จับตา 2 คดีร้อนในศาลรัฐธรรมนูญ เดือนกรกฎาคม 68 ลุ้นคดีฮั้วเลือก สว. - “นายกฯ แพทองธาร” ระทึกปมคลิปเสียงกับ “สมเด็จฮุน เซน” ลุ้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่

วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องจับตาการประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ได้แจ้งตารางการนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุด ว่าจะนัดประชุมในวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม และวันอังคารที่ 15 กรกฎาคม เป็นการขยับจากเดิมที่จะปกติจะนัดประชุมวันพุธและพฤหัสบดีของสัปดาห์

สำหรับการประชุมวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 มีวาระที่น่าสนใจ คือรับทราบความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญแจ้งอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอให้รายงานกรณี นายณฐพร โตประยูร เคยยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในคดีล้มล้างการปกครองฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เกี่ยวกับเรื่องกระบวนการเลือก สว. แต่ อสส. ไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง ทำให้ นายณฐพร มายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยการกระทำผู้ถูกร้อง 12 ราย อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พรรคภูมิใจไทย กรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคภูมิใจไทย โดยศาลรัฐธรรมนูญ มีการแจ้งเรื่องไปยัง อสส. เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2568 และปัจจุบันครบกำหนดกรอบ 15 วันตามที่ได้แจ้งไปแล้ว ซึ่งสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ จะแจ้งความคืบหน้าให้ที่ประชุมทราบ

นอกจากนี้ในวันที่ 8 กรกฎาคม ยังต้องจับตาว่าที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการพิจารณาและมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดในคำร้องของประธานวุฒิสภา ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะความเป็นนายกรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยในคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร (ผู้ถูกร้อง) หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 71 ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ข้อ 40 (8) โดยกรณีนี้สามารถออกได้ 3 ทางคือ

...

1. ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวหยิบยกมาพิจารณา เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน
2. ศาลรัฐธรรมนูญ หยิบยกมาพิจารณา และอาจมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น สั่งรับ หรือไม่รับคำร้อง หรือสั่งเรียกข้อมูลเพิ่มเติม
3. ศาลรัฐธรรมนูญ หยิบยกมาพิจารณา แล้วเห็นว่าคำร้องดังกล่าวไม่มีมูล ให้คำร้องตกไป เป็นต้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งงดการประชุมปรึกษาคดี จำนวน 1 สัปดาห์ โดยระบุเนื้อหาว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเป็นหนึ่งในเจ็ดประเทศผู้ก่อตั้งสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (The Association of Asian Constitutional Courts and Equivalent Institutions : AACC) และปัจจุบันมีประเทศสมาชิกรวม 21 ประเทศ โดยศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งประธานสมาคมศาลรัฐธรรมนูญและสถาบันเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC) ในระหว่างปี พ.ศ. 2566 - 2568 นั้น สัปดาห์นี้ (ระหว่างวันที่ 23-26 มิถุนายน 2568) ศาลรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้สานต่อภารกิจการเป็นเจ้าภาพ ด้วยการจัดการประชุมคณะกรรมการสมาชิกสมาคม (Board of Members Meeting - BoMM) ตามข้อบังคับของสมาคมศาลรัฐธรรมนูญเทียบเท่าแห่งเอเชีย (AACC Statute) ข้อ 15 โดยจัดการประชุมในรูปแบบภายในสถานที่ (On-site) ซึ่งมีประเทศ AACC ที่เข้าร่วม ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐทูร์เคีย สาธารณรัฐอุซเบกิสถาน และการประชุมรูปแบบออนไลน์ (Online) จากประเทศสมาชิก AACC อื่นๆ ณ โรงแรม สยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพมหานคร จึงงดการประชุมปรึกษาคดี จำนวน 1 สัปดาห์ โดยจะประชุมปรึกษาคดีในคราวต่อไป ณ วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2568