พรรคเพื่อไทย ยัน ครม.ชุดใหม่ พร้อมทำงานขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ซัดปมเสนอนับองค์ประชุมสภาฯ ในวันแรก ตีรวนมากเกินไป ย้ำ ไม่มียุบสภา รัฐบาลอำนาจบริหารต่อได้ ไม่สะดุด แม้นายกฯ ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวประจำสัปดาห์ว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มีข่าวเรื่องการตั้งคำถามเสถียรภาพรัฐบาล การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ว่ามีกรอบอำนาจมากแค่ไหน รวมถึงเรื่องการนับองค์ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ความเชื่อมั่นในเสถียรภาพรัฐบาล และมีการเรียกร้องให้ยุบสภา

นายจิรวัฒน์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. ได้มีการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งการปรับ ครม. เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีได้เลือกคนที่มีความสามารถ มีความรู้ ประสบการณ์ที่หลากหลาย ตนในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกท่านที่ได้ทำงานจะขับเคลื่อนงานรัฐบาล และนำนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ให้เกิดเป็นรูปธรรมให้มากที่สุด อย่างกระทรวงมหาดไทยได้มีการบุกจับทะลายบ่อนกลางกรุง จับนักเล่นการพนันกว่า 70 คน จะเห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง และพร้อมที่จะทำงานปราบบ่อนการพนัน ยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเรื่องกัญชา ซึ่งทันทีที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ รัฐมนตรีทุกท่านเข้าพร้อมทำงาน

ส่วนเรื่องการนับองค์ประชุมเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นการเปิดประชุมวันแรก มี สส.จากพรรคการเมืองเสนอให้มีการนับองค์ประชุม ตนขออธิบายว่าสถานการณ์ในวันนั้นว่า รัฐมนตรีที่เป็น สส. เพิ่งถวายสัตย์ปฏิญาณเสร็จสิ้น และกำลังเดินทางมา ทำให้รัฐบาลหรือแม้แต่ สส.เองก็มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 และ กมธ.ต่างๆ เมื่อมีการเสนอนับองค์ประชุม

...

ทั้งนี้ อยากตั้งคำถามว่าเจตนาคืออะไร ซึ่งไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพราะในช่วงปิดสมัยประชุมก็ไปลงพื้นที่ และนำปัญหาของพี่น้องเข้ามาสู่กลไกของสภาฯ ซึ่งการตีรวนแบบนี้เป็นเรื่องการเมืองมากเกินไป ส่วนการรักษาองค์ประชุม เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลจะต้องร่วมมือกัน ในส่วนพรรคเพื่อไทยในการประชุมพรรคที่ผ่านมาได้มีการแจ้งองค์ประชุมแล้ว

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า อำนาจรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเรื่องการยุบสภา อยากให้รอฟังทางโฆษกรัฐบาล อาจมีการตีความ ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุบสภานั้น พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีเหตุอะไรต้องยุบสภา ขณะนี้สภาฯ อยู่ในระเบียบวาระ และมีสิ่งที่สำคัญอย่างร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญ และกฎหมายนิรโทษกรรม กฎหมายอื่นที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอ ต้องเร่งขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์

สำหรับเรื่องการนำเสนอนายกรัฐมนตรีในสถานการณ์ชั่วคราว ไม่ว่าจะเงื่อนไขอะไรต่างๆ ปัจจุบันการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องมาจากรายชื่อของพรรคการเมืองที่เสนอไว้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดังนั้น แม้จะมีข้อเสนอบางท่านว่านายกรัฐมนตรีจะมาจากบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง และจะมีการยุบสภา ดูจะเป็นการเร่งร้อนและเป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมือง

รัฐบาลมีเวลาอีก 2 ปีที่จะนำงบประมาณมาดูแลพี่น้องประชาชน พัฒนาโครงการลงทุนใหญ่ๆ ตนเองเชื่อว่า 2 ปีรัฐบาลจะสร้างความเชื่อมั่น แม้ขณะนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ แต่เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณต่อนายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็มีอำนาจเต็มทุกประการ จึงเชื่อว่าไม่มีอะไรสะดุด ยังเดินไปได้ตามปกติ

นายจิรวัฒน์ ยังยืนยันในเสถียรภาพรัฐบาลอีกครั้งภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มีความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อที่จะรับผิดชอบร่วมกันในฐานะ ครม. และพรรคต่างๆ ที่มาลงเรือลำเดียวกันแล้ว ก็ต้องนำนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภามาปฏิบัติจริงมากที่สุด เพื่อประโยชน์ของคนไทย.