“จุลพันธ์” เผย สว. ไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ยืนยันรัฐบาลพร้อมแจง แต่ภูมิใจไทยยังรวม สส. ไม่ครบ 99 เสียง แจง ยินดีรับฟังผลนิด้าโพล พร้อมปรับงานให้ดีขึ้น ชี้ หากสำรวจหลังนายกฯ ชี้แจงแล้ว ผลจะดีกว่านี้แน่นอน

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 มิถุนายน 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวที่รัฐสภา ถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เตรียมจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ในส่วนของ สว. เคยมีการหารือเข้ามาจริง ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ไปพูดคุยกับทาง สว. แล้ว แต่วันนั้นเรื่องคลิปเสียงสนทนาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังมีความละเอียดอ่อน สว. จึงตัดสินใจไม่ยื่น ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรนั้นคงมีการตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้ การยื่นอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 จะต้องมีการมาหารือกันอีกครั้งในเรื่องกรอบวันเวลา ซึ่งหากตกลงได้ข้อสรุปอย่างไร และมีการยื่นมาอย่างถูกต้อง รัฐบาลก็มีความพร้อมที่จะเข้าไปชี้แจง

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องที่มีความอ่อนไหวโดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา อาจต้องใช้กลไกอื่นของสภาฯ ในการพิจารณา เช่น การประชุมลับ ขณะที่การจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ ครม. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ของพรรคภูมิใจไทยนั้น ได้แจ้งมาแล้ว แต่คงต้องรอดูว่ากระบวนการที่ยื่นมานั้นจะครบถ้วนหรือไม่ และต้องดูเรื่องจังหวะเวลา สัปดาห์นี้จะเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญ ต้องดูด้วยว่ามีการเข้าชื่อครบ 99 คนหรือไม่ เข้าใจว่ายังเข้าชื่อกันไม่ครบ หากเป็นเช่นนี้คงจะไม่ได้อภิปราย

...

อีกทั้งประชาชนอาจจะเข้าใจว่าเพิ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจมา จุดประสงค์ของพรรคประชาชนอาจจะไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โจทย์มันต่างกัน เพราะเวลาที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 นั้น นายกรัฐมนตรีจะไม่มีอำนาจในการยุบสภา ต้องรอให้ลงมติเสร็จสิ้นก่อน ถือเป็นสิทธิของแต่ละฝ่ายที่สามารถทำได้และต้องไปพูดคุยกันเอง แต่รัฐบาลยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น ถือเป็นเรื่องดีจะเป็นเวทีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจง ทั้งนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีและ ครม. พร้อมจะชี้แจง แต่ต้องดูว่าพรรคภูมิใจไทยจะรวบรวมเสียงได้ครบหรือไม่

ขณะเดียวกัน นายจุลพันธ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผลสำรวจของนิด้าโพล ที่คะแนนนิยมของ น.ส.แพทองธาร ตกไปอยู่อันดับที่ 5 และคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยตกไปอยู่อันดับที่ 3 ว่า โพลอยู่ที่ช่วงระยะเวลา ซึ่งวันที่ทำโพลอยู่ในช่วงที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาของ น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน หลุดออกมา แน่นอนว่าอารมณ์ของประชาชนอ่อนไหว ฉะนั้น เรารับไว้เป็นข้อคิดและข้อสังเกตเพื่อที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและดีขึ้น แก้ไขปัญหาให้เต็มกำลังความสามารถ แต่ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งใดๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นโพลแล้วก็จะมีความห่วงใยพรรคของตัวเองเป็นหลัก ตนย้ำว่าเรายินดีรับฟัง ตระหนักรู้ และต้องมาปรับการทำงานของเราให้ดีขึ้น เชื่อว่าหากทำโพลในช่วงที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงแล้ว ผลโพลจะดีกว่านี้แน่นอน.