“อนุทิน” ย้ำหากถูกยึดมหาดไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ยืนยันไม่เคยทำเสียเรื่อง ถามแรง ไม่รู้ใครจะขอกระทรวงกันแน่!  ซัด คนในเงา ปล่อยข่าวปรับ ครม. ทั้งที่วงหารือ 3 คนไม่ได้พูดคุย ยัน ไม่เคยดื้อ พร้อมปรับ ครม. แต่ต้องรื้อคุยทุกกระทรวงพร้อมกันทั้งหมด

วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) สูตร 2 แลก 1 ว่า เมื่อนายกรัฐมนตรี บอกไม่มีแล้วใครจะมี ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าเป็นรัฐมนตรีต้องพร้อมทำงานทุกกระทรวงนั้น ตนเองก็มองว่ารัฐมนตรีต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา ถูกต้องแล้วส่วนเรื่องสัญญาใจตนเองไม่ได้ยิน พวกเราไม่ต้องมี MOU ก่อนจะมารวมกันในขั้วนี้ใช้เวลาตั้งเดือนกว่า ที่จะทำ MOU กับพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง “พวกเราคือคนคุ้นเคยที่ท่านเชิญไปที่พรรคเพื่อไทยดื่มช็อกมิ้นต์  MOU ไม่จำเป็น เพราะความเข้าใจ ความเชื่อมั่นสำคัญกว่า หากไม่เป็นไปตามข้อตกลงอีกหน่อยคงตั้งรัฐบาลลำบาก เพราะต้องมานั่งเขียนสัญญา จะอยู่กันอย่างไร สนับสนุนกันอย่างไร มีการเปลี่ยนได้หรือไม่ คราวนี้ยุ่งตายแทนที่จะเร่งตั้งรัฐบาล” 

พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากถูกยึดมท.

ต่อข้อถามว่าถ้ามีการปรับ ครม.โดยที่ไม่ทำตามข้อตกลงเดิม จะยุ่งหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่าของตนเองไม่ยุ่งแน่นอน ตนเองบอกไปแล้ว เมื่อถามย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ หากไม่ได้เก้าอี้กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน จึงตอบว่า “ย้ำครับ ใช่ครับ เป็นไปตามข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาล”

...

ลั่นไม่เคยทำอะไรเสียหาย

เมื่อถามว่าอยู่ในการเมืองมานานอ่านเกมออกใช่หรือไม่ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ให้กระทรวงมหาดไทยแน่ นายอนุทิน มองว่าไม่มีเกมอะไร และภูมิใจไทยไม่ให้แน่ ขึ้นอยู่กับตนเอง พรรคเพื่อไทยจะไม่ให้ได้อย่างไร ข้อตกลงยังเป็นข้อตกลงอยู่ ตนเองให้ความเคารพกับนายกฯ  เมื่อถามถึง 2 ผู้นำจิตวิญญาณนายเนวิน ชิดชอบ และนายทักษิณ ชินวัตร นายอนุทิน กล่าวทันทีว่าเรื่อง พรรคภูมิใจไทยอำนาจในการตัดสินใจอยู่ที่ตนเอง สำหรับเหตุผลที่พรรคภูมิใจไทยต้องการกระทรวงมหาดไทย เพราะเป็นไปตามข้อตกลง เราตกลงกันไว้แบบนี้ แต่ละพรรคการเมืองก็จะกำกับดูแลกระทรวงต่าง ๆ ยังไม่มีการกระทำใดที่เสียหาย กระทรวงมหาดไทยหรือตนเองก็ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับรัฐบาล ทั้งยังสนับสนุนการทำงานของนายกฯ อย่างออกนอกหน้ามาโดยตลอด ให้กำลังใจเชียร์ท่าน พร้อมยืนเคียงข้างท่านในทุกสถานการณ์ ทำตามครรลองของคนที่ทำงานด้วยกันพึงจะกระทำ

สำหรับการประเมินเสียงของพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคภูมิใจไทยไม่อยู่แล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเองไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น คิดแต่เรื่องข้อตกลง ความสัมพันธ์ และการร่วมงานที่ดี นายกฯ ก็ชมตนเองตลอดเวลา เรื่องที่ล่าช้าก็โทรมาเร่งรัด ตรงไหนที่ติดข้อกฎหมายก็เรียนไป ท่านน่ารักจะตาย

ถามใครต้องการเก้าอี้มท.1กันแน่

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าหากพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาลจะอยู่ครบวาระหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องให้ผู้สื่อข่าวคิดมากกว่า อยู่ด้วยกันด้วยข้อตกลงและความเข้าใจ ตนเองไม่รู้ว่าความจริงแล้วนายกฯ ต้องการกระทรวงมหาดไทยหรือใครต้องการ ตนเองคุยกับนายกฯ และ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีเพียงสามคนเท่านั้น ไม่ได้มีเรื่องตามที่ออกมาเป็นข่าว คนนั้นไม่ได้อยู่ในที่หารือ เชื่อว่า นพ.พรหมมินทร์และนายกฯ คงไม่พูด ตนเองจึงพูดว่าเราได้คุยอะไรบ้าง

ส่วนใครต้องการกระทรวงมหาดไทย ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เชื่อว่ามีความต้องการแน่นอน พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงมาลงที่กระทรวงมหาดไทยมีความสำคัญอะไรนักหนา ทั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.พนันออนไลน์หรือร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เพื่อที่จะทำงานได้ง่ายหรือไม่ ตนเองก็โล่งอกที่จะต้องไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ตนเองได้บอกกับนายกฯ ไปแล้วว่าเรื่องการพนันออนไลน์และเอ็นเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คณะกรรมการกฤษฎีกายืนยันว่าไม่สามารถแก้กฎกระทรวงได้ แต่ไม่รู้มีใครไปรายงานว่า แค่กระทรวงมหาดไทยแก้กฎกระทรวงก็เรียบร้อยแล้ว

ยันไม่ขวาง เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ

เมื่อวานตนเองให้คำยืนยันกับนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ขวาง ยืนยันการสนับสนุนนโยบายนายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาลโดยที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและศีลธรรมอันดี ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคเห็นชอบ พรรคภูมิใจไทยก็จะเห็นชอบด้วย แต่พรรคได้ออกแถลงการณ์เห็นชอบ เนื่องจากติดหลักทางศาสนา จึงไม่ใช่เจตนารมณ์ จริง ๆ ศาสนาพุทธไม่ใช่จะเอาด้วยเกี่ยวกับเรื่องของการพนัน จึงอยากให้ชัดเจนเอาเรื่องศาสนาออก และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ถ้าเห็นด้วยกันหมด พรรคภูมิใจไทยก็ไม่มีทางเลือกอื่น

อ้างลูกพรรคภท.ไม่ยอม

นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่าในที่ประชุมของพรรคภูมิใจไทยเมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.68) ตนเองได้สื่อสารไปยังลูกพรรคว่า ตอนนี้มีกระแสข่าวความพยายามดึงกระทรวงมหาดไทยแลกกับกระทรวงอื่น ๆ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าจะแลกกับกระทรวงอะไร ถ้าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง ต้องขออนุญาตฉันทานุมัติจากสมาชิกพรรค ขอให้ไว้วางใจในการตัดสินใจของตนเองที่จะดำเนินการให้เป็นประโยชน์ที่สุดต่อพี่น้องประชาชนลูกพรรคก็บอกว่า เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนก็กลายเป็นว่าพรรคภูมิใจไทยโดนอยู่พรรคเดียว ทั้งที่เป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างสุดซอย ทุกเรื่องไม่เคยมีเพี้ยนหรือมีข้อยกเว้น ไม่เคยมีลา ยกตัวอย่างการโหวตไว้วางใจนายกฯ ถ้ายกสองมือได้ก็ยกแล้ว แต่เรื่องงบประมาณ พรรคภูมิใจไทยมาครบหมด ยังมีหลายพรรคที่ลาไปประกอบพิธีทางศาสนา บางพรรคก็ขาด ก็ป่วย

“ผมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลอย่างชัดเจนที่สุด ตัวผมเองยืนอยู่เคียงข้างท่านนายกฯ ในทุกสถานการณ์เวลาแถลงข่าวมีใครยืน มีผมยืนอยู่ตลอด แต่วันนี้ท่านบอกว่าจากนี้ไปจะให้เป็นหน้าที่ของโฆษกรัฐบาลก็เลยไม่ได้ลงมา”

นายอนุทิน ย้ำเงื่อนไขว่าอย่างไรจะต้องได้กระทรวงมหาดไทย ยกเว้นมีเงื่อนไขว่าจะต้องรื้อใหม่หมด คุยกันโดยที่ไม่แยกคุย รัฐบาลชุดนี้จะเอาอย่างไรก็มีเหตุมีผล เพราะตนเองก็ไม่ใช่คนดื้ออะไร นายกฯ ก็มีเหตุมีผลอยู่แล้ว