“จิรายุ” เผยข้อเสนอทางการค้าที่ไทยยื่นรอบใหม่แก่สหรัฐฯ เล็งเปิดตลาดให้สินค้าเกษตรและพลังงาน หวังลดอัตราภาษีนำเข้า ยันรัฐบาลยึดผลประโยชน์ชาติเป็นหลัก เจรจาอย่างมืออาชีพ ก่อนถึงเดดไลน์ “ภาษีทรัมป์”


เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 7 กรกฎาคม 2568 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอฉบับปรับปรุงใหม่ต่อสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ และลดการเกินดุลการค้าของไทยต่อสหรัฐฯ ลงให้ได้ถึงร้อยละ 70 ภายในระยะเวลา 5 ปี คาดว่าจะสามารถสร้างความสมดุลทางการค้าได้ภายใน 7-8 ปี ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่เคยเสนอไว้ว่าจะลดดุลการค้าภายใน 10 ปี

ข้อเสนอทางการค้าที่ไทยยื่นรอบใหม่แก่สหรัฐฯ

ทั้งนี้ ข้อเสนอฉบับใหม่ของไทยมีรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น ทั้งในด้านการเปิดตลาดสำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมจากสหรัฐฯ การเพิ่มการจัดซื้อพลังงานและเครื่องบินจากบริษัทของสหรัฐฯ โดยในส่วนของการเปิดตลาดนั้น ไทยได้เน้นสินค้าในกลุ่มที่ยังขาดแคลนหรือผลิตไม่ได้ในประเทศเพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกัน ยังได้เสนอการลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี และปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการค้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนในการจัดซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากโครงการก๊าซในรัฐอะแลสกา ซึ่งบริษัทเอกชนของไทยอยู่ระหว่างเจรจาซื้อ LNG ปริมาณสูงเป็นระยะเวลา 20 ปี ขณะเดียวกัน บริษัทไทยด้านเคมีภัณฑ์หลายแห่งให้คำมั่นว่าจะนำเข้าก๊าซอีเทนจากสหรัฐฯ มากขึ้น นอกจากนี้สายการบินของไทยยังได้ส่งสัญญาณแผนการจัดซื้อเครื่องบินโบอิ้ง (Boeing) ในจำนวนสูงขึ้น

...

เน้นย้ำรอบคอบ ครอบคลุม เน้นผลประโยชน์ร่วมกัน

“รัฐบาลมุ่งมั่นปกป้องเศรษฐกิจไทยที่อาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ที่ผ่านมารัฐบาลโดยทีมไทยแลนด์ได้หารือร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภายในประเทศและจากฝั่งสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดทำข้อเสนอที่รอบคอบ ครอบคลุม และเน้นผลประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ รัฐบาลขอยืนยันว่าจะเดินหน้าเจรจาอย่างมืออาชีพ และเร่งรัดเพื่อให้ได้ข้อสรุปจากสหรัฐฯ ก่อนครบกำหนดระยะเวลาของการชะลอมาตรการภาษีของสหรัฐฯ”

ทั้งนี้ รัฐบาลยังเตรียมมาตรการช่วยเหลือให้กับภาคธุรกิจและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีในครั้งนี้ หากสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บจากไทย หรือออกมาตรการอื่นๆ ที่มากกว่าที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น.