รมว.พาณิชย์ ยืนยันรัฐบาลพยายามเจรจาภาษีสหรัฐฯอย่างเต็มที่ เตรียมมาตรการช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบไว้แล้ว เชื่อในข่าวร้ายยังมีข่าวดี มีเวลาอีก 3 สัปดาห์โน้มน้าวลดภาษี ยอมรับหาตลาดใหม่ไม่ง่าย ขอเน้นนโยบายไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทยก่อนเป็นอันดับแรก


วันที่ 8 ก.ค. 2568 ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์กรณีสหรัฐอเมริกาส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากไทย 36% ว่า การเจรจาเรื่องภาษี ตนมองว่าถึงอย่างไรก็คงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องมีผลกระทบแน่ จึงได้เตรียมการดูแลผู้ประกอบการเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายเล็กไปจนถึงรายใหญ่ ตอนนี้ได้ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ประเมินไว้ในหลายแนวทาง ตั้งแต่แย่ที่สุดลดหลั่นไปเรื่อยๆ โดยได้เตรียมมาตรการให้ soft loan แก่ผู้ประกอบการเอาไว้แล้ว ขณะเดียวกันกระทรวงฯต้องหาตลาดใหม่ๆให้ผู้ประกอบการ ยังมีอีกหลายตลาดที่เป็นตลาดใหญ่นอกเหนือจากสหรัฐ มีการเจรจากันอยู่

นัดเคาะมาตรการ 11 ก.ค.นี้

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เร่งรัดคือสินค้าสวมสิทธิ์ที่จะส่งผลกระทบ ซึ่ง รมว.คลังได้เชิญประชุมวันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อ 13.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้มอบหมายให้นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ ไปหารือถึงการหามาตรการต่างๆร่วมกัน จากนั้นจะเชิญรัฐมนตรีทั้งหมดมาประชุมกันในเช้าวันที่ 11 ก.ค.นี้อีกครั้งเพื่อสรุปมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ  อย่างไรก็แล้วแต่ตนยังมองในแง่ดีว่าหนังสือของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ส่งถึงประเทศไทย น่าจะออกมาก่อนที่คณะเจรจาของไทยปรับเงื่อนไขข้อเสนอยื่นเข้าไปใหม่ จึงยังมีช่วงเวลาตั้งแต่วันนี้จนถึง 1 สิงหาคม 2568 ที่อาจจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมก็ได้ ขณะนี้กำลังให้ไปดูว่าจะหาทางช่วยให้กระบวนการต่างๆเจรจาไปด้วยดีได้อย่างไรบ้าง

...

ยันรัฐบาลทำเต็มที่

นายจตุพร ระบุด้วยว่าเรื่องนี้อยากให้มองทุกมิติ เพราะจะมีทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม และพาณิชย์ อยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาล ทุกกระทรวงพยายามกันอย่างเต็มที่ “ผมรู้ว่าเมื่อสหรัฐประกาศแบบนี้ ย่อมทำให้สังคมเกิดแพนิก แต่เราพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด เมื่อคืนไม่ได้นอน เพราะรอหนังสือจากสหรัฐฯ”

หาตลาดใหม่ไม่ง่าย ต้องทำควบคู่

เมื่อถามว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะไม่ง้อตลาดสหรัฐฯ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การหาตลาดใหม่ไม่ใช่หากันได้ง่ายๆ ทุกอย่างต้องทำควบคู่กันไป จะบอกว่าไม่ง้อสหรัฐฯเลยคงเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ต้องดูสินค้าเป็นชนิดๆไปว่าอะไรกระทบมาก อะไรกระทบน้อย เมื่อถามว่าเท่าที่ครม.ดูกันคร่าวๆ ไทยต้องเจอกับภาษี BRICS อีก 10% นอกเหนือจาก 36% ด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า อันนั้นก็อีกส่วนหนึ่ง ไม่ได้เกิดเฉพาะประเทศไทย แต่โดนกันทั่วโลก ดังนั้นไทยก็ต้องหาทางแก้ปัญหา

เชิญนายธนาคารหารือด่วน

“ผมมองว่าไทยยังมีความเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรมอาหาร ครัวโลก ภาคเกษตรกรรม ทำไมผมต้องเน้นนโยบาย ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย ก็เพราะต้องการช่วยสนับสนุนให้คนของเรามีความแข็งแกร่งก่อน แน่นอนว่าผู้ประกอบการส่งออกส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ตนจะพยายามดูแลผู้ประกอบการให้ดีที่สุด วันนี้จะเชิญนายธนาคารมาหารือว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการคนไทยอย่างไรได้บ้าง” นายจตุพร กล่าวและว่า ทุกมิติ รัฐบาลพยายามเข้าไปแก้ไขอย่างเต็มที่และดีที่สุด ตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าการเจรจาอีกครั้ง สหรัฐจะให้เราเข้าพบหรือไม่ แต่ฝ่ายไทยก็ได้ส่งเอกสารไปให้เขาแล้ว อยากขอให้ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลด้วย

ในข่าวร้ายยังมีข่าวดีให้หายใจ

เมื่อถามว่าพอจะพูดได้หรือไม่ว่าสินค้าตัวไหนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นายจตุพร กล่าวว่า หากโดนก็โดนกันถ้วนหน้า ข่าวร้ายคือจดหมายสหรัฐฯคิดภาษีนำเข้าจากไทย 36% แต่ก็มีข่าวดีคือยังมีเวลาอีก 3 อาทิตย์ จึงต้องทำการบ้านอย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนงบประมาณปี 2569 หรือไม่ ตรงนั้นเป็นภาพใหญ่ จะปรับอะไรคงลำบาก แต่เบื้องต้นสามารถของบกลางมาช่วยตรงส่วนนี้ได้ก่อน