“รองนายกฯ อนุทิน” ยัน บอกชัดแล้วพรรคภูมิใจไทยไม่ยอมรับเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป ไม่มีเจตนาต่อรอง ชี้ ไม่ต้องเคลียร์ใจ บอกคนปรามาส เดี๋ยวจะทำให้ดู และจะไปฝึกกับ ส.ส.ไอซ์ เผยคุย “ลุงป้อม” แล้วชวนมาอยู่ด้วยกัน ไม่กังวลปม “สตง.” เตือนการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน รับเก็บของห้องทำงาน “มหาดไทย-ทำเนียบ” แล้ว ย้ำยังไม่ได้คุยนายกฯ

เมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีให้ทีมงานเก็บของออกจากกระทรวงมหาดไทย ว่า ก็ต้องเก็บสิ เพิ่งสั่งไปเมื่อเช้า ยังมีเวลาอยู่

เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่ได้แจ้งเงื่อนไขการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) กับพรรค ภท. เลย นายอนุทิน ได้ทำหน้าสงสัย ก่อนกล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยิน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งเราก็ได้บอกท่าทีของเราไปแล้ว

เมื่อถามว่า การขนของออกจากกระทรวงมหาดไทยถือเป็นการปิดประตูตายไม่พูดคุยเรื่องการปรับครม. แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนก็คุยกับนพ.พรหมินทร์ชัดเจนแล้วว่าเราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร ซึ่ง นพ.พรหมินทร์ ระบุแล้วว่า เงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยก็เป็นแบบนี้ โดยนายอนุทินถามสื่อมวลชนว่า “ไม่ดีเหรอ”

เมื่อถามว่า ในการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 5/2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล จะพูดคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยอะไรกับนายกฯ เลย เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นพ.พรหมินทร์ มาคุยในนามพรรค พท. ไม่รู้ในนามหัวหน้าพรรคหรือนามใคร

...

นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องเก็บของตนสั่งเพื่อไม่ให้เสียเวลา ตอนนี้ตนยังเป็นรัฐมนตรีอยู่ เมื่อถามย้ำว่า จะคุยกับนายกฯ ในที่ประชุมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ

เมื่อถามว่า จะทำหน้าอย่างไรในที่ประชุม นายอนุทิน กล่าวว่า ยกมือไหว้ปกติ ส่วนตัวไม่มีอะไร

เมื่อถามว่า ต้องเคลียร์ใจกันอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เรื่องนี้เป็นเรื่องของข้อตกลง และมีเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปเขาบอกมา และเราไม่รับเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป และเขาบอกว่า เป็นเงื่อนไขสุดท้ายแล้วที่นพ.พรหมินทร์ มาบอกตนเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เป็นเงื่อนไขสุดท้าย ท่านใช้คำว่าไพ่ใบสุดท้าย แต่ท่านก็ดีนะไม่ได้บอกว่าให้มาตอบภายใน 48 ชั่วโมง เหมือนที่มีกระแสข่าวออกไป ท่านบอกว่าให้ไปคิด 2-3 วัน ซึ่งตนก็ตอบไปเลย

เมื่อถามว่า ทำไมไม่คุยกับตัวนายกฯ เอง แต่คุยกับนพ.พรหมินทร์ นายอนุทิน กล่าวว่า ปกติเวลาคุยเรื่องปรับครม.จะคุยผ่านนพ.พรหมินทร์อยู่แล้ว และท่านบอกว่า มาเป็นตัวแทนนายกฯ

เมื่อถามว่า เรื่องการปรับครม.ตอนนี้ไม่สามารถประนีประนอมกันได้แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่มีเรื่องประนีประนอมอะไร ตอนที่เราได้รับข้อเสนอมา มันไม่ใช่เรื่องของการต่อรองอะไร และเราไม่ได้มีเจตนาที่จะไปต่อรองอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตกลงกันไปแล้ว

เมื่อถามว่า ตำแหน่งต่างๆ ทั้งรองประธานสภาฯ และรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคุยกับนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาคนที่ 2

“ตนก็เผลอไปพูดว่า ไม่เป็นอะไรนะ คุณก็ยังเป็นรองประธานสภาฯ อย่างน้อยถึงแม้เราจะไปเป็นฝ่ายค้านก็ยังมีรองประธานสภาฯ อยู่ ซึ่งรองภราดรก็บอกว่า ไม่ๆๆ เขาจะลาออกด้วย เขาจะลงมาทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ซึ่งมันก็ดีจะได้ไม่มีอะไรที่มันค้างคา เพราะถ้าเราไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งก็เพื่อความสบายใจ ไม่อย่างนั้นหากมีความขัดแย้ง เดี๋ยวใครจะมาบอกว่า ทำไมไม่ลาออกรองประธานสภาฯ ให้หมด ก็เลยลาออกไปเลย เมื่อเราไม่ได้อยู่ฝั่งรัฐบาลแล้ว เราก็ไปอยู่ฝั่งตรวจสอบเต็มตัว อันนี้ก็ต้องชื่นชมนักการเมืองรุ่นใหม่ เป็นผม ผมยังคิดไม่ได้เลย” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า มีคนปรามาสเยอะว่าพรรค ภท. ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน พรรค ภท.เคยเป็นแล้วเมื่อปี 2554 ทำไมจะไม่เคยเป็น แต่ตอนนั้นหัวหน้าชื่อ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล แต่ตอนนี้หัวหน้าชื่อนายอนุทิน ตนชอบเวลาคนปรามาส ตอนนั้นที่เป็นรมว.สาธารณสุข คนก็ปรามาสว่าทำอะไรเป็น เราก็ทำงานได้ สามารถเอาระบบสาธารณสุขของไทยขึ้นเป็นอันดับ 6 ของโลกได้ แล้วนี่มีคนมาปรามาสว่า พรรค ภท. ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เดี๋ยวจะทำให้ดู เดี๋ยวตนจะไปฝึกกับ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน

เมื่อถามว่า หากมีศึกซักฟอกจะไม่เกรงใจกันแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทำตามหน้าที่

เมื่อถามว่า จะต้องมีการหารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าพรรค ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้พล.อ.ประวิตร อยู่ต่างประเทศ แต่ได้มีการหารือกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และทีมงานของท่านอยู่ ซึ่งท่านก็บอกว่ามาอยู่ด้วยกัน

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าจะสามารถทำงานกับพรรคประชาชนเป็นฝ่ายค้านได้ใช่หรือไม่เพราะก่อนหน้านี้เคยมีอุดมการณ์ที่ไม่ตรงกัน นายอนุทิน กล่าวว่า ได้สิ เรื่องต่างๆ ข้อมูลต่างๆ ก็สอดรับกันดี เวลาอะไรไม่ถูกต้องเราก็ทำอย่างชัดเจน คือไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านอะไรที่ไม่ถูกต้องเราก็ค้าน ยิ่งพอไปเป็นฝ่ายค้านเราก็ค้านได้สบายใจหน่อย

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ถ้าจะไปนั่งตรงนั้นก็ต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งตนก็รู้จักเขามา 6 ปีแล้ว

ไร้กังวลหลังจ่อนั่งฝ่ายค้าน ปม “สตง.” เตือนการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน

นอกจากนี้นายอนุทิน ยังให้สัมภาษณ์กรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ถึงการใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเป็นการดำเนินการที่เร่งด่วน สุ่มเสี่ยงที่จะเปิดช่องให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์ ว่า ตนไม่ต้องกังวลอะไรเรื่องนี้แล้ว และเพิ่งได้รับรายงานมาเมื่อเช้า ซึ่งตนคิดว่าหากรมว.มหาดไทยท่านใหม่เข้ามาก็คงดู และสั่งการให้ดี เพราะจะไปซ้ำรอยที่เคยมีหนังสือเตือนโครงการเมื่อหลาย 10 ปีที่แล้ว เมื่อถามว่า ใช่โครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีหนังสือเตือนเรื่องนี้อยู่ พอมีปัญหาขึ้นมา หนังสือเตือนก็จะเป็นตัวชี้ว่าได้มีการเตือนแล้ว และเป็นตัวชี้ความผิดขึ้นมา ส่วนตัวคิดว่าดีที่ได้รับการเตือนมาก่อน เพื่อที่ใครเป็นผู้รับผิดชอบจะได้ระมัดระวัง ซึ่งครั้งที่แล้วอาจจะไม่ได้ระวัง ครั้งนี้จะต้องระวังให้มาก เมื่อถามว่า เดิมส่วนตัวกังวลเรื่องนี้ใช่หรือไม่ แต่พอมีข่าวว่าจะปรับไปเป็นฝ่ายค้านจึงไม่กังวล นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแล แต่ตนเชื่อว่ายุคนี้สมัยนี้คงไม่เหมือนกัน สมัยนี้คนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาสำนักงบประมาณ ก็ถอนเรื่องที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ได้รับอนุมัติงบประมาณวงเงิน 5.1 หมื่นล้านบาทจากงบกลางปี 68 เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีต้องขอบคุณหน่วยงานที่มีหน้าที่เตือน เพราะแม้เราจะมีเจตนาที่ดี แต่บางครั้งอาจจะทำไม่ละเอียด ซึ่งอาจเป็นปัญหาภายหลังได้

เมื่อถามว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็รับเรื่อง การใช้งบประมาณปี 68 ส่อขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ที่แปลงยอดชำระเงินกู้มาเป็นงบกลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโครงการเงินหมื่น แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นงบจัดสรรให้โครงการต่างๆ ของอปท.ทั่วประเทศ ฉะนั้น ในส่วนของงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท จะต้องกังวลด้วยหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าอย่าไปใช้คำว่ากังวล ต้องระมัดระวังทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายก็จะไม่มีอะไร เพราะหน่วยงานต่างๆเพียงแค่เตือนมาให้ดูแลให้ดี ไม่ได้บอกว่าโครงการที่ทำโกงแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนยังไม่ได้อ่านรายละเอียดคำเตือนดูแค่ใบปะหน้า

พร้อมทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” หากร่างกม.คอมเพล็กซ์ เข้าสภาฯ

เมื่อถามถึงกรณีหากทำหน้าที่ฝ่ายค้าน พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงแบบครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าจะไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบย้ำว่า “ก็ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน” เมื่อถามว่า คิดว่าเสียงสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาจะผ่านหรือไม่ เพราะแนวโน้มสถานการณ์ในสภาของรัฐบาลจะเสียงปริ่มน้ำ จะทำให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ตกที่นั่งลำบากหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า ตกที่นั่งลำบากใคร ผู้สื่อข่าวจึงย้ำว่า ก็เพราะเสียงปริ่มน้ำ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดอย่างนั้น เขาเพิ่งจะตั้งรัฐบาลใหม่เสียงก็ต้องมากกว่าฝ่ายค้าน ไม่มีรัฐบาลไหนที่เสียงไม่มากกว่าฝ่ายค้าน

รับเก็บของห้องทำงาน “มหาดไทย-ทำเนียบ” แล้ว ย้ำยังไม่ได้คุยนายกฯ

ต่อมาเมื่อเวลา 15.10 น. นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ขณะนี้ตนได้เริ่มเก็บของในห้องทำงานที่กระทรวงมหาดไทย และห้องรองนายกรัฐมนตรีที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ซึ่งโดยส่วนตัวย้ายเข้า ๆ ออก ๆ มาหลายรอบแล้ว ประมาณ 4-5 รอบ ซึ่งตอนปี 2549 ยิ่งกว่านี้อีก เพราะตอนเช้ายังเป็นรัฐมนตรี ช่วงบ่ายโดนปฏิวัติ

เมื่อถามว่า คนสัดส่วนพรรคภท. จะลาออกทุกตำแหน่งหรือไม่ ทั้งนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 และนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า นายภราดร แจ้งตนมาแล้วว่า เป็นเช่นนั้น ซึ่งเราไปบังคับเขาไม่ได้ อยู่ที่เขา

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้คุย ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีมาประชุมเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อสักครู่ที่เจอกันก็ไม่ได้พูดคุย เพราะมีเรื่องอื่นอยู่

เมื่อถามย้ำว่า ในส่วนของนายอนุทินวันนี้ตัดสินใจและเก็บของเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ยอมรับว่า ครับ

เมื่อถามว่า วันนี้สีหน้าของนายอนุทินออกมาอย่างชัดเจนดูเหมือนว่า จะไม่ไหว นายอนุทิน บอกว่า วันนี้ตนตื่นตี 5 ไปงานล่องเรือ จากจ.ปทุมธานีมาจ.นนทบุรี ทำให้หน้าตัวเองจึงดูโทรมเช่นนี้ ก่อนถามผู้สื่อข่าวกลับว่า แล้ววันนี้อาการเป็นอย่างไร

ชี้ไม่ใช่เวลาซ้ำเติมใคร ปมคลิป “นายกฯ อิ๊งค์” คุย “ฮุน เซน”

นอกจากนี้ นายอนุทิน ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกรณีการปล่อยคลิปการสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ตนยังไม่ได้ฟังรายละเอียดแค่อ่านจากข่าว เมื่อถามว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไปถามนายกฯ สิ เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะส่งผลกระทบระดับไหน นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่รู้ที่มาที่ไป เมื่อถามว่า กรณีนี้จะทำให้รัฐบาลหมดความชอบธรรมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาซ้ำเติมอะไรใคร

เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจอะไรนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในฐานะสัมพันธ์ส่วนตัวตนให้กำลังใจนายกฯ เสมอ เมื่อถามว่า แล้วกับคุณพ่อนายกฯ นายอนุทิน ยิ้มโดยไม่ได้ตอบคำถาม

ต่อมาเมื่อเวลา 15.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องคลิปเสียงหลุดพูดคุยกับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา รถของนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นเทียบที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินมาขึ้นรถ จากนั้นรถได้เคลื่อนออกจากทำเนียบรัฐบาลโดยใช้เส้นทางประตูอรทัย

ขณะที่ขบวนรถของนายอนุทินก็เคลื่อนออกจากทำเนียบรัฐบาลเช่นกันแต่ออกทางประตูหนึ่งสะพานชมัยมรุเชฐ