“อนุทิน” บอกยุคใครยุคมัน 2 อธิบดีมหาดไทยถูกโยกเข้ากรุ ยันผลงานดี เมินถูกโยกปมเด็กบุรีรัมย์ ด้าน “กรวีร์” ปธ.กมธ.การปกครอง แคลงใจสั่งย้ายข้าราชการระดับสูง เป็นประเด็นการเมืองหรือไม่


เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ถึงกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งโยกย้าย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงษ์ จากอธิบดีกรมการปกครอง และนายนฤชา โฆษาศิวิไลย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงทั้ง 2 ราย ว่า เป็นอำนาจของรัฐมนตรี ตนก้าวก่ายไม่ได้ ยุคใครยุคมัน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงผลงานของทั้ง 2 อธิบดีดังกล่าวเป็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ผลงานดีครับ” เมื่อถามย้ำมีการมองว่าเป็นเด็กจากบุรีรัมย์ นายอนุทิน ตอบว่า ใครพูดก็พูดกันไป แต่เขาคือข้าราชการของกระทรวงมหาดไทย ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทซื่อสัตย์สุจริต

...

ทางด้าน นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งโยกย้าย ข้าราชการระดับสูง ว่า เป็นอำนาจที่ทางรัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ แต่อดตั้งคำถามไม่ได้ว่าท่านเพิ่งจะมีการโปรดเกล้าฯ และเพิ่งได้รับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้นสัปดาห์ก็โยกย้ายตำแหน่งอธิบดี ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ ตรงนี้รัฐมนตรีต้องเป็นคนตอบคำถาม

นายกรวีร์ ระบุต่อไปว่า รัฐมนตรีบอกว่าเป็นเรื่องของการทำงาน คงต้องให้รัฐมนตรีเป็นผู้พิสูจน์ว่าหลังจากที่โยกย้ายแล้ว การทำงานจะดีขึ้นจริงหรือไม่ ทั้งเรื่องปราบปรามยาเสพติด หรือการผลักดันนโยบายต่างๆ ของกระทรวงมหาดไทย เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าไว้หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่สุดมองถึงฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะตัวรัฐมนตรี การปรับโยกย้ายในเรื่องแบบนี้เป็นสัญญาณที่ส่งผลกระทบโดยเฉพาะข้าราชการระดับสูง อยากให้เป็นการโยกย้ายด้วยความเป็นธรรม และประสิทธิภาพในการทำงาน ไม่ใช่ตอบสนองหรือล้างแค้นทางการเมือง เพราะอำนาจอยู่กับเราไม่นาน

เมื่อถามอีกว่าการปรับตำแหน่งลักษณะนี้จะเป็นการบั่นทอนข้าราชการหรือไม่ นายกรวีร์ กล่าวว่า ต้องส่งกำลังใจให้กับข้าราชการ การโยกย้ายเป็นเรื่องปกติ และตนเชื่อว่าพี่น้องข้าราชการทุกคนเข้าใจได้ แต่ต้องเป็นธรรมและสามารถตอบคำถามทั้งต่อข้าราชการที่ถูกโยกย้ายและประชาชนได้ ส่วน กมธ.การปกครองจะดำเนินการตรวจสอบหรือไม่ คงต้องคุยกันอีกครั้งว่ามีประเด็นหรือไม่ และรัฐมนตรีได้อธิบายชัดเจนเพียงพอหรือไม่.