บาป 7 ประการ (Seven Deadly Sins) เป็นหลักคำสอนของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิคในอดีตกาลนมนานมาแล้ว

คำสอนนี้ มีวัตถุประสงค์เตือนมนุษย์ไม่ให้ทำตามสัญชาตญาณของตนมากจนเกินไป ไม่ใช่นึกอยากจะฟาดปากใครสักคน ก็ฟาดมันซะเดี๋ยวนั้น หรือ อยากจะได้หญิงใดมาเป็นเมีย ก็ฉุดมันขึ้นคอนโดเพื่อจะบดขยี้เอาเธอมาปู้ยี้ปู้ยำอย่างไร้ศีลธรรมซะฉิบ…

อดีตกาลนานโพ้นจึงแบ่งบาปนี้ออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบที่ สามารถยกโทษให้ได้ และในแบบที่รุนแรงเกินกว่าจะปล่อยมันไป

ในต้นศตวรรณที่ 14 หลักคำสอนนี้เป็นที่นิยมในหมู่ศิลปิน หรือ แม้กระทั่งในปัจจุบัน ทำให้เกิดผลงานศิลปะมากมายที่สื่อถึงบาป 7 ประการ และแพร่หลายไปตามวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก

จนมีภาพเชิงศิลปะเปรียบเทียบหัวใจของมนุษย์ที่มีบาป 7 ประการอยู่ในตัวเองโดยแสดงในรูปของสัตว์ชนิดต่างๆ หมุนไปตามเข็มนาฬิกา 

เริ่มจาก...คางคก หมายถึง โลภะ, งู หมายถึง ความริษยา, สิงโต หมายถึง โทสะ, หอยทาก หมายถึง ความเกียจคร้าน , หมู หมายถึง ความตะกละ, แพะ หมายถึง ราคะ, และ นกยูง หมายถึง อัตตา หรือ ความเย่อหยิ่ง

ส่วนบาปทั้ง 7 ประการที่จะพูดถึง และนำมาเปรียบเทียบกันดังต่อไปนี้ คือ บาป 7 ประการของ “Uncle Hun" ซึ่งหมายถึง ลุง ฮุนเซน ผู้นำเบอร์ใหญ่สุดของ เขมร หรือ กัมพูชา ในปัจจุบัน 

ในฐานะเป็นตัวการใหญ่ของการยุยงปลุกปั้นให้ชนชาวเขมรพยายามแหย่หนวดเสือ แสดงอาการก้าวร้าวแก่ทหาร และคนไทย ด้วยการรุกล้ำผืนแผ่นดินไทยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง!

บาป 7 ประการของ ลุง ฮุน ประกอบไปด้วย

1. บาปที่มาจากการให้ทหารเขมรจำนวนหนึ่งแอบดอดเข้ามาขุดคูเลตซึ่งมีลักษณะเป็นสนามเพลาะ เพื่อใช้ในการฝังตัวของทหารยามเกิดการสู้รบกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ที่ผ่านมา ทำให้กองทัพภาคที่ 2 ของไทย ต้องนำกำลังทหารพร้อมอาวุธปืนใหญ่เคลื่อนที่ เข้าไปยังวารินชำราบ บริเวณช่องบกอันเป็นพื้นที่ที่ทหารเขมรรุกล้ำเข้ามา

...

เนื่องจากมีการดอดเข้ามาทำลายทรัพยากรไทย และรุกล้ำลากยาวเข้ามายังอาณาเขตไทยถึง 650 เมตร ทำให้ทหารไทยจำเป็นต้องทำการขับไล่ผู้รุกรานออกไป แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะทหารเขมรได้ทำปืนลั่นก่อน จึงได้เกิดการต่อสู้ขึ้น และในจำนวนนั้นมีทหารเขมรเสียชีวิตไป 1 นาย

ยังมีรายงานจากคนไทยในพื้นที่ด้วยว่า ทหารเขมรพยายามลักลอบเข้าไปยังพื้นที่ช่องบกมา 2 ครั้งแล้ว หนแรกก็เหมือนจะขุดคูน้ำ แต่เอาไปเอามากลายเป็นการขุดสนามเพลาะไป 

ส่งผลให้ในเวลาต่อมาทหารไทยได้เข้าตรึงพื้นที่ตลอดชายแดน ตาพระยา โคกสูง จ.สระแก้ว ไปจนถึงช่องบก อ.น้ำยืน ของ จ.อุบลราช ธานีอย่างเข้มงวด

เรื่องนี้ ทำให้ ลุง ฮุน ถึงกับออกมาแสดงความอหังการด้วยการปิดชายแดนไทย-เขมรทั้งหมด โดยอ้างว่าประเทศไทยรุกรานเขมรก่อน แต่ปิดจริงๆ เพียง 4 จุดเล็กๆ เท่านั้น แต่โวยวายกล่าวหาว่าไทยเป็นผู้ปิดด่าน 

ลุง ยังเล่นละครหลายฉากโจมตีประเทศไทย ด้วยการประกาศให้คนเขมรซึ่งเป็นแรงงานในไทย กลับบ้านก่อนที่จะโดนคนไทยไล่เตะออกไป และห้ามไม่ให้มีการดูหนังฟังเพลงจากไทย ไม่ให้ใช้สินค้าไทย แม้แต่พืชผักผลไม้ หนำซ้ำยังตัดไฟและอินเตอร์เน็ตเองจนคนเขมรเองก็งง 

ขณะที่ฝ่ายไทย ยังคงอดทนอดกลั้นต่อการกระทำของ ลุง ฮุน ต่อไป และดำเนินการเพียงช่วยดูแลการเข้าออกของคนเขมร และคนไทยตามเวลาเข้าออกที่กำหนด เท่านั้น

ลุง ฮุน สั่งการอีกครั้งให้ สถานีจำหน่ายน้ำมันของ บมจ.ปตท.ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ต่างๆ กว่า 180 แห่งของเขมร หยุดนำเข้าน้ำมันจากไทย แต่ให้ไปนำเข้าน้ำมันจากสิงคโปร์แทน ด้วยคาดหวังว่า บมจ.ปตท.จะต้องขาดทุนบักโกรกที่ไม่สามารถขายน้ำมันให้แก่เขมรได้…

แม้จะจัดเป็นบาปประการแรก แต่ช่างเป็นเรื่องน่าหัวเราะอย่างยิ่งของชาวเรา และชาวโลกที่ลุงไม่เคยรู้อะไรเลย นอกจากนั่งไถมือถืออยู่ในคฤหาสน์ใหญ่โต! 

2.บาปที่เกิดจากแรงทะเยอทะยานใน DNA เขมรแดงน่าจะทำให้ ลุง ฮุน ไม่คำนึงถึงความเป็นจริง และคุณธรรมในการได้มาซึ่งอาณาเขตของประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศไทย แม้จะมีการปักปันเขตแดนกันเป็นที่ชัดเจนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมเดิมของเขมรมาเป็นร้อยปีแล้วก็ตาม…

แต่ ลุง ฮุน ยังทำหนังสืออย่างเป็นทางการไปถึง ศาลโลก ที่ กรุงเฮก ขอให้ทบทวนการปักปันเขตแดนไทย-เขมรใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่อันเป็นที่ตั้งของปราสาทเมืองธม ปราสาทตาควาย และปราสาทเมืองโต๊ดในจังหวัดสุรินทร์ 

ลุง ฮุน อ้างโดยไม่ถาม เจ้าอาณานิคมเก่าอย่าง มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก่อนเลยว่า คืนให้ประเทศไทยไปนานแล้วจริงๆ หรือ?

เรื่องของเรื่อง ศาลโลกจึงไม่ยอมรับหนังสือที่ลุงส่งไป ส่วน พ่อนายมาครง ก็ทำในสิ่งตรงข้ามด้วยการขอให้ ลุง ฮุน กลับไปคืนปราสาทเขาพระวิหารแก่ประเทศไทยก่อน!

3.บาปของ ลุง ฮุน ข้อนี้คือทำให้ประเทศเขมรซึ่งมีประชากรราว 17 ล้านคน มีอาชีพหลัก และรายได้จากการเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมของโลกที่เต็มไปด้วยอาชญากรทางไซเบอร์ (สแกมเมอร์) ศูนย์กลางการพนันออนไลน์ระดับโลก และการฉ้อโกงยุคใหม่ของโลก รวมถึงการค้ามนุษย์ บ่อนพนันขนาดใหญ่ และอื่นๆ... 

สุดแท้แต่จะทำเงินให้ลุง และครอบครัวตระกูลฮุน สามารถรักษาเก้าอี้ผู้นำเขมรไว้ได้นานนับชั่วโคตร

จากรายงานของสหประชาชาติ และผู้ค้นคว้าวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งได้จัดทำรายงานเป็นรูปเล่มออกมา ระบุว่า ภัยจากอาชญากรรมในเขมร กระทำกันจนเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้เข้ากระเป๋าผู้นำประเทศมหาศาล

ถึงขนาดเปรียบเทียบว่ารายได้ที่เข้าไปยังเขมรทุกทิศทาง โดยเฉพาะจากประเทศไทยนั้นสูงถึง 60% ของจีดีพีเขมรในแต่ละปีทีเดียว 

กระนั้นก็ตามชนชาวเขมรจำนวนมากยังอพยพเข้ามาเป็นแรงงานในประเทศไทย และมีไม่น้อยที่เข้ามาเป็น “ขอทาน” 

4.บาปนี้คือเรื่อง ปลิ้นปล้อน กลับกลอก คบไม่ได้ ลุง ฮุน เอาเรื่องของ นายกฯอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร และอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร กับครอบครัวของพวกเขามากล่าวอ้างในลักษณะว่ามีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งกันในระหว่างครอบครัว

ขณะที่ในทางปฏิบัติ ลุง กลับหักเหลี่ยมโหดเพื่อนรักจาก ตระกูลชิน โดยไม่มีทีท่ารู้สึกผิดด้วยการเปิดคลิปเสียงที่หารือกันเป็นการภายในระหว่าง ลุง กับ นายกฯ อิ๊งค์ กรณีหาข้อยุติในความร้าวฉานชายแดนไทย-เขมร…

นี่แหละ คือเหตุผลที่คนไทยรับไม่ได้ และทำให้เธอถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซ้ำยังมีความเป็นไปได้ว่า เธออาจหลุดจากตำแหน่งก่อนเวลาอันควรอย่าง...เป็นการถาวรด้วย!!

คนไทยยังรับไม่ได้อีกเรื่องก็คือ ลุง ได้บังอาจกล่าวพาดพิงถึงพระเจ้าอยู่หัวของแผ่นดินไทยผู้ทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวเรา และก้าวล่วงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไทยในพระเจ้าอยู่หัวในหลายประการ …

เช่น อยากได้อดีตนายกฯลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี มาเป็นนายกฯแทน...ช่างเป็นการอาจเอื้อม ผิดจากสถานะไพร่ และข้าทาสบริวารที่ตน และครอบครัวดำรงอยู่เสียจริง

5. บาปแห่งการสร้าง Fake News...คนไทย และชาวโลก ต่างก็ได้ข้อสรุปชัดแจ้งว่า ความพยายามสร้างนิยายน้ำเน่าโกหกบิดเบือนและกล่าวหาประเทศไทยต่างๆ นานานั้น 

ท้ายที่สุด ลุง ฮุน กำลังเดือดร้อนหนักจากการตามไล่ขยี้ของตำรวจ และทหารฝ่ายไทยในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ในทุกหย่อมหญ้า เนื่องเพราะเป็นต้นเหตุล่อหลวงคนไทย และการลักพาตัวดาราจากจีนเข้าไปยังศูนย์กลางการก่ออาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองปอยเปต

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมาหมาดๆ นี่เอง พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(สอท.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่สอท.กระจายกำลังกันเข้าไปบุกที่พักของผู้เป็นบุตรสาวของท่อน้ำเลี้ยง ลุง ฮุน ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย สิริรวม 20 แห่งทั้งในกทม.สมุทรปราการ และชลบุรี 

บุตรสาวของท่อน้ำเลี้ยงที่ว่านี้ ได้สัญชาติไทย ทำให้สามารถซื้อบ้านอยู่อาศัยเป็นแหล่งพักพิง และสถานที่สำคัญเพื่อการพบปะกันระหว่างผู้มีอำนาจทั้งในไทย และที่มาจากเขมร รวมถึงกลุ่มคนจีนที่หนีการลงโทษจากทางการจีนออกมาก่ออาชญากรรมในไทย และร่วมกันปฏิบัติการตั้งแก๊งอาชญากรข้ามชาติในเขมร และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ

หลังจากที่แกะรอยในคดีภัยไซเบอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้ามานานหลายเดือน โดยพบว่า มีคนไทยจำนวนมากถูกหลอกลวงโดยวิธีการต่างๆ กระทั่งต้องสูญเสียเงินที่เก็บมาทั้งชีวิตไปมาก

มีการประเมินว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปต หลอกเงินคนไทยไปมากถึงปีละ 50,000 - 70,000 ล้านบาททีเดียว

เมื่อศาลไทยได้อนุมัติหมายจับตั้งแต่วันที่ 7 ก.ค.เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สอท.ก็สามารถระดมกำลังออกกวาดล้างท่อน้ำเลี้ยง และคนสนิทของ ลุง ฮุน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ใต้ร่มเงาประเทศไทยได้อย่างแนบเนียน ภายใต้แผนปฏิบัติการ “ทุบหม้อข้าว ลุง ฮุน” ได้สำเร็จ

สำหรับท่อน้ำเลี้ยง ลุง ฮุน ดั่งว่านี้ ได้แก่ 1.นายลี ยง พัต และ 2.นาย ก๊ก อาน ทั้งสองเป็นชาวเขมรเชื้อสายจีน ซึ่งนอกจากได้รับการแต่งตั้งจาก ลุง ให้มีตำแหน่งเป็น “ออกญา” แล้ว ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นวุฒิสมาชิกเขมรที่มี ลุง เป็นประธานสภาด้วย 

บุคคลทั้งสองเป็นเจ้าของตึก 4 แห่งในปอยเปต ได้แก่ คราวน์ คาสิโน ,เกนติ้ง คาสิโน และสำคัญมากก็คือ ตึก 18 ชั้น กับ ตึก 25 ชั้น ซึ่งมองเห็นได้จากฝั่งไทยว่า ใหญ่โตขนาดไหน 

โดยเฉพาะ ตึก 18 เคยมีคนไทยถูกหลอกไปเข้าร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วถูกบังคับกักขังให้ต้องใช้สแกมเมอร์หลอกลวงคนไทย ถ้าไม่ทำก็จะโดนทารุณกรรมต่างๆ นานา จนมีคนไทยโดดตึกเสียชีวิตมาแล้วหลายคน

สำหรับตำแหน่งที่ ลุง ฮุน แต่งตั้งให้ท่อน้ำเลี้ยงคนสนิททั้งสองเป็น “ออกญา” น่ะ จัดว่าเป็นบรรดาศักดิ์ของขุนนางชั้นสูงในระบบศักดินาโบราณสมัยอยุธยา ซึ่งช่วงนั้นเขมรยังคงเป็นทาสอยู่ บรรดาศักดิ์ชั้นนี้มีศักดิ์สูงกว่า “พระยา” และ เทียบเท่ากับตำแหน่งอธิบดี หรือปลัดกระทรวงในระบบราชการปัจจุบัน

เช่นนี้ ก็หมายความว่า ลุง ฮุน แต่งตั้งขุนโจร หรือเจ้าพ่อแก๊งอาชญากรรมทางไซเบอร์ และบ่อนพนันโลก ให้เป็นถึง ปลัดกระทรวง หรือ อธิบดีล่ะซี…

ฉะนั้น จะเชื่อได้อย่างไรว่า รัฐบาลเขมร ที่มีตระกูลฮุนอีกคนเป็นนายกรัฐมนตรี จะบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้บาป หรือรอยแปดเปื้อน สำคัญก็คือ ประเทศไหน จะฟังมหาโจรกันเล่า?

6. ก่อนจะไปถึงบาปข้อสุดท้าย พ่อลูกตระกูลฮุน ได้ร่วมกันออกประกาศเรียกแรงงานเขมร และชาวเขมร รวมถึงแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติทั้งหลายกลับประเทศเป็นการด่วน เพื่อสร้างความปั่นป่วนอย่างแท้จริงให้แก่ประเทศไทยในความพยายามพลิกฟื้นการลงทุนภาครัฐอีกครั้งหลังมีการปรับครม.ใหม่

อย่างไรก็ตาม สองพ่อลูกตระกูลฮุน ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะดูแลแรงงานเขมร หรือพ่อค้าแม่ขายชาวเขมรให้มีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่แร้นแค้นฝืดเคืองได้อย่างไร? 

นอกจากแค่มีเงินก้นถุง และข้าวของเครื่องใช้บางอย่างพร้อมรถส่งกลับบ้านเท่านั้น ที่ร้ายกว่านั้น ก็คือ ไม่มีแม้แต่ยารักษาโรคใส่ถุงก้อปแก็ปไปให้ด้วย

ข้อนี้จัดเป็นบาปกรรมขั้นหนักหนาสาหัส โทษฐานหลอกคนเขมรให้กลับบ้าน โดยไม่มีงานทำรองรับ นอกจากให้พวกเขาไปอดตายกัน โดยที่หมู่เฮาไม่มีโอกาสได้รับรู้หรอกว่าพ่อลูกตระกูลฮุนจะยอมลดความตระหนี่ของพวกตนลง โดยการหันมาแบ่งปันความร่ำรวยจากคฤหาสน์หรูหรา และใหญ่ยักษ์ให้กับคนเขมรผู้ยากจนข้นแค้นได้หรือไม่ และมากน้อยเพียงใด?

7. หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.ระดมกำลังเข้ากวาดล้างท่อน้ำเลี้ยง และคนสนิท ของ ลุง ในประเทศไทยกันขนานใหญ่ 

ลุง ฮุน ได้โพสต์ FB ส่วนตัวว่า ถ้า รัฐบาลไทยจะกวาดล้างจับกุมคนนสนิทของเขา ก็ต้องกวาดจับเอา อดีตนายกฯทักษิณ กับครอบครัวชินวัตร เข้ากรงไปด้วยเพราะอดีตนายกฯทักษิณ สนิทเป็นการส่วนตัวกับเขา...เอ๊ะ ยังไง 

ถ้าเช่นนั้น การที่ ลุง มือลั่น แชร์ภาพวาบหวิวเซ็กซี่จัดเต็มของ“เร ลิล แบล็ค” อดีตดาว AV ในฐานะคนชอบกันวันก่อน เราก็อาจจัดเธอคนนี้เข้าไปอยู่ในลิสต์คนสนิท หรือท่อน้ำเลี้ยงหัวใจของ ลุง ด้วยอีกสักคนได้หรือไม่

บาปข้อนี้จะเปรียบเทียบได้กับ คางคก หมู หรือ แพะ ดีล่ะ...อ้อ.แล้วเมียลุง เค้ารู้รึเปล่า!!!