“โจ้ คมสัน” บุตรชายซินแสภาณุวัฒน์ ประกาศลงชิงผู้ว่าฯ กทม. อ้อนฝากเนื้อฝากตัว ขอนำกรุงเทพฯ “Move on” ก้าวออกจากวังวนปัญหาเดิมๆ

วันที่ 11 มิ.ย. 2568 นายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ประกาศลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ผม ดร.โจ้ คมสัน พันธุ์วิชาติกุล มีความตั้งใจจะลงสมัครรับเลือกตั้ง “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ในปี 2569 ตนเองเคยทำงานทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ทำให้ผมเข้าใจในระบบและกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ที่จะนำไปสู่การพัฒนา แก้ไขอย่างฉับไว รวดเร็ว ตรงจุด ด้วยความรู้ความเข้าใจ

การทำงานจะสำเร็จลุล่วงได้นั้น มีหลายปัจจัย อย่างผู้ว่าฯ กทม. ต้องทำงานทั้งกับฝ่ายข้าราชการประจำและฝ่ายข้าราชการการเมือง ผมมีความเชื่อมั่นที่จะสามารถบูรณาการการร่วมมือเพื่อให้ทำงานออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากผมเคยดำรงตำแหน่งในสภา กทม. ที่ประสานทั้ง 2 ฝ่าย

ที่สำคัญต้องมีคณะทำงานที่ดี มีคุณภาพ มาเป็นอีกแรงในการลงพื้นที่ รับฟัง เพื่อการผลักดันความต้องการ หรือรับรู้ปัญหาที่แท้จริงของประชาชน จัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับการพัฒนาในแต่ละพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อใดที่เรามองข้ามผลประโยชน์ตนเอง เราจะเห็นผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชน ดังนั้นเราควรเคารพประชาชนที่เป็นเจ้าของเสียง เจ้าของประเทศ ด้วยการอาสาเข้ามาทำงานจนสัมฤทธิ์ผล บรรเทาความเดือดร้อน จัดการแก้ไข สะสางทุกเรื่องที่ยังค้างคา หมักหมมใน กทม. ให้ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ

ตนเองและคณะทำงาน พร้อมมุ่งเน้นพัฒนาในทุกด้านทั้งสาธารณูปโภค เศรษฐกิจ สังคม เพื่อให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องชาว กทม. มีความปลอดภัย มีรายได้ มีความสุข จัดระเบียบต่างๆ ให้สมกับเป็นเมืองมหานคร เมืองหลวงของประเทศ

...

ถึงเวลาแล้วที่ “กรุงเทพฯ ต้อง Move on” ก้าวออกจากวังวนปัญหาเดิมๆ ขอฝากเนื้อฝากตัว จะเข้ามาทำงานด้วยความถูกต้อง ถูกใจของพี่น้องชาว กทม. ให้มากที่สุดครับ

ทั้งนี้ นายคมสัน เป็นบุตรนายภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล อดีต สว. หรือซินแสภาณุวัฒน์ โดยเส้นทางการเมืองโดยการเป็นที่ปรึกษาของโฆษกคณะรัฐมนตรี และทำงานคณะกรรมาธิการคณะต่างๆ ตั้งแต่ในช่วงปี 2548 จากนั้นทำงานการเมืองในฐานะ สก.เขตบางพลัด เคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้สมัคร สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรองโฆษกพรรคเศรษฐกิจไทย และโฆษกพรรครวมแผ่นดิน อีกทั้งเคยไปช่วยงานผู้ใหญ่ในพรรคต่างๆ จนตัดสินใจประกาศลงผู้ว่าฯ กทม. ในครั้งนี้