"สนธิ ลิ้มทองกุล" นำกลุ่มคนรักชาติยื่นหนังสือเรียกร้องนายกฯ 6 ข้อ ต้องรักษาอธิปไตยแผ่นดินไทย จี้ยกเลิก MOU43-44 ไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ต้องใช้กระบวนการพูดคุย JBC เท่านั้น

วันที่ 10 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อมด้วยนักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน นายวีระ สมความคิด, นายนิติธร ลำเหลือ, นายพิชิต ไชยมงคล ฯลฯ เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติ

โดยทางกลุ่มผู้รักชาติรักแผ่นดินยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการมาตรการหกข้อคือ 1. รัฐบาลไทยต้องประกาศย้ำไม่ยอมรับอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศและไม่ยอมรับการที่กัมพูชาจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่ว่ากรณีใดๆ และต้องใช้กลไกของคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา หรือ JBC เท่านั้น

2. รัฐบาลไทยต้องประท้วงอย่างเป็นทางการทั้งต่อกัมพูชาและสากลว่า ทั้งสี่ปราสาทและศาลาตรีมุขที่กัมพูชาได้ยื่นต่อศาลโลก เป็นดินแดนอธิปไตยของไทย และต้องแก้ไขคำพูดของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่าการรุกล้ำของกัมพูชานั้นไม่ใช่ no man’s land แต่เป็นแผ่นดินของไทยเท่านั้น

...

3. สั่งการและมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิก MOU2543 เพื่อยกเลิกแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ที่ทำขึ้นโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียวแม้เป็นมาตราส่วนที่มีความหยาบ และคลาดเคลื่อนได้ถึง 200 เมตรทำให้เกิดความขัดแย้งมาตลอด 25 ปี และให้ใช้กลไกของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา กำหนดจัดทำหลักเขตที่สูญหายและเส้นสันปันน้ำขอบหน้าผาตามธรรมชาติโดยใช้เทคโนโลยีเป็นวิทยาศาสตร์ในการตัดสินที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก

4. สั่งให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิก MOU2544 เพื่อยกเลิกเส้นไหล่ทวีปที่รุกล้ำอธิปไตยน่านน้ำไทย 5. สั่งการและมีมติเพิ่มอำนาจต่อรองให้กับไทยก่อนการเจรจา JBC ที่จะมีในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และยังคงลดเวลาในการเปิดด่านไทย-กัมพูชาโดยเฉพาะพื้นที่บ่อนคาสิโน ไม่เพียงแค่จะบรรลุเรื่องของการก่ออาชญากรรมเท่านั้นแต่จะต้องปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์พนันออนไลน์การค้าอาวุธสงครามยาเสพติดรวมถึงหยุดการตัดไม้ทำลายป่าในเขตอุทยานแห่งชาติ แต่หากการกดดันและการเจรจาไม่เป็นผลต้องยกระดับในการยกเลิกการส่งออกสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับกัมพูชาทั้งการตัดไฟตัดสัญญาณมือถืออินเทอร์เน็ตและน้ำมันจนกว่าการเจรจาจะบรรลุ

และสุดท้ายข้อ 6. หากสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาเลวร้ายลงเพียงพอมาตรการไม่เพียงพอหรือการเจรจาไม่ได้ผลให้กองทัพไทยสามารถประกาศกฎอัยการศึกเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนที่มาจากความเกี่ยวพันทางเครือญาตที่ใกล้ชิดของผู้นำทางการเมืองของสองประเทศซึ่งสมยอมผลประโยชน์ส่วนตนซึ่งกันและกันโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ

ขณะที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล มีตำรวจนำรถตู้มาจอดเป็นแนวอยู่บริเวณถนนพิษณุโลก คุมเข้มมาตรการในการรักษาความปลอดภัยไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันในวันนี้รุกล้ำเข้าไปในทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี

ขณะที่ด้านในทำเนียบรัฐบาลวันนี้เป็นที่สังเกตว่ามีรถตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือมาจอดที่ด้านข้างตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นตึกที่ใช้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้