“ไชยชนก” รับตื่นเต้นดี ได้เป็นฝ่ายค้านป้ายแดง บอกประสบการณ์เป็น 0 ฝากถึงรัฐบาล ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศ ชี้ ข้อมูลซักฟอก “นายกฯ อิ๊งค์” ปมกัมพูชา ใครๆ ก็มี ประชาชนก็เห็น
เวลา 12.55 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินทางมาประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงการประชุมที่มีแนวคิดเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ว่า ก็น่าตื่นเต้นดี สำหรับตนเป็นประสบการณ์ใหม่ ซึ่งก็มีเพื่อนสมาชิกที่มีประสบการณ์เยอะ ขอให้รอชมว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ส่วนที่หลายคนสบประมาทว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เคยเป็นฝ่ายค้านนั้น นายไชยชนก กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน เจตนาพวกตนก็เหมือนเดิม ทำเต็มที่เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตนว่าน่าตื่นเต้นดี ตอนแรกก็เป็นห่วงนิดหน่อย แต่พอมาเป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้อยู่ฝ่ายบริหารแล้ว ภัยต่างๆ ที่พวกตนกังวลและอภิปรายไปก็ยังคงอยู่ มีแต่จะหนักขึ้นๆ ทั้งภัยธรรมชาติ เศรษฐกิจสังคม และความมั่นคง ซึ่งก็กังวลตอนแรก
“หลังจากพิจารณาร่วมกันกับกรรมการบริหารพรรค ก็คิดว่าแบบนี้เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อยากให้เป็นห่วง จึงขอฝากไปถึงประชาชนที่เป็นห่วงพวกตนว่า ลงพื้นที่มาก็มีแต่คนให้กำลังใจ และอยากบอกว่าอดีตรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคน แม้ไม่ได้อยู่ฝ่ายบริหารแล้ว แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้อาจลดลงตามอำนาจหน้าที่ที่รับผิดชอบ แต่พรรคภูมิใจไทยทั้งหมด เราไม่ได้ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหารอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราก็สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้หลายรูปแบบ เชื่อว่าเราจะสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ และจะทำงานต่อไป”
...
เมื่อถามถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ที่จะมาทำหน้าที่แทนพรรคภูมิใจไทย จะฝากความหวังได้หรือไม่ นายไชยชนก ระบุว่า พูดไม่ได้ ต้องดูที่การกระทำของฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ที่จะต้องพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าเจตนาของการจัดตั้งและการปรับ ครม.ใหม่ รวมถึงผู้ที่ถูกรับเลือกเป็นรัฐมนตรีใหม่ มีเจตนาที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะตัดสิน แต่เป็นหน้าที่ของประชาชน
ในคำถามว่าอยากฝากอะไรในส่วนของกระทรวงพรรคภูมิใจไทยเคยรับผิดชอบ นายไชยชนก ตอบว่า ถ้าเป็นไปได้อยากให้คำนึงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นใหญ่กว่าพวกเราทุกคน ใหญ่กว่าพรรค ใหญ่กว่าสี จึงไม่อยากให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิม ไม่อยากให้คิดว่าสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำไว้เป็นสิ่งที่จะสร้างคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นหลายเรื่องเป็นปัญหาที่ทางพรรควางรากฐานไว้ในการแก้ไขปัญหา ก็อยากให้สานต่อหากเป็นไปได้ และวางเรื่องพรรคเอาไว้ข้างหลัง เอาประโยชน์ของประชาชนขึ้นมาก่อน
เพราะสิ่งที่พรรคทำไม่ใช่แค่เรื่องนโยบายแต่มีเรื่องของภัยธรรมชาติ ที่พวกตนลงไปในแต่ละพื้นที่ ก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ ขณะนี้ถือว่าผ่านไปแล้ว แต่ในอนาคตอาจจะหนักขึ้นและอาจจะมีอีกหากไม่สร้างการตื่นตัวในการรับมือต่อไป ผลกระทบก็จะเกิดกับประชาชน รวมถึงภัยความมั่นคงและเรื่องเศรษฐกิจที่มีแต่จะแย่ลง ตอนนี้มีแต่สงครามจะรุนแรงขึ้น และจะกระทบกับเศรษฐกิจแน่นอน จึงอยากให้พูดความจริงกับประชาชน บอกเขาไปว่าเศรษฐกิจจะแย่ลงและจะมีปัญหาสังคมตามมาอีกมากมาย
ทางด้านคำถามว่าให้เวลารัฐบาลทำงานแค่ไหนจึงจะตรวจสอบและยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ นายไชยชนก ระบุว่า พวกตนขอทำเต็มที่อย่างเดียว ในหน้าที่ที่รับผิดชอบ แต่ต้องยอมรับว่าพวกตนมีประสบการณ์ในด้านการเป็นฝ่ายค้านคือศูนย์ จึงเป็นสิ่งที่เราต้องพูดคุยกันในการประชุมพรรคในครั้งนี้ แต่ขอยืนยันว่าเราทำเต็มที่เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของการให้เวลาหรือไม่ให้เวลา แต่เป็นหน้าที่ของพวกตนที่ต้องทำไม่ว่าจะเวลาไหน
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ตอนนี้ข้อมูลโดยเฉพาะไทย-กัมพูชา มีเพียงพอที่จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วหรือไม่ นายไชยชนก ระบุว่า ตนคิดว่าไม่ใช่ข้อมูลนี้ที่ตนมีเท่านั้น ทุกคนก็มี ประชาชนก็เห็น ฉะนั้นก็ต้องรอดู อย่างไรก็ตามเมื่อถามอีกว่า มากพอที่จะซักฟอกได้หรือไม่ นายไชยชนก ย้อนสื่อว่า “พี่คิดว่าพอไหมครับ” ก่อนจะบอกต่อไปว่า แต่อันนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกันในพรรคก่อน.