ศาลอาญาสั่งเลื่อนทนายซักค้าน “สุชาติ ชมกลิ่น” คดีฟ้องหมิ่น “ไอซ์ รักชนก - สหัสวัต” ปมประกันสังคมจัดซื้อตึก SKYY9 เป็น 23 มิ.ย. เหตุทนายติดโควิด-19 กำชับห้ามเลื่อนคดีอีก “เสี่ยเฮ้ง” จ่อฟ้องเพิ่มให้การเท็จ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐานประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา จากกรณีที่ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนพาดพิงถึงนายสุชาติ เรื่องสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าซื้ออาคาร SKYY9 ในสมัยที่นายสุชาติเป็น รมว.แรงงาน โดยวันนี้ศาลนัดทนายความจำเลยเพื่อซักค้านนายสุชาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทนายความของนายสหัสวัติ จำเลยที่ 2 ขอเลื่อนการไต่สวนเนื่องจากติดว่าความคดีที่ศาลอื่น โดยวันนี้นายสุชาติและทนายความเดินทางมาศาล
นายสุชาติ กล่าวก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดีว่า วันนี้เป็นการให้ทนายความฝ่ายจำเลยซักค้าน และตนจะตอบในสิ่งที่จำเลยซักค้าน จึงเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเองเนื่องจากเป็นคนที่รู้รายละเอียดทั้งหมด และสาเหตุที่ฟ้องทั้งคู่มาจากตนถูกใส่ความจนเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนมองว่าการตั้งข้อสังเกตเป็นเรื่องปกติ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นการใส่ร้ายจึงต้องยื่นฟ้องหมิ่นประมาท การไต่สวนในครั้งที่แล้วมีตนเป็นโจทก์ที่ขึ้นไต่สวนเพียงคนเดียว และยังได้เตรียมพยานปากอื่นไว้ด้วยแต่ยังไม่อยากเปิดเผยตอนนี้ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการของศาลอยู่ การฟ้องครั้งนี้เป็นการปกป้องสิทธิของตนซึ่งจะมากล่าวหาใส่ร้ายลอยๆ ไม่ได้ และทั้งคู่ยังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ยิ่งไม่สมควรและควรที่จะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้
...
นายสุชาติยังฝากไปถึงทั้งคู่ว่า การจะกล่าวโทษใครให้เสื่อมเสียชื่อเสียงโดยที่บุคคลดังกล่าวมั่นใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองมีสิทธิที่จะรักษาสิทธิของตนเองและใช้กฎหมายเข้ามาทำให้บุคคลเหล่านี้สำนึกกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป โดยสัปดาห์ก่อนตนฟ้องประชาชนที่เข้าไปคอมเมนต์กล่าวร้ายให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงครอบครัวนั้น ศาลให้ความเมตตาให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกับตน ซึ่งตนให้อภัยทุกคนที่สำนึกผิดเพราะคือประชาชนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่อาจจะคึกคะนองหรือเชื่อสิ่งที่คู่กรณีของตนเผยแพร่ออกไป แต่ในส่วนของ น.ส.รักชนก และนายสหัสวัติ ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ และตนจะไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับทั้งคู่แน่นอน เพราะมองว่าไม่ได้มีคุณค่าอะไรขึ้นมา ใครผิดก็ว่าตามผิด ใครถูกก็ว่าตามถูก ตนเป็นบุคคลสาธารณะก็จริง สามารถตรวจสอบได้ แต่การมากล่าวหาใส่ร้ายจนเสื่อมเสียถึงครอบครัวตนเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม เพื่อลงทุนซื้ออาคาร SKYY9 มูลค่า 3,000 ล้านบาท ไม่ถึงราคา 7,000 ล้านบาท นายสุชาติ ระบุ ต้องกล่าวแบบนี้ว่าก่อนที่จะลงทุนประกันสังคมไม่ใช่แค่ 7,000 ล้านบาท แต่เขาลงทุน 2 ล้านล้าน ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปีจะต้องส่งงบให้สำนักการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รับรองงบ แต่ตอนลงทุนมีบอร์ด 3 ฝ่าย นายจ้าง ลูกจ้าง และศูนย์ราชการ รัฐมนตรีไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนั้นตนก็ดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงานอยู่ด้วย การไต่สวนวันนี้ตนก็มั่นใจว่าฝ่ายจำเลยจะต้องซักค้านตนในประเด็นนี้อย่างแน่นอน แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ในคำถามอยากจะฝากอะไรถึง น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัติ หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า ตนไม่อยากพูดถึง 2 คนนั้น เพราะว่าไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึงแล้ว พร้อมมองว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นเครื่องมือพิสูจน์เรื่องนี้เอง ทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ ลองมองกลับกันถ้าเกิดเป็นตนเข้าไปกล่าวหาทั้ง 2 คนนั้นแบบเสียๆ หายๆ ทั้งคู่ก็ต้องฟ้องกลับตนเหมือนกัน ตนเตรียมส่งทนายความไปยื่นฟ้อง น.ส.รักชนก และนายสหัสวัติ ฐานให้การเท็จ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายในสัปดาห์นี้
ต่อมาศาลออกนั่งบัลลังก์ โดยทนายความจำเลยที่ 2 ซึ่งรับมอบอำนาจจากทนายความจำเลยที่ 1 ได้แถลงศาลขอเลื่อนการซักค้านโจทก์ออกไปก่อน พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ เนื่องจากทนายความจำเลยที่ 1 ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่านัดไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ โจทก์ ทนายโจทก์ และทนายจำเลยที่ 2 มาศาล ทนายจำเลยที่ 2 รับมอบฉันทะจากทนายจำเลยที่ 1 มายื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุว่าทนายจำเลยที่ 1 ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายละเอียดปรากฏตามใบรับรองแพทย์ฉบับลงวันที่ 16 มิถุนายน 2568 เอกสารแนบท้ายคำร้องขอเลื่อนคดี สำเนาให้อีกฝ่าย
ศาลสอบโจทก์และทนายโจทก์แล้ว แถลงคัดค้านการขอเลื่อนคดี อย่างไรก็ตามศาลจึงนำคดีไปปรึกษาอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาแล้วเห็นว่า ทนายจำเลยที่ 1 มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จริง กรณีมีเหตุอันสมควร จึงเห็นควรอนุญาตให้เลื่อน ไปนัดไต่สวนมูลฟ้องเพื่อให้ทนายจำเลยทั้งสองถามค้าน ในวันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น. ทั้งกำชับคู่ความทุกฝ่ายห้ามมิให้เลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุอันสมควรอีก มิฉะนั้น ศาลจะพิจารณาสั่งโดยเคร่งครัด และหากทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุอันสมควร และศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีให้ถือว่าทนายจำเลยทั้งสองไม่ติดใจถามค้าน.