“วิสุทธิ์” บอกไม่น่าตกใจ ผลโพล “นายกฯ อิ๊งค์” หล่นไปอยู่อันดับ 5 มั่นใจ ครม.ใหม่ เดินหน้าแก้ปัญหากู้คะแนนนิยมดีขึ้น เย้ย ม็อบไล่รัฐบาลจุดไม่ติด พวกขึ้นเวทีอยากกลับมามีตำแหน่งทางการเมือง ใช้วิธีโคตรโบราณ

วันที่ 29 มิถุนายน 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีนิด้าโพล เปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนที่คะแนนนิยม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หล่นไปอยู่อันดับ 5 และคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย ตกไปอยู่ที่ 3 ว่า ไม่น่าตกใจ เป็นผลพวงจากคลิปสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่บางกลุ่มยังไม่เข้าใจว่าเป็นเทคนิคทางการทูต แต่ประชาชนต่างจังหวัดส่วนใหญ่ยังเข้าใจการทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

นายวิสุทธิ์ ระบุต่อไปว่า ผลโพลที่ออกมาสะท้อนอารมณ์ประชาชนที่สอบถามความรู้สึกในช่วงขณะนั้น แต่อีก 3-4 วันต่อมาอาจเปลี่ยนแปลงได้ หลังจากรัฐบาลได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบข้อมูลมากขึ้น หลังจากนี้เป็นหน้าที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ต้องทำงานแก้ปัญหาเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้าน มั่นใจว่าคะแนนนิยมนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยจะกลับมาดีขึ้นแน่นอน ไม่ใช่ว่าจะเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ ควรให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี สส. พรรคเพื่อไทยยังมั่นใจในคะแนนพรรคว่ายังมั่นคงอยู่

ส่วนการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 นายวิสุทธิ์ ระบุว่า คนขึ้นเวทีมีแต่คนหน้าเดิมๆ เป็นพวกขาประจำ แกนนำบางคนยังยุให้ทำรัฐประหาร มีที่ไหนทำกัน อยากให้ประเทศเกิดรัฐประหาร ใช้วิธีโคตรโบราณ พวกที่ขึ้นเวทีอยากกลับมาเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หรือมีตำแหน่งทางการเมือง หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้น เชื่อว่าม็อบไม่น่าจะจุดติด แม้แต่ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนยังคิดได้ ไม่เอาด้วยกับการรัฐประหาร อย่าไปตกใจมากมาย

...

ผู้สื่อข่าวถามต่อ หลังปรับ ครม. ยังมั่นใจหรือไม่รัฐบาลจะยังมีเสถียรภาพ จะไม่ถูกพรรคร่วมรัฐบาลกดดันการทำงาน ในช่วงที่มีเสียงปริ่มน้ำ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ทุกพรรคต้องขยันทำงานมากขึ้น เอาสภาฯ เป็นตัวตั้ง การประชุมสภาวันพุธ-พฤหัสบดีควรอยู่ที่สภาฯ ไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องนับองค์ประชุม ไม่ควรไปอยู่ตามสนามบินหรืออยู่ในพื้นที่ตัวเอง เพราะสภาฯ คือที่ทำงานของ สส. หากพรรคร่วมรัฐบาลใช้วิธีกดดันรัฐบาล จนต้องยุบสภาหรือรัฐบาลเจ๊ง โดยที่ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ยังไม่ผ่านวาระ 3 ยิ่งเป็นการทำร้ายประเทศ มั่นใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังมีเสถียรภาพ ไม่ขัดแย้งถึงขั้นนายกรัฐมนตรีต้องยุบสภาหรือลาออก.