“เอกนัฏ” ประณามกัมพูชา เกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีคือสิ่งสำคัญของประเทศ ลั่น ไม่มีต่อรองตำแหน่งแน่นอน วันนี้คุยเรื่องสำคัญไม่มีแบ่งฝ่ายกับก๊วน “สุชาติ” ด้าน “พีระพันธุ์” เข้าพรรค ปิดปากเงียบไม่ให้สัมภาษณ์
วันที่ 19 มิถุนายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันนี้ ว่า มีเพียง กก.บห. เท่านั้นที่เข้าร่วม ส่วน สส.บางคนที่เข้าร่วมกรรมาธิการก็ได้เชิญมาร่วมประชุมด้วย แต่ไม่ได้เชิญมาทุกคน ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่เชิญ สส.กลุ่ม 18 ของนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่ม 18 ส่วนแนวโน้มต้องมีการพูดคุยกันภายในห้องประชุม
ขณะที่จุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเหมือนกับพรรคร่วมอื่นหรือไม่นั้น จะต้องมีการพูดคุยกันก่อน หลายคนมีการแสดงความห่วงใยมา โดยที่ตนเองไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อน สิ่งที่เป็นส่วนสำคัญของพรรคและได้รับความคิดเห็นมาจำนวนมากก็ต้องมีการพูดคุยในวันนี้เช่นกัน สำหรับการประชุม กก.บห.พรรคในวันนี้ ไม่มีการแบ่งซีกแบ่งฝ่าย วันนี้ไม่ใช่เรื่องของตนกับนายสุชาติแล้ว แต่เรื่องที่เราพูดคุยอยู่นั้นเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวถามต่อหากมี สส. ไม่ยอมรับมติของพรรค นายเอกนัฏ กล่าวว่า คนที่เป็นสมาชิกพรรค ต้องยอมรับมติของพรรค หากใครที่มีอุดมการณ์ไม่ตรงกับพรรค ก็สามารถลาออกได้ เมื่อถามอีกว่า มติการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องดูปัจจัยอื่นของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเอกนัฏ ตอบว่า ไม่ต้องดูใคร การตัดสินใจในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนได้รับเลือกจากสมาชิกพรรค และทำหน้าที่แทนสมาชิก ไม่เกี่ยวกับพรรคเลย ส่วนการประชุมในวันนี้จะนานหรือไม่ ต้องรอดูก่อน
...
ในคำถามว่ามีการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หรือไม่ นายเอกนัฏ ตอบว่า ไม่ได้คุย ท่าทีการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีนั้น ต้องไปพูดคุยกันในห้องประชุมอีกที เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่
“โดยรวมต้องประณามการกระทำของกัมพูชา เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีคือสิ่งสำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งพรรคยึดหลักนี้เป็นเรื่องสำคัญ และไม่มีอะไรที่สำคัญไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีของตนเองก็ไม่สำคัญ ถึงแม้จะร่วมรัฐบาลต่อและได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม ตนก็ไม่เอา เราไม่ได้สนใจ ไม่ใช่เรื่องตำแหน่งที่ไม่ลงตัว ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เลย ผมจะอยู่หรือไปไม่สำคัญ แต่นี่คือจุดยืนของพรรคที่จะตัดสินใจ ไม่เกี่ยวว่าจะได้ตำแหน่งอะไร”
ทางด้านจุดยืนดังกล่าวจะเป็นที่ถูกใจของประชาชนหรือไม่ นายเอกนัฏ ระบุ ต้องคิดว่าการดำรงอยู่ของพรรคอยู่ได้ด้วยแรงสนับสนุน และแรงศรัทธาของประชาชนที่ให้กับพรรค
จากนั้น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินเข้ามายังที่ทำการพรรคและไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงจุดยืนของพรรคต่อกรณีคลิปเสียงดังกล่าว แต่นายพีระพันธุ์ ไม่ได้ตอบคำถาม อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าวันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่มีการแถลงข่าว แต่อาจจะเป็นการสัมภาษณ์ของบุคคล.
