วันนี้ผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยคงสำนึกได้แล้วว่า การผลักดันให้ คุณแพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองระดับชาติ ไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ เป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ และโหดร้ายเพียงใด เมื่อ นายกฯแพทองธาร ต้องตกเป็นเหยื่อ ฮุน เซน เพื่อนพ่อ และ กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ถูกแอบบันทึกเสียงสนทนาส่วนตัว แล้วปล่อยคลิปเข้ามาฝั่งไทย
เมื่อปล่อยคลิปแล้ว ฮุน เซน ได้โพสต์ตามมาอีกว่า เขาเป็นคนปล่อยคลิปเอง คลิปสนทนามีความยาว 17 นาที 6 วินาที แต่คลิปหลุดมีเพียง 9 นาทีเท่านั้น
ฮุน เซน ระบุว่า เขาได้พูดโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน เป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมี นาย เกลียง ฮวด ทำหน้าที่เป็นล่ามแปล เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด หรือข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับราชการ จึงจำเป็นที่จะต้องมีการบันทึกเสียงการสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชา ก็ไม่รู้ว่า นายกฯแพทองธาร จะรู้ทันเล่ห์ของ ฮุน เซน ที่มีการบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์หรือไม่
ฮุน เซน บอกว่า เขาได้แชร์บันทึกเสียงสนทนาระหว่างเขากับนายกฯไทยไปให้คนราว 80 คน รวมทั้ง สมาชิกพรรค คณะทำงานวุฒิสภา ทีมสภาแห่งชาติ กองกำลังกิจการต่างประเทศ ทีมกิจการชายแดน และ กองทัพกัมพูชา ในหมู่คนเหล่านี้ มีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯไทยที่กล่าวหาผู้นำกัมพูชาว่าไม่เป็นมืออาชีพ ในท่อนท้าย ฮุน เซน ได้พูดถึงคลิปหลุดว่า ทราบว่าคลิปหลุดที่โพสต์นั้นมีความยาว 9 นาที หากฝ่ายไทยต้องการที่จะได้บทสนทนาฉบับเต็ม เขาได้เตรียมปล่อยคลิปสนทนาทั้งหมดยาว 17 นาที 6 วินาที แสบไหมครับเล่ห์นักการเมืองขิงแก่ ฮุน เซน
เกมนี้ผมรู้สึกเห็นใจ นายกฯแพทองธาร ที่ไม่ประสาเกมการเมืองระหว่างประเทศ ตกเป็นเหยื่อนักการเมืองเฒ่าสารพัดพิษ เพื่อนพ่อ คนที่ควรถูกตำหนิอย่างยิ่งก็คือ หัวหงอกที่อยู่รอบข้างนายกฯ ไม่ว่า นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม คุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ปล่อยให้นายกฯคุยเรื่องความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ กับ ฮุน เซน ตามลำพังได้อย่างไร กลาโหม ต่างประเทศ กองทัพ สภาความมั่นคง ต้องอยู่ครบ เพื่อป้องกันความผิดพลาด อย่างที่ ฮุน เซน ทำ และยังใช้ล่ามแปลด้วย
...
นี่คือ ความผิดพลาดครั้งใหญ่อีกครั้งของรัฐบาลเพื่อไทย และ สภาความมั่นคง
นายกฯแพทองธาร ได้แถลงเรื่องคลิปหลุดที่ทำเนียบตอนบ่าย 2 คราวนี้หัวหงอกที่ผมเอ่ยถึงยืนพร้อมหน้า นายกฯยอมรับว่าเป็นเสียงจริง แต่เป็นคลิปสนทนาส่วนตัว เป็นการพูดหลังไมค์ คุยโทรศัพท์กัน ไม่ควรนำมาเปิดเผย เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรอง (?) มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาความสงบสุขของบ้านเมือง รักษาอธิปไตยของไทยไว้ เราพูดคุยด้วยความนุ่มนวลจริงๆ เวลาคุยส่วนตัวเราเรียกลุง ฮุน เซน บอกให้เปิดด่าน เราก็บอกให้เปิดพร้อมกัน แต่เขาไม่ยอม ทั้งที่ไทยยอมแล้ว เขาบอกว่าเขาเป็นลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้น ตนก็ ไม่แน่ใจขอปรึกษาทีมกลาโหมก่อนพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) แต่ยังไม่ทันเริ่ม ก็มีเฟซบุ๊กฮุน เซน ออกมาว่า ไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง จะปิดด่านหมดเลย ตนเลยข้องใจว่าทำไมไม่เหมือนที่คุยกันไว้ (นี่คือความอ่อนหัดของนายกฯไทย)
ส่วนที่บอกว่า แม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามนั้น เป็นการบอก ฮุน เซน ว่า แม่ทัพภาค 2 ก็คุยไปอย่างนั้นแหละ เพราะ คนแปลบอกว่าท่านโกรธที่แม่ทัพภาค 2 พูด เลยบอกว่า ปล่อยให้แม่ทัพภาค 2 พูดเท่ๆไป เพื่อให้คุยกันได้ (ยิ่งแย่หนักเข้าไปใหญ่)
สุดท้าย นายกฯแพทองธาร ยอมรับว่า ความต้องการของฮุน เซน จริงๆ คือคะแนนนิยมในประเทศ (สื่อเขียนบอกไปไม่รู้กี่สิบครั้งนายกฯไม่ได้อ่านหรือ) โดยไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่านบอกเองว่าเริ่มตก หวังจะได้คะแนนเพิ่ม ต่อจากนี้จะไม่มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวอีกต่อไป ส่วนสองตระกูลจะไว้ใจกันได้อีก หรือไม่นั้นไม่ทราบ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ นายกฯต้องแยกให้ออกระหว่างบุญคุณส่วนตัวกับประเทศชาติ นะครับ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม