“ธนกร วังบุญคงชนะ” เปิดใจ กลุ่ม 18 เป็นกลุ่ม สส. ที่มีแนวคิดอุดมการณ์ตรงกัน แนะอีกฝ่ายคุยกัน และแยกย้ายไปอยู่จุดดีๆ ดีกว่า ยันยังไม่ย้ายไปพรรคโอกาสใหม่ โยนถามแกนนำ รทสช. ว่าจะจบยังไง ไม่ทราบ “สุชาติ” ใช้โมเดลเดียวกับ “กล้าธรรม”
วันที่ 17 มิถุนายน 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ ถึงสถานการณ์ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ตนเองไม่อยากพูดถึง วันนี้ตัวเองยังให้กำลังใจพรรครวมไทยทั้งชาติอยู่ และตอนนี้ยังไม่คิดที่จะไปไหน ขอให้สถานการณ์การทางการเมืองขับเคลื่อนด้วยตัวของมันเองก่อน และยังอยากให้ประชาชนยังคงสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติต่อ ส่วนตัวเองจะอยู่ตรงไหนต่อไปขอให้ดูการกระทำตนเองที่จะพิสูจน์ตัวตนต่อไป พร้อมยอมรับว่าตนเองเป็นคนก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติมา กับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ ที่นายเสกสกลมีแนวคิดให้ตนเองนั่งเป็นเลขาธิการพรรคก่อนที่จะย้ายมาจากพรรคพลังประชารัฐ ชีวิตการทำงานในฐานะ สส. เรื่องสำคัญตนเองอภิปรายหมด นอกสภาฯ ก็ลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนกับ สส.ภาคใต้ และสื่อสารในนามพรรคทุกสัปดาห์ ที่อยากให้พรรคมีความเคลื่อนไหว ให้ความร่วมมือกับพรรค ไม่เคยขัดแย้งกับใคร
“พอถึงจุดหนึ่งตัวผมเองก็ต้องตัดสินใจ และการตัดสินใจของผมก็ไม่พาดพิงใคร ไม่ตำหนิใคร ผมเชื่อว่าทุกคนในพรรคก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เหมือนที่ผมบอกว่า สส. ทั้งพรรคก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้ก็ไม่สบายใจนักหรอกที่ประชาชนส่วนหนึ่งที่รักผม หาว่าผมจะทิ้งพรรค หาว่าผมไม่รักพรรคสิ่งที่ลุงตู่ได้ทำไว้ ผมเชื่อว่าถ้าเขาได้รู้ในสิ่งที่ผมรู้ แล้วเขาเห็นการกระทำของผมตั้งแต่ที่ผมอยู่ทำงานกับลุงตู่มายาวนานจนถึงทุกวันนี้เขาจะเข้าใจผม ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ผม ผมไม่ได้ไปโอดครวญ ผมจะขอพูดครั้งนี้ครั้งเดียว เปิดใจครั้งเดียว ตำหนิผม ผมรับได้” นายธนกร กล่าว
...

เมื่อถามว่า กรณีโพสต์เฟซบุ๊ก เป็นการปรึกษา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี แล้ว นายธนกร กล่าวว่า ผมไม่ได้พูดว่าผมปรึกษาท่านหรือใคร แต่ผมแค่บอกว่าท่านเข้าใจผมแค่นั้นเอง เพราะผมพูดเสมอว่าท่านไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแล้ว เวลาที่นักข่าวถามตนเองว่าท่านทราบหรือไม่ ตนเองก็ต้องบอกว่าท่านก็ต้องทราบเพราะท่านดูข่าวสารบ้านเมือง ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าถามตนเองก็เชื่อว่าท่านเข้าใจผม แต่ไม่ได้เอาท่านลงมาเกี่ยวข้อง ต้องยืนยันอีกครั้งว่าท่านไม่เกี่ยวข้องกับพรรคตั้งแต่ท่านไปดำรงตำแหน่งองคมนตรีแล้ว คนอื่นก็ต้องไม่เอาท่านลงมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะตนเองก็พูดเสมอว่าอย่าเอาท่านมาเกี่ยวข้องเพราะท่านไม่เกี่ยวข้องแล้ว
เมื่อถามว่าสถานะตอนนี้อยู่กลุ่ม 18 กับนายสุชาติ ชมกลิ่น แล้วใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า กลุ่ม 18 ไม่ใช่ของนายสุชาติ เผลอๆ อาจจะมี 19 คนด้วยซ้ำ มันเป็นกลุ่มที่เราคิดตรงกัน มีอุดมการณ์ จุดมุ่งหมายเดียวกัน ไม่ใช่กลุ่มใคร แต่เป็นกลุ่มที่ทำงานยากกับบางกลุ่มเท่านั้น เชื่อว่าทุกวันนี้ทุกคนยังทำงานให้ประชาชนได้ อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้
เมื่อถามถึงข่าวลือจะย้ายไปพรรคโอกาสใหม่จริงหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เคยคิดที่จะย้ายไปไหน วันหนึ่งหากพรรครวมไทยสร้างชาติไม่มีใครจะทำต่อ ตนเองก็ยังอยากจะทำต่อเพราะเป็นมรดกที่เราร่วมสร้างกันมากับผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นไม่คิดจะย้ายไปไหน แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเมื่อเราทำงานไม่ได้ ก็มีสิ่งที่จะต้องไปในที่ ที่ทำงานให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เพราะวันนี้ยังไม่ได้คิด
เมื่อถามว่าถือเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก นายธนกร ก็ยอมรับว่ายากเหมือนกัน มันเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อมากสำหรับตนเอง เพราะการตัดสินใจของคนอื่นอาจจะไม่มีผลกระทบเหมือนตนเอง เพราะตนเองอาจจะเป็นคนแรกๆ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในบรรดา สส. ทั้ง 18 คน แต่ก็ถือว่าเป็นวิถีการเมือง และวิถีชีวิตที่วันหนึ่งก็ต้องตัดสินใจ ตนเองก็ต้องยอมรับผลกระทบต่างๆ ที่ประดังเข้ามา แต่คิดว่าความจริงมันมีหนึ่งเดียว ไม่โทษใคร อยากให้ประชาชนเข้าใจ อาจจะไม่เข้าใจวันนี้ก็ได้ แต่เชื่อว่าวันต่อๆ ไปจะเข้าใจ เพราะการเมืองไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิต แต่เราต้องทำงานให้ประชาชนได้
“มีคนถามว่าทำไมไม่คุยกัน มันคุยมาตลอดอยู่แล้ว มันคุยกันมานานแล้ว เพราะฉะนั้นในวันนี้ไม่โอดครวญอะไร ต้องอดทน จริงๆ ไม่อยากให้โทษใคร และไม่อยากให้มีการตอบโต้ เพราะอยู่กันมานาน อยากให้มีการพูดคุยกัน และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปอยู่จุดที่ดีๆ ผมยืนยันว่า ที่ว่าอยู่กลุ่มนี้ ไม่ได้ต้องการตำแหน่งทางการเมืองหรือรัฐมนตรี ไม่เกี่ยวกับผมเลย เพราะตนเองเป็นมาหมดแล้ว และพอใจในสิ่งที่ได้เป็นแล้ว ผมพอใจที่ลุงตู่สนับสนุนผมมาพอแล้ว ส่วนใครจะเป็น ก็เป็นเรื่องของบุคคลไป” นายธนกร กล่าว

นายธนกร ยังกล่าวว่า ตนเองไม่เคยให้ร้ายพรรค และยังเชียร์ให้ประชาชนสนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป และเชื่อว่าอีกฝั่งก็เข้าใจตนเองหากไม่มีอคติ ตนเองยังรักพรรคนี้อยู่ เพราะฉะนั้นอย่าไปตำหนิอะไรกันมากมาย ขอให้สมเหตุสมผล คิดว่าวันนี้นิ่งๆ กันดีกว่า
เมื่อถามว่ามีกระแสว่านายสุชาติ อาจจะใช้โมเดลเดียวกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ที่บีบอีกฝ่ายไปเป็นฝ่ายค้าน นายธนกร กล่าวว่าเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ เพราะตนเองแค่บอกเหตุผลที่มาอยู่จุดนี้ได้แค่เท่านั้นเอง ส่วนกลไกว่าจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลไป ไม่ได้ไปขัดข้องเพราะนายสุชาติกับตนเองก็รักใคร่กันและอยู่กับลุงตู่มาด้วยกัน คิดว่าท่านก็ทำอะไรให้กับประชาชนมาเยอะ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ของคนแต่ละคน
เมื่อถามว่ามีเป็นการพูดคุยกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีบ้างแล้วหรือยัง นายธนกรกล่าวว่าเรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ จริงๆ วันนี้อยากเก็บตัวเงียบๆ และไม่อยากให้สัมภาษณ์แล้ว แต่เชื่อว่าวันหนึ่งความจริงจะปรากฏ จะไปอยู่ตรงไหนก็ไปทำงานให้กับชาวบ้านได้ก็พอแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ไม่ปกติหลายด้าน ไม่ควรจะคุยกันเรื่องปรับ ครม. ควรเอาเวลาไปแก้ปัญหาให้ประชาชนดีกว่า ตอนนี้ก็ขอให้กำลังใจรัฐบาลทำงานให้เต็มที่เอาเวลาไปแก้ปัญหาให้ประชาชนดีกว่า
ส่วนที่นายกฯ บอกว่าปัญหาภายในพรรคให้ไปเคลียร์กันเอง นายธนกร กล่าวว่าก็เป็นเรื่องที่ถูกแล้ว เมื่อถามว่าแล้วเรื่องนี้จะจบอย่างไร นายธนกร กล่าวว่าไม่ทราบ ต้องถามบรรดาแกนนำ ผู้ใหญ่ในพรรค ในกลุ่มก็ต้องไปคุยกัน อย่าไปยึดติดกับตำแหน่ง เอาที่ชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ
