ้นมาบนดิน ซึ่งจะทำเม็ดเงินมหาศาลขอให้ประชาชนใจเย็นๆให้ลูกสาวพ้นจากเสี้ยนหนามต่างๆ จะได้ทำหน้าที่ให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยไม่มีปัญหาเพราะปัญหามีไว้แก้ถ้าเขาอยู่ประเทศไทยไปโลดแน่!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม
