“ชาดา” รับ “เจเศรษฐ์” รวมถึงแกนนำภูมิใจไทยได้รับหมายคดีฮั้ว สว. มั่นใจบริสุทธิ์ แจงได้ มองไม่ใช่ฤดูปรับ ครม. เป็นเวลาแก้เศรษฐกิจปากท้อง-ปัญหาชายแดน ย้ำพรรคมีเกียรติและศักดิ์ศรี ที่ผ่านมาถูกกระทำย่ำยี แต่นิ่งมาตลอด
วันที่ 16 มิถุนายน 2568 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงการนัดประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รัฐมนตรี และ สส.ของพรรคภูมิใจไทยในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อกำหนดทิศทางก้าวต่อไปของพรรคหรือไม่ ว่า ขอชี้แจง เมื่อก่อนพรรคจะมีการประชุมทุกวันอังคารเพื่อเตรียมพร้อมการประชุมสภาฯ ในวันพุธ แต่ช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ กก.บห. กับ สส. ไม่ได้คุยกันเลยเป็นเดือนแล้ว ก็ต้องมีการพูดคุย เป็นการประชุมตามวาระของพรรค ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองที่จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล หรือปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด
นายชาดา กล่าวต่อไปว่า ประเด็นการปรับ ครม. ตนขอพูดในฐานะพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด เกิดจากสำนักข่าวช่องหนึ่งที่ตนไม่ขอพูดถึงเบื้องหลังว่านายทุนพรรคการเมืองหนึ่งไม่ชอบพรรคภูมิใจไทย แต่จะพูดว่ามีการจุดประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาโดยไม่มีเค้าโครงอะไร และพูดทุกวันจนมีการไปถาม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายทักษิณ ก็ระบุว่าอยากได้ทุกแทบกระทรวงเพราะเคยทำงานพรรคเดียวมาก่อน นี่คือความจริง ในพรรคภูมิใจไทยไม่ได้คุยเรื่องนี้ เมื่อมีคนมาถามตน ตนก็ตอบว่าข่าวก็คือข่าว
“ผมจะบอกให้ฟังว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาปรับ ครม. เหมือนตอนนี้หิมะกำลังตก แต่ไปพูดน้ำจะท่วมหรือฝนจะตกซึ่งผิดฤดูกาล ขณะนี้การประชุมงบประมาณปี 69 ยังไม่จบ ต้องใช้เวลา 105 วัน เพราะฉะนั้นฤดูการเมืองต้องรอให้งบประมาณผ่านเรียบร้อย ไม่ต้องรีบร้อน เขาจะปรับก็คงปรับแน่ วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องพี่น้องประชาชน น้ำจะท่วมฝนตกหนัก ซึ่งข่าวที่ออกมาทำให้ข้าราชการปล่อยล้อฟรีหมด เหมือนประเทศไทยหยุดนิ่ง เพราะมีการพูดถึงการปรับ ครม. ทุกวัน ทั้งที่เป็นอำนาจนายกฯ
...
ขอถามว่าข่าวแบบนี้ประชาชนได้อะไร และคนที่น่าเห็นใจคือนายกฯ ที่ทำงานก็ปวดหัวอยู่แล้ว กำลังทำงานก็มาเจอแต่เรื่องแบบนี้ จึงไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องปรับ ครม. และพรรคภูมิใจไทยมีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี พร้อมทำงานทุกด้าน และไม่ใช่เรื่องที่จะพูดท้าทายกัน ฉะนั้น จะอยู่หรือไปคนตัดสินใจคือนายกฯ”
เมื่อถามถึงที่บอกว่าพร้อมในทุกบทบาท หมายถึงพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายชาดา ย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นักการเมืองทุกคนพร้อมเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เราอยู่ในเกียรติยศและศักดิ์ศรีของความเป็นภูมิใจไทย” ก่อนที่ นายชาดา จะกล่าวอีกว่า ถามมาแบบนี้เดี๋ยวก็จะเอาไปพูดว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ตนขอให้ฟังทั้งหมด ไม่ใช่จับเอาเพียงคำพูดบางคำไปเดี๋ยวจะเกิดปัญหา
ผู้ดำเนินรายการถามต่อ ศูนย์กลางอำนาจของพรรคเพื่อไทยต้องการปรับ ครม. จะทำอย่างไร แม้จะบอกว่าขณะนี้ไม่ใช่ฤดูกาลที่จะปรับ นายชาดา เผยว่า อันนี้อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และในพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้มีการพูดคุยกัน คงเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค และ กก.บห.พรรคภูมิใจไทย
หากนายกรัฐมนตรีบอกว่าพร้อมจะปรับ ครม. แล้ว โดยขอคืนเก้าอี้กระทรวงมหาดไทยจะรับได้หรือไม่ นายชาดา ตอบว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงอำนาจของหัวหน้า และ กก.บห.พรรค แต่เชื่อว่าต้องมีการพูดคุยกันทุกเรื่อง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีคุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และขอย้ำในภาพรวมว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมทำงานทุกด้านเพื่อประชาชน ที่ผ่านมาตนรู้สึกอึดอัดกับข่าวที่ออกมา เพราะออกมาจากสื่อ ไม่ได้ออกมาจากนายกรัฐมนตรี อยากให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ และคุยกับหัวหน้าพรรคดีกว่า
ทางด้านกระแสข่าวว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีจะคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขณะที่ช่วงเย็นก็จะมีการประชุมพรรคภูมิใจไทย ทำให้มีการวิจารณ์ว่าวันนี้จะมีการตัดสินใจทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย นายชาดา กล่าวว่า การประชุมพรรคนัดมาก่อนเป็นอาทิตย์แล้ว ไม่ใช่นัดประชุมเมื่อวานหรือวันนี้ เวลามันคนละเรื่องกัน แต่จับมาประติดประต่อกันซึ่งมันไม่ใช่เลย วันนี้ผลประชุมเป็นอย่างไรสื่อมวลชนก็จะรู้ ไม่สามารถปิดความจริงได้อยู่แล้ว
เมื่อถามต่อไปว่า มีการเล่นกันแรงโดยมีกระแสข่าวคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 ของ กกต. มีมติออกหมายเรียก กก.บห.พรรคภูมิใจไทยคดีฮั้วเลือก สว. แบบนี้จะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ นายชาดา ระบุว่า กฎหมายก็คือกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ทำงานของเขา เราก็มีความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเรา เพียงแต่ว่าอย่ามาใช้พฤติกรรมหรือเบี่ยงเบนเป็นรัฐที่ใช้อำนาจกฎหมายข่มขู่ อย่าไปทำแบบนั้น ซึ่งพรรคภูมิใจไทยถูกเรียกก็ต้องไปฟังความชัดเจน เป็นเรื่องที่ว่ากันตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
ในประเด็นคำถามว่า นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี และรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ถูกหมายเรียกด้วยใช่หรือไม่ นายชาดา ยอมรับว่า “มีครับ ได้รับหมายแล้ว” และ กก.บห.พรรคได้รับหลายคน ซึ่งเราพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์และยืนยันข้อเท็จจริง ส่วนนายอนุทิน ได้หมายด้วยหรือไม่ ตนไม่ทราบ
“พรรคภูมิใจไทยจะอยู่หรือไปไม่เกี่ยวกับ กก.บห.พรรคโดนคดีฮั้ว สว. เรื่องนี้ไม่สามารถมากดดันพรรคภูมิใจไทยได้ เราเป็นพรรคการเมืองที่อยู่อย่างมีเกียรติยศและศักดิ์ศรี จะมาทำพฤติกรรมอะไร ผมคิดว่าเขาคงไม่ทำกันหรอก”
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงเรื่องที่ระบุว่าพรรคมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ถ้ามาขอเก้าอี้มหาดไทยคืนโดยไม่มีคำอธิบายที่ฟังได้ก็จะหักใช่หรือไม่ นายชาดา ตอบกลับว่า ไม่ใช่อย่างนั้น คำที่ตนบอกว่ามีเกียรติมีศักดิ์ศรี ตนพูดให้ทุกคนฟัง ทั้งรัฐบาล ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนด้วย เพราะไม่อยากให้เอาข่าวมาย่ำยีพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเราถูกกระทำ และนั่งนิ่งมาตลอด ซึ่งเป็นเรื่องที่เสียความรู้สึก แต่เราก็ยอมรับในฐานะพรรคการเมืองที่ต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์.