“มนพร เจริญศรี” ชี้ พรรคภูมิใจไทยขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไม่เหมาะ เย้ย มีแค่ 69 เสียง เหน็บ เล่นบทนี้ฝ่ายค้าน หรือฝ่ายแค้น เผย รัฐบาลเลื่อนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ-สันติสุข ถกในสภาก่อน ย้ำไม่ได้ถอนร่าง พ.ร.บ.กาสิโน ดักทาง สว. เชื่อไม่โหวตคว่ำร่างฯ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

วันที่ 25 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังการเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ว่า ตนมองว่าการที่พรรค ภท. ระบุว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเวลาที่สภาฯ ยังไม่เปิดสมัยประชุมนั้น จากคนที่บริหารงานร่วมกันมา 2 ปี ตนก็งงเช่นกันว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเหมาะกับช่วงเวลานี้หรือไม่ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณางบประมาณปี 2569 อีกทั้งการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องใช้เสียง 1 ใน 5 ของ ส.ส.ที่มีอยู่ทั้งหมด 495 คน คือ 99 คน แต่พรรค ภท.มีอยู่ 69 คน

“ขอโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานก่อนได้หรือไม่ และหากพรรค ภท. จะอภิปรายรัฐบาลนี้ก็จะมีคำถามจากหลายคนว่าขณะที่ท่านบริหารกระทรวงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงศึกษาธิการ พวกท่านทำอะไรไว้ นี่คือสิ่งหนึ่งที่ดิฉันมองว่า ยังไม่มีความเหมาะสมที่จะมายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็เป็นสิทธิของท่าน ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะชี้แจง แต่อย่างไรก็ตามคงต้องมีการประชุมกันของฝ่ายค้านก่อน เพราะทางผู้นำฝ่ายค้านยังไม่ออกมาแถลงอะไรเลย พรรคผู้นำฝ่ายค้านคือพรรคประชาชนที่มี สส.ถึง 143 คน แต่พรรค ภท. มี สส. อยู่ 69 คน ย้ำว่าพรรคประชาชนยังไม่ออกมาชี้แจงเลยว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่” นางมนพร กล่าว

...

เมื่อถามว่า มองว่าพรรคประชาชน (ปชน.) จะเอาด้วยหรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ตนตอบแทนพรรค ปชน.ไม่ได้ แต่วันนี้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรคือพรรค ปชน. ไม่ใช่พรรค ภท.

เมื่อถามว่า ประเมินการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรค ภท.อย่างไรบ้าง นางมนพร กล่าวว่า คงประเมินไม่ได้ เพราะต้องให้เกียรติทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แต่ไม่แน่ใจว่าการที่พรรค ภท. ออกมาเช่นนี้จะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายแค้นกันแน่ ขณะที่ท่านยังไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเลยเพราะเพิ่งออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหยกๆ แต่กลับมายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ

รัฐบาลเลื่อนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษ-สันติสุข ถกในสภาก่อน

นางมนพร ยังกล่าวถึงกรณีรัฐบาลจัดลำดับกฎหมายเพื่อพิจารณาหลังการเปิดสมัยประชุมสภา 3 ก.ค.นี้ ว่า วันที่ 3 ก.ค. ตรงกับวันพฤหัสบดีเป็นการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ถามทั่วไป และกระทู้แยกเฉพาะ และในวันที่ 9 ก.ค. จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ซึ่งเดิมวาระของสภาฯพิจารณาเรื่องแรกคือ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต่อด้วยร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รวมประมาณ 4 ร่าง ซึ่งตลอดช่วงปิดสมัยประชุมสภา รัฐบาลได้สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจว่า มีเรื่องกาสิโนแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือคือ การจัดศูนย์แสดงสินค้า หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อความแข็งแรงของเศรษฐกิจในประเทศในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ โดยได้สื่อสารถึงนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล)ว่าเห็นควรที่จะเลื่อนร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ฯ ออกไปก่อน โดยจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ.สังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้ามาเป็นเรื่องแรก

ยันแต่เลื่อนร่าง พ.ร.บ.กาสิโน ไม่ได้ถอนร่าง

ส่วนกรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา เรียกร้องให้รัฐบาลถอดถอนร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกไปก่อนนั้น นางมนพร กล่าวว่า รัฐบาลมีการทบทวนและฟังเสียงประชาชนอยู่แล้ว อะไรที่ประชาชนแคลงใจ รัฐบาลต้องรับฟังเสียงสะท้อน และยอมรับว่า ตอนที่เราเสนอนั้น เราอาจจะไม่ได้สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เราไม่ได้สร้างบ่อนหรือกาสิโนใดๆ เรามีกาสิโนแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ฉะนั้น เมื่อเราได้ฟังเสียงของประชาชนเป็นวงกว้าง เราจึงให้วิปรัฐบาลทบทวน เมื่อถามย้ำว่า การทบทวนหมายถึง การทบทวนเรื่องลำดับแต่ไม่ได้มีการถอนออกใช่หรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ในเมื่อกฎหมายฉบับนี้ถูกบรรจุในระเบียบวาระ เราต้องรับฟังเสียงรอบด้าน และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของสมาชิกในสภาฯ เช่นกัน ฉะนั้น ต้องฟังเสียงของสมาชิกด้วยว่าจะถอนออกหรือไม่ หรือจะเลื่อนไปเมื่อไหร่

โวร่าง กม.ตั๋วร่วมใบเดียว-รถไฟฟ้า 20 บาทได้ใช้แน่

นางมนพร กล่าวต่อว่า ส่วนกระทรวงคมนาคมจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (รฟม.) โดยพิจารณาเสร็จแล้ว เหลือแต่ร่างกฎหมายรถไฟฟ้า 20 บาท จะเร่งรัดให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาให้แล้วเสร็จ เพื่อเข้าสู่การพิจารณาให้เป็นกฎหมายแพ็กเกจ นำไปสู่การทำนโยบาย 20 บาทตลอดสาย เมื่อถามว่า 20 บาทตลอดสายคาดว่า จะสามารถดำเนินการได้เมื่อใด นางมนพร กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.มี 8 มาตรา ตอนนี้ถึงมาตรา 4-5 แล้ว คาดว่าจะพิจารณาเสร็จในสัปดาห์หน้า แล้วจะกลับไปทบทวนร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม สรุปเพื่อเตรียมให้สภาบรรจุเข้าระเบียบวาระ และคาดว่าหลังจากผ่านการพิจารณาของสภาฯ ก็จะไปต่อที่ฝั่ง สว. โดยมีเดดไลน์ในเดือนกันยายนหรือตุลาคม ซึ่งเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า กังวลเรื่องเสียงของ สว.หรือไม่ หลังพรรค ภท. เป็นฝ่ายค้าน นางมนพร กล่าวว่า ประเด็นต้องแยกกัน ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ถอนตัวออกจากรัฐบาลการเสนอ พ.ร.บ.สำคัญ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนคงไม่ได้ยึดเพียงแค่พรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคก็เห็นด้วยว่า ถ้านโยบายรัฐบาลทำสำเร็จก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่จะใช้รถไฟราคาถูก และประชาชนฝากความหวังให้ทุกท่านเป็นตัวแทน

ดักทาง สว. เชื่อไม่โหวตคว่ำร่างฯ กาสิโน

นางมนพร กล่าวต่อว่า ตนเชื่อมั่นว่ากฎหมายนี้จะไม่มีติดขัด หรือถูกตีกลับมาจากฝั่ง สว. จะไม่เป็นการตอกย้ำว่า สว. ในปัจจุบันเป็นคนของพรรคใดพรรคหนึ่ง สว.เห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ส่วนจะกังวลเรื่องรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำหรือไม่นั้น นางมนพร กล่าวว่า ทุกคนมีความห่วงใยในเรื่องนี้ ซึ่งได้คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อมั่นว่า หาก สส.รู้จักการทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ขาดประชุม ก็เชื่อว่ากฎหมายทุกฉบับที่ได้ความร่วมมือกับทุกพรรครัฐบาลจะผ่านไปด้วยดี