หลังแจงที่ประชุมแพทยสภา “สมศักดิ์” ชี้ ถ้ามีความรู้สึกผิดอยู่ในใจบ้างก็ทบทวนเถอะ ยัน ทำหน้าที่จบแล้วในฐานะสภานายกพิเศษ ย้ำ ไม่เกี่ยวกับ “ทักษิณ” เป็นเรื่องจริยธรรมแพทย์ ระทึก ก่อนกลับหวิดถูกปารองเท้าใส่
เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 12 มิถุนายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ให้สัมภาษณ์ภายหลังชี้แจงต่อที่ประชุมแพทยสภา ในเวลา 12.00-12.15 น. กรณียับยั้ง (วีโต้) มติแพทยสภาในการลงโทษ 3 แพทย์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า เข้าไปใช้เวลา 15 นาทีเอาเอกสารที่เตรียมมาให้ทั้งหมด 10 หน้า ในส่วนของกฎหมายก็ฝากไป 2 หน้าเกี่ยวกับเรื่องของผู้มีสิทธิ์ในการเข้าประชุม เป็นคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เป็นส่วนของฝ่ายกฎหมายได้ฝากติดไป
ตนได้อธิบายความตามที่ได้เคยอธิบายในเรื่องของการลงโทษทั้งหลาย เพิ่มเติมในส่วนของจริยธรรม ซึ่งมีอยู่ในเอกสาร ในช่วงของสรุปคงได้ดูว่าการลงโทษตรงนี้ถ้าเป็นบรรทัดฐานใหม่ และลูกหลานของคนไทยที่เป็นแพทย์จะขาดความมั่นใจในการรักษาผู้คนหรือไม่ อย่างไร และจะเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นกับคนป่วยที่ไม่ได้มีโอกาสทุ่มเท
พร้อมยกตัวอย่างโรงเรียนแพทย์ หรือโรงเรียนในมหาวิทยาลัย เวลาเราส่งคนไข้จากหน่วยบริการของหลักประกันสุขภาพแห่งชาติไป เราส่งไป 1 โรค เขาดู 3 โรคกลับมา ค่ารักษาก็เพิ่มขึ้นอะไรต่างๆ นั่นก็เป็นเรื่องการเอาใจใส่ดูแล ก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมาย เราก็ต้องจ่ายเงินตามที่เขารักษาด้วยก็เป็นส่วนหนึ่ง

...
“ในข้อเท็จจริงมีเช่นนี้ ผมก็เน้นย้ำในคณะกรรมการของ ศ.นพ. อมร ลีลารัศมี ใช้เวลา 5 เดือนกว่ากับการส่งคำพิจารณาโทษลงไป อยู่ๆ เป็นคณะกลั่นกรองจริยธรรมใช้เวลาก่อนประชุมบอร์ด 7 วัน มาประชุมกันใช้ระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึง 1 วัน บางคนบอกไม่ถึง 3 ชั่วโมงด้วย แล้วก็ปรับแก้โทษไปทั้งหมดเลย บอร์ดก็ไม่ได้อ่านโดยละเอียด ก็ลงโทษไปในแนวทางนี้ ผมก็ให้แนวต่างๆ ที่ส่งไว้ในเอกสาร 4 ข้อท้ายบอกว่า ถ้าเป็นลูกหลานเขาเอง หรือถ้าเขามีความรู้สึกมันผิดอยู่ในใจบ้างเล็กน้อยก็ทบทวนเถอะ ผมก็ใช้เวลาเต็มที่เท่าที่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงการแนบคำสั่งศาลปกครอง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องผู้มีสิทธิ์หรือลงคะแนนโหวต เพราะเดี๋ยวจะเป็นปัญหาภายหลัง และยังมีบุคคลที่ 3 ที่จะคอยฟ้องร้องเข้ามาอีก มันเป็นเรื่องของกฎหมาย ถ้าเราไม่บอกไม่เล่า แล้วไปพูดทีหลังไม่มีประโยชน์ การขึ้นโรงขึ้นศาลทำให้รัฐเสียเงินเสียทองมากมายเปล่าๆ อะไรที่เริ่มด้วยดีแล้วก็ขอให้มันเดินไปด้วยดี
ส่วนคำถามว่าไม่ได้เป็นการขู่ก่อนโหวตใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ยืนยันว่าไม่ได้ขู่ พร้อมระบุว่าทางกรรมการไม่ได้สอบถามเพราะเป็นหน้าที่ตนชี้แจงในเวลา 15 นาที เมื่อครบเวลาก็ต้องออกตามมารยาท โดยมีการขอเปิดนิด้าโพลในเรื่องเรตติ้งของแพทยสภาที่ตกไป ว่าผลสำรวจคนไม่เห็นด้วยถึง 54% ถ้าเราเดินไม่ดีองค์กรที่น่าเชื่อถืออย่างสูงมันจะลดลงความเชื่อถือไป

ทางด้านคำถามถึงคำว่าดิวัวร์กระทบคราดในเอกสารหมายความว่าอย่างไร นายสมศักดิ์ระบุว่า ก็หมายความอย่างนั้น โกรธคนหนึ่งก็ไปตีอีกคนหนึ่ง แล้วคนที่ถูกตีก็เจ็บและกระเทือนไปทั้งระบบหมอที่เกิดมาใหม่ จะไม่มีใครอยากมาทำหน้าที่ตรงนี้ พวกเราก็เดือดร้อน ขณะนี้ยังขาดหมอทั่วประเทศอยู่ 3 หมื่นกว่าคน
เมื่อถามถึงบรรยากาศในห้องประชุม นายสมศักดิ์ตอบว่าเงียบสงบ มีเสียงครืดคราดคงเป็นระบบสื่อสาร ในคำถามว่าที่ประชุมมาครบ 70 คนหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า “ผมไม่ทราบ เขาไม่ให้ผมรู้หรอก ก็เต็มห้อง 70 คนก็ไม่เยอะหรอก”
หากแพทย์ใหญ่ลงมาติดตามเดิม นายสมศักดิ์ ตอบว่า “หน้าที่ผมก็จบในเรื่องของแพทยสภาแล้ว ว่าทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ในมาตรา 24 ผมสามารถทำการชี้แจง ทำความเข้าใจ หรือเพิ่มเติมในส่วนที่จะให้ข้อคิดแนวทางต่างๆ ได้ ผมก็ทำให้ครบ” ถ้าผลโหวตไม่เป็นไปตามวีโต้จะทำอย่างไรต่อ “ก็เป็นหน้าที่ของผู้อื่นแล้ว ผมทำหน้าที่ครบ แล้วก็ยังมีหมอที่จะต้องถูกสอบตามมาอีก ก็ต้องไปดูเรื่องของคนใหม่”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ามองการลงมติวันนี้จะส่งผลการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์คนอื่นด้วยใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ บอกว่า มันเป็นรายละเอียดเราอย่าไปติ๊งต่าง เราต้องดูรายละเอียดว่ามันมีผลกระทบที่เขายังสอบไม่เสร็จอะไรต่างๆ ในประเด็นคำถามถึงเรื่องที่มีเครือข่ายแพทย์ล่ารายชื่อ 750 คน จะขอเปิดประชุมแบบเปิดเผย รวมถึงบางกลุ่มจะขอให้ไม่มีตำแหน่งสภานายกพิเศษ นายสมศักดิ์ มองว่าตำแหน่งนี้สำหรับตนไม่ได้คิดอะไรตนมาทำตามหน้าที่ เพราะถ้าไม่มาทำตามหน้าที่จะถูกร้องเรียนได้ เพราะสมัยนี้คนที่ร้องเรียนก็จ้องจะร้องเรียน
“การทำหน้าที่ก็ไม่ใช่สบายนักหรอก ต้องทำการบ้านต้องดู ต้องอะไรต่างๆ และก็พยายามทำให้ดีที่สุด เพราะว่ามีงานมากก็เหนื่อยมาก บางทีเป็นงานที่เกี่ยวกับคนทะเลาะกัน อย่างผมเนี่ยจะไปทะเลาะกับใคร เกิดมาในชีวิตเป็นนักการเมืองก็นานแล้ว ผมเป็นนักการเมืองที่มีผลกระทบกับนักการเมืองด้วยกันน้อยที่สุด ถามนักการเมืองเพื่อนๆ กันเลยว่า ผมเป็นมานาน และก็ไม่ได้มีผลกระทบกระทั่งกับใคร เพราะผมพยายามทำอะไรที่มันเป็นหน้าที่ของเรา ถ้าไม่ใช่หน้าที่ของเราก็อย่าไปยุ่งกับของผู้อื่นเขา”

กรณีถ้าแพทย์ 2 คนโดยดำเนินคดี ทางกระทรวงสาธารณสุขจะมีการตั้งทีมทนายให้ความช่วยเหลือหรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ก็ไม่ได้เกี่ยวกัน และตำแหน่งสภานายกพิเศษเป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งกฎหมายแต่ละฉบับจะทำกฎหมายจะแก้กฎหมายบางครั้งก็นานถึง 2 ปี พูดไปก็เสียเวลาเปล่า ส่วนเรื่องตำแหน่งนี้มีหรือไม่มีดีกว่า กฎหมายมาตราใหญ่นี้ต้องแก้โดยสภาผู้แทนราษฎร มีวุฒิสภา และต้องมีเรื่องของการโปรดเกล้าฯ กฎหมาย ใช้เวลานานมากอย่าไปพูดมันเลย
กรณีชั้น 14 ของนายทักษิณ ถูกมองว่าการเมืองกำลังอุ้มแพทย์ หรือช่วยทักษิณ นายสมศักดิ์ ตอบทันทีว่า ไม่ใช่หรอกใน เพราะในเรื่องของท่านอดีตนายกจบและผ่านไปแล้ว แต่การลงโทษของแพทย์จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ ลูกหลานคนเรียนแพทย์ก็จะสะดุ้งกลัว หนาวสั่นกันไปเปล่าๆ ทั้งที่มีเจตนาดี
กรณีม็อบระบุว่าจะมีการยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบนายสมศักดิ์ มองอย่างไร นายสมศักดิ์ ตอบสั้นๆว่า ไม่รู้ไม่ทราบ เมื่อถามย้ำว่าการพิจารณาของแพทยสภาวันนี้ยืนยันตามมติเดิม จะเป็นการยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่ป่วยจริงหรือไม่ นายสมศักดิ์ บอกว่า ไม่เกี่ยวกัน คนละประเด็นไปแล้ว อันนี้เป็นเรื่องจริยธรรมแพทย์ ถ้าไปถามอย่างนั้นมันจะปนกัน ทำให้คนฟังจะงงงวย เหมือนกับไม่มีแพทยสภาได้หรือไม่ มันเป็นไปไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องของกฎหมาย

เมื่อถามอีกว่าจะทำอย่างไรถ้าไม่ได้อยู่ต่อที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ ตอบว่า “ไม่ทราบ” ส่วนคำถามว่ากังวลหรือไม่ถ้าโดนยื่น ป.ป.ช. โดยนายสมศักดิ์ไม่ได้ตอบและเดินออกจากจุดสัมภาษณ์ไป ทั้งนี้ในระหว่างนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์และเดินเพื่อไปขึ้นรถ มีกลุ่มมวลชนส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนบอกให้ออกไป ในช่วงหนึ่งมีเสียงกล่าวว่ามีคนเตรียมไข่มาด้วย นายสมศักดิ์ จึงกล่าวขึ้นว่า “มันมีไข่ด้วยหรือ ผมเสียดายสูทผมมันแพง” ก่อนจะยิ้มออกมา แต่ในระหว่างนั้นยังก็มีเสียงตะโกนไล่ให้ออกไปจนกระทั่ง นายสมศักดิ์ สามารถขึ้นรถไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ามีชายสูงวัยคนหนึ่งถอดรองเท้าทำท่าจะปาใส่รถนายสมศักดิ์ โดยยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่าตั้งใจจะปารองเท้าใส่นายสมศักดิ์ พร้อมถามว่ามาเอาซีนอะไร.
