วงเสวนาวาระเพื่อชาติ “หมอวรงค์” ซัด รัฐบาลไทยอ่อนแอ แนะแพทยสภาวีโต้กลับ “สมศักดิ์” ด้าน “อัญชะลี” ตอก “อิ๊งค์” โมโหนักข่าวไม่ใช่สิ่งดี แนะใส่ชุดลายพรางไปเยี่ยมชายแดน ขณะที่ “นิติธร” ปลุกคนในโซเชียล ออกมาสู่สนามจริง ชวนลงถนนอีกรอบ “จตุพร” ปิดท้ายชี้ พ่อลูกคู่นี้อยู่ ประเทศเสียดินแดนแน่

วันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่อาคารพีซ ทีวี มีการจัดเสวนาเวทีประเทศไทยมีปัญหา เป็นเวลาของคนไทย เสวนาสาธารณะ วาระเพื่อชาติ โดยมีบรรดาบุคคลสำคัญทางการเมืองขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการทางกฎหมาย พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าว

“หมอวรงค์” ซัด รัฐบาลไทยอ่อนแอ-แนะแพทยสภาวีโต้กลับ “สมศักดิ์”

...

โดยนายแพทย์วรงค์ ได้ขึ้นเวทีกล่าวเสวนาคนแรก ว่า เชื่อว่าที่วันนี้เรามารวมตัวกันเราคงจะรับรู้ว่า 12-14 มิถุนายนมีเหตุการณ์สำคัญ หลังจากนั้นรัฐบาลต้องมีอันเป็นไป ตัวเองอยากจะส่งสัญญาณไปยังรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่เป็นหัวหน้ารัฐบาลมีอำนาจเต็มในฐานะตัวแทนประชาชนชาวไทยในฐานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประชาชนคนไทยเรียกร้องให้รักษาอธิปไตยของประเทศชาติที่เป็นพื้นฐาน ของเกียรติ ศักดิ์ศรีของความเป็นคนไทย ไม่ใช่ปากบอกให้สันติ สงบ เจรจาเพราะดูหน่อมแน้มเฮงซวย คำว่ารักษาอธิปไตยไม่จำเป็นต้องเกิดสงคราม เมื่อเจรจาไม่เป็นผลถึงจุดๆหนึ่งรบก็ต้องเป็นรบ

“อุ๊งอิ๊งค์ ทำไมคุณถึงไม่กล้า คุณกลัวฮุนเซ็นใช่ไหม ฮุนเซ็นเป็นพ่อคุณเหรอ ผมไม่เข้าใจ นี่คือปัญหา รัฐบาลไทยมันอ่อนแอ” นายแพทย์วรงค์ กล่าว

นายแพทย์วรงค์ ยังกล่าวอีกว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่มีสิทธิไปเกี่ยวข้องกับแพทยสภา ระวังจะถูกข้อหาแทรกแซงแพทยสภา นี่มันบ่งบอกว่าระบอบทักษิณมันกลับมาแล้ว ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ใช้อำนาจรัฐจัดการ พออ่านข้อวีโต้ ขอให้พี่น้องกรรมการแพทยสภากว่า 70 คน รวมพลังวีโต้สู้กลับ นายสมศักดิ์ อีกครั้ง

“อัญชะลี” ตอก “อิ๊งค์” โมโหนักข่าวไม่ใช่สิ่งดี แนะใส่ชุดลายพรางไปเยี่ยมชายแดน

ด้านนางสาวอัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าว กล่าวว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีต้องใส่ชุดลายพรางใส่รองเท้าบูทไปเยี่ยมทหารที่ชายแดน ไม่ใช่หมกตัวอยู่ที่กรุงเทพมหานคร เวลานักข่าวถามถึงเรื่องชายแดนจะได้ไม่ไปโมโห

“โมโหนักข่าวไม่ใช่สิ่งที่ดี มันทำให้วุฒิภาวะผู้นำไม่มี จะไปบอกว่าไม่มีไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่เคยมี ถ้าเราไปบอกว่าไม่มีวุฒิภาวะ เท่ากับเราไปกล่าวหาเขา เพราะเขาไม่มี แล้วจะไม่มีวันมี อุ๊งอิ๊งค์ออกไป” นางสาวอัญชะลี กล่าว

“นิติธร” ปลุกคนในโซเชียล ออกมาสู่สนามจริง ชวนลงถนนอีกรอบ

ขณะนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับช่องบก ตาเหมือนทม ไม่ใช่การขายชาติแต่เป็นการยกชาติให้เขาไปแบบฟรีๆ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะอ้าง MOU 43 หรือ No man’s land ทุกอย่างเป็นการสร้างพยานหลักฐานเพื่อให้เข้าหลักกฎหมายปิดปาก เพื่อประโยชน์ของทางกัมพูชาล้วนๆ การที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดถึงพื้นที่ No man’s land เท่ากับสละอำนาจอธิปไตยของประเทศและยกดินแดนให้เขาไปแล้ว ดังนั้นต้องมีการประกาศยืนยันว่าจะไม่มีการเจรจา JBC เราต้องถือโอกาสนี้ยกเลิก MOU 43 ทันที

“วันข้างหน้าหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้น ต้องไม่เอาเพราะมันไม่ใช่ทางออกของประเทศนี้ อำนาจจะวนอยู่แค่นี้รัฐสภา รัฐประหารและเลือกตั้ง ฉะนั้นวันนี้จะต้องเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ได้ ต้องออกจากโลกโซเชียลและเข้าสู่สนามจริง เพราะถ้าอยู่ในโซเชียลเราสู้มันไม่ได้ พี่น้องพร้อมไหมครับถ้าเราต้องลงถนนอีกรอบ ฉะนั้นต้องเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ด้วยประชาชนคนไทยใช้อำนาจอธิปไตยของเราให้เป็นจริง ที่ผ่านมาเราแค่แสดงพลังของเรา เราส่งอำนาจไปให้เขา บ้านเมืองเลยฉิบหายมาถึงถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ไม่ใช่แค่แสดงพลัง แต่เราต้องแสดงอำนาจของเราด้วยพร้อมหรือไม่ เพราะฉะนั้นยุบสภา เลือกตั้งไม่เอา รัฐประหารไม่เอา รัฐประหาร 20 กว่าครั้งแล้วบ้านเมืองฉิบหายทุกครั้ง” นายนิติธร กล่าว

“จตุพร” ชี้ พ่อลูกคู่นี้อยู่ ประเทศเสียดินแดนแน่ ชวนออกมาแสดงจุดยืนคนไทย

ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวเสวนาปิดท้าย ว่าเหตุการณ์ของบ้านเมืองขณะนี้ มีรัฐบาลที่อ่อนแอ ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจสังคมก็ล้มเหลว จนมาตายเรื่องดินแดน หากปล่อยให้พ่อลูกคู่นี้เพล่นพล่านในประเทศไทยเราเสียดินแดนแน่นอน รัฐบาลเลือกตั้งหรือรัฐบาลรัฐประหารรับปากแต่ก็ไม่ทำ วันนี้ประชาชนต้องยืนอย่างแข็งแรง

“อนาคตประเทศไทยต้องประชาชนกำหนด ไม่ใช่นักเลือกตั้งหรือนักรัฐประหาร เพราะมาถึงก็พลัดกันกิน ในวันที่รัฐอ่อนแอแบบนี้ เวทีแบบนี้คงจะมีอีกหลายครั้ง” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร ยังกล่าวอีกว่า วันที่ 10 มิถุนายน เวลา 9.30 น. จะไปที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนวันที่ 11 มิถุนายน จะไปที่แพทยสภา เพื่อจัดการชายที่ไม่มีแผ่นดินจะอยู่ และให้กำลังใจแพทยสภา มวลชนสามารถไปร่วมได้ในเวลา 10.00 น. ส่วนวันที่ 13 มิถุนายน ที่ศาลฎีกา ที่นายทักษิณกล่าวหาว่าคนไม่มีอุดมการณ์ต้องเข้าป่า ตนเองเข้าป่าได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่นายทักษิณจะกล้าเข้าศาลหรือไม่ จึงขอร้องว่าอย่าป่วย

“คนไทยจะปล่อยให้รัฐบาลที่สุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดนอย่างนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นอย่างที่ทนายนกเขาเรียกร้องคนที่อยู่ในโลกโซเชียล ก็ควรออกมาในสนามจริงได้แล้ว ในวันที่เราต้องการกำลังแสดงจุดยืนของคนไทย ว่าเราจะกำหนดด้วยชะตากรรมของเราอย่างไร เราจะรักษาแผ่นดินนี้และจะกำหนดอนาคตของประเทศนี้อย่างไร วันนั้นพบกันครับพี่น้อง” นายจตุพร กล่าว