กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ซัดนายกฯ ขายชาติจี้ลาออก ลุยยื่น ป.ป.ช.-ศาล รธน. ถอดถอน ชี้หมดความชอบธรรมบริหารต่อ เชื่อประเทศยังไม่ถึงทางตัน จนถึงขั้นรัฐประหาร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. 2568 ที่รัฐสภา พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธานกรรมาธิการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมคณะ สว. แถลงเรียกร้องนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งว่า ไม่สบายใจพฤติการณ์ผู้นำรัฐบาล ที่ด้อยความสามารถ ขาดภาวะผู้นำ ยอมรับคลิปเสียงสนทนาเป็นของตนกับสมเด็จฮุนเซน มีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นคนฝ่ายตรงข้าม มีการยินยอมอ่อนน้อมให้ศัตรูผู้รุกรานแผ่นดินไทย ตอบสนองความต้องการที่สมเด็จฮุนเซนเรียกร้อง ที่ผ่านมาพฤติการณ์ผู้นำรัฐบาลส่อความเป็นคนไม่รักชาติ บ่งบอกเป็นคนทรยศขายชาติ ความอดทนคนในชาติสิ้นสุดแล้ว กมธ.ทหารและ สว. เรียกร้อง น.ส.แพทองธารลาออกจากนายกรัฐมนตรี การกระทำ น.ส.แพทองธารอาจเข้าข่ายความผิด ดังนี้ 1. ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ประเทศ มาตรา 52 รัฐต้องพิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งอาณาเขต 2. ผิดประมวลกฎหมายอาญา หมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร และหมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ในมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ฐานกบฏ คบคิดกับบุคคลกระทำการเพื่อประโยชน์ของรัฐต่างประเทศ เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

พล.อ.สวัสดิ์กล่าวว่า 3. การตำหนิแม่ทัพภาค 2 เป็นคนละฝ่ายกับเรา สร้างความแตกแยกในชาติ เข้าข่ายไม่ซื่อสัตย์สุจริต ละเมิดจริยธรรมร้ายแรง ถือว่าขาดคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่อาจปล่อย น.ส.แพทองธารให้บริหารประเทศต่อไปได้แม้แต่วินาทีเดียว ขอให้ น.ส.แพทองธารลาออกจากตำแหน่ง ยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที และจะยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธารต่อ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 19 มิ.ย. เนื่องจากขาดคุณสมบัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง กมธ.ทหารและ สว. ตระหนักในบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบต่ออธิปไตย พร้อมยืนเคียงคู่ประชาชน ข้าราชการ กองทัพ รักษาอธิปไตยและประเทศสุดกำลัง เมืองใดไร้ธรรมอำไพ เมืองนั้นบรรลัยแน่นอน

...

เมื่อถามว่า หากนายกฯ ยังไม่ลาออกหรือยุบสภา จะเกิดผลกระทบอย่างไร พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า เป็นการตัดสินใจของฝ่ายรัฐบาล แต่ความรู้สึกประชาชนมองนายกรัฐมนตรีไม่มีความชอบธรรมบริหารราชการแผ่นดินแล้ว เมื่อถามว่า หากนายกฯ ไม่ลาออก การเมืองจะไปสู่ทางตันหรือไม่ พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น รัฐบาลคงมีหนทางตัดสินใจเป็นทางออกที่เป็นผลดีต่อประเทศ ส่วนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มองว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่ เป็นเรื่องรัฐสภา ยังไม่เกิดขึ้น เมื่อถามว่า การเกิดสุญญากาศเช่นนี้ จะทำให้การแก้ปัญหากัมพูชายากขึ้นหรือไม่ พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า ทุกอย่างเปิดมาแล้วว่า ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ต่อไปคงมีความชัดเจนมากขึ้นในการแก้ปัญหาร่วมกัน คิดว่าเป็นผลดี เมื่อถามว่า ยังไว้วางใจให้รัฐบาลแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนหรือไม่ พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า เราไว้ใจและเชื่อมั่นฝ่ายทหารจะปกป้องรักษาอธิปไตยและดินแดน ยังไว้ใจและมั่นใจอยู่ เมื่อถามว่า แต่การสั่งการ ก็ยังต้องออกมาจากผู้นำรัฐบาล พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า คิดว่าประชาชนคงเห็นและตัดสินใจได้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากเกิดทางตัน แล้วนำไปสู่รัฐประหาร พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า เรื่องรัฐประหาร อย่าเอามาเป็นกังวล ฝ่ายรัฐบาลน่าจะมีทางออกที่ดี คงไม่ไปถึงขนาดนั้น ไม่ว่าจะเป็นทหารยุคไหน ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องความเสียหายประเทศจริงๆ ไม่มีใครอยากทำ เพราะไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เมื่อถามว่า กรณีคลิปเสียงดังกล่าวเทียบกับเหตุการณ์ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ถือว่าร้ายแรงกว่าหรือไม่ พล.อ.สวัสดิ์ตอบว่า มองว่ามันชัดเจน กรณีที่เกิดขึ้นเสียหายเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเกียรติภูมิไทย เนื้อหาในคลิปไม่รักษาผลประโยชน์ประเทศ มีแต่ฝ่ายตรงข้ามอยากได้อะไร ทุกคนคงใช้วิจารณญาณได้ว่ารุนแรงขนาดไหน ทำไมเราอ่อนด้อยขนาดนั้น