“ชูศักดิ์ ศิรินิล” ขออย่าวิจารณ์ไปไกลปมศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุยังไม่เกิด ชี้ข้อสังเกตส่วนตัว มองคลิปเสียงแอบอัดผิดกฎหมายใช้เป็นพยานหลักฐานไม่ได้ เนื้อหายังไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม และยังไม่เกิดความเสียหายต่อประเทศ

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เมื่อเวลา 10.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หากวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมคลิปเสียง จะเปิดซักฟอกได้หรือไม่ ว่า ยังไม่อยากจะมองไปถึงขั้นนั้น ประเด็นนี้ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะสื่อวิจารณ์ไปไกลแล้ว ความเห็นตนคิดว่าวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ศาลจะรับเข้าพิจารณาหรือไม่ ยังไม่ทราบเลย เพราะเท่าที่ทราบคำแถลงของศาล มีวาระอื่นๆ ต้องพิจารณาอยู่ แต่สื่อก็ฟันธงกันไปแล้ว ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าหากพิจารณาแล้ว อาจจะรับหรือไม่รับก็ได้ แต่หากรับแล้วก็ต้องวินิจฉัยว่าจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการต่อเนื่องกัน ความเห็นตนในขณะนี้ ตัวเองมองด้วยใจเป็นกลาง มีข้อสังเกตส่วนตัว 2 ข้อคือ

ข้อ 1 พยานหลักฐานที่นำมาใช้กัน ถามว่าได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเกิดจากการแอบอัดคลิปซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้น ขอถามว่าตรงนี้ถือว่าผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือไม่ เพราะตนเห็นว่าผิด เพราะเจ้าตัวไม่ได้ยินยอม ซึ่งการที่เราจะเอาพยานหลักฐานประเภทนี้มาฟัง โดยเฉพาะศาลจะเอามาฟัง แถมยังไม่มีการแปลแบบเป็นทางการว่าเป็นอย่างไร ตนคิดว่า ต้องคิดหนักว่าควรหรือไม่ว่าศาลจะรับฟังพยานหลักฐานประเภทนี้หรือไม่

เมื่อถามว่า แต่นายกฯ ยอมรับเป็นคลิปจริง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ยอมรับก็ว่าไป แต่หมายความว่า หากจะยึดระบบศาล และกฎหมาย บอกว่าหลักฐานใดๆ ที่ได้มาโดยไม่ชอบ ศาลไม่รับก็มี

...

ส่วนข้อ 2 มองว่า ถ้าไปดูเนื้อหาแล้ว อะไรที่มันเข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์ สุจริตบ้าง ซึ่งมันก็ยังไม่มีที่เป็นรูปธรรม อะไรที่เข้าข่ายฝ่าฝืนจริยธรรม ตนเห็นว่ายังไม่มี เพราะไม่เข้าข่ายมาตรฐานจริยธรรมที่วางไว้

“ขอถามว่าทำให้ประเทศต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตย ดินแดนหรือไม่ ได้ประโยชน์อะไรส่วนตัวหรือไม่ ทำให้ประเทศต้องเสียหายหรือไม่ ซึ่งมันไม่มีอะไรเลย เพียงแต่สนทนากันเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน”

เมื่อถามว่า คลิปนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นที่เหมือนทำให้เราดูอ่อนข้อต่อกัมพูชา เพราะมีการวิจารณ์เรื่องการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองของนายกฯ ด้วย นายชูศักดิ์ ย้อนถามกลับว่า แล้วท้ายสุดเป็นอย่างไร สื่อเห็นหรือไม่ ขณะนี้ปิดด่านเต็มไปหมด ท้ายสุดก็ยังไม่เกิดอะไรที่เป็นรูปธรรมขนาดนั้น

เมื่อถามว่า คลิปเสียงจะถูกโยงว่าเป็นลักษณะสัญญาว่าจะให้หรือไม่ หลังนายกฯ ถามสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาว่าต้องการอะไร ให้บอก นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ให้อะไรละ ตนไม่เห็นว่าจะให้อะไรเลย กัมพูชายังไม่ได้อะไรเลย ตรงกันข้ามกลับโกรธเรามากขึ้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าเป็นความเห็นส่วนตัว และศาลรัฐธรรมนูญยังไม่รับพิจารณา ตนในฐานะนักกฎหมายก็วิจารณ์แบบนี้