เสวนาโต๊ะกลมถกข้อดี-ข้อเสีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

เจ้าพ่อกาสิโน ประสานเสียง อย่ามองข้ามโอกาสที่จะเกิดกับประเทศไทย หลังมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยอมรับ “กาสิโน” คือหัวใจดึงดูดรายได้มหาศาล ด้านนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์กังวลเก็บรายได้อาจไม่เท่ากับที่คุย “พริษฐ์” ย้ำ ไทยมีจุดบอดหลายเรื่อง นำไปเทียบกับ “สิงคโปร์” ไม่ได้

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ มีการจัดกิจกรรมเสวนาโต๊ะกลมว่าด้วยสถานบันเทิงครบวงจรของไทย (TECR) โดย Inside Asian Gaming สื่อด้านอุตสาหกรรมเกมและกาสิโนในภูมิภาคเอเชีย โดยมีนายแอนดรูว์ ดับเบิลยู สก็อตต์ รองประธานและเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ภายในงานมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทย โดยมีทั้งการนำเสนอจากผู้บริหารด้านกาสิโนชั้นนำระดับโลก และช่วงถามตอบจากสมาชิกโต๊ะกลมทั้ง 6 คน เพื่อให้ได้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้ามาในประเทศไทย โดยผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาครั้งนี้ เป็นภาคเอกชนจากต่างประเทศที่ทำธุรกิจด้านกาสิโน 3 คน ตัวแทนนักกฎหมายและที่ปรึกษากรรมาธิการการเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร 1 คนคือนายวีรพัฒน์ ปริยสงศ์, ดร.ณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง นักวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์, นายพริษฐ์ วัชรสินธุ จากพรรคประชาชน โดยไม่มีตัวแทนจากมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน และตัวแทนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ผู้จัดเชิญเข้าร่วมก่อนหน้านี้ จึงทำให้ทิศทางของการพูดคุยเน้นไปที่ข้อดีของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นส่วนใหญ่

รับ“กาสิโน”คือหัวใจหลัก

นายจอร์จ ธนาสวิช อดีตประธานและ CEO ของ Marina Bay Sands และอดีตกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาระดับโลกของ LAS VEGAS SANDS อธิบายว่า ความสำเร็จของโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและผู้ประกอบการ พร้อมเน้นย้ำว่า “กาสิโน” คือหัวใจของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และสามารถดึงดูดรายได้มหาศาลจากนักลงทุนและผู้เล่นที่มีคุณภาพ แม้กาสิโนจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการ แต่เขาขอให้สังคมไทยอย่ามองข้ามโอกาสและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น เพราะประเทศไทยมีศักยภาพด้านแรงงานและทำเลที่ตั้งซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ

แนะปรับวงเงินให้เหมาะสม

ในช่วงถามตอบหลังการบรรยาย มีการสอบถามถึงความเป็นไปได้ในการนำโมเดลธุรกิจกาสิโนของสิงคโปร์มาปรับใช้ในบริบทของไทย เพราะภาครัฐและเอกชนมักยกสิงคโปร์เป็นแบบอย่างด้านนโยบายอยู่เสมอ นายจอร์จตอบว่า ประเทศไทยควรเรียนรู้จากจุดแข็งและจุดอ่อนของประเทศคู่แข่ง เพื่อยกระดับคุณภาพสูงสุด เมื่อถูกถามถึงมาตรการที่ห้ามคนไทยเล่นพนัน และกำหนดว่าต้องมีเงินฝากขั้นต่ำ 50 ล้านบาทจึงจะสามารถเข้าใช้บริการกาสิโนได้ นายจอร์จเห็นว่าควรมีการปรับวงเงินให้เหมาะสมกับบริบทของไทย พร้อมทั้งปรามผู้ไม่มีคุณสมบัติเข้าเล่น เพื่อป้องกันปัญหาตามมา พร้อมย้ำว่า “กาสิโนคือเครื่องยนต์เศรษฐกิจ” ซึ่งหลายประเทศได้ทดลองใช้แล้ว และไม่จำเป็นต้องลุ้นผลลัพธ์อีก 

ยกแม่น้ำทั้งห้า “ลีเซียนลุง”ยอมรับ

นายจอร์จ ชอย หัวหน้างานวิจัยเกมของ Citi Research เสนอประโยชน์ทางเศรษฐกิจและข้อดีอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจริงจากการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในหลายประเทศทั่วเอเชียและภูมิภาคอื่น ๆ ระหว่างการบรรยาย นายชอยได้กล่าวว่า แม้แต่ลีกวนยู อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ยังเคยคัดค้านการสร้างกาสิโน แต่เพราะมีงานวิจัยสนับสนุน จึงทำให้รัฐบาลในยุคของลีเซียนลุง ยอมรับแนวคิด “Integrated Resort” ซึ่งรวมกาสิโนกับกิจการหรูหลายประเภท ทำให้เกิดเงินลงทุนหมุนเวียนหลายพันล้านบาทในสิงคโปร์ มีการจ้างงานและธุรกิจรอบแหล่งท่องเที่ยวเติบโตอย่างมาก นายชอยจึงเน้นว่า ประเทศไทยไม่ควรพลาดโอกาสนี้ เพราะหากช้า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอาจทรุดหนักยิ่งกว่าเดิม ขณะที่นายจอร์จ ธนาสวิช ยอมรับว่าเป็นความยากลำบากของการสร้างความเข้าใจแก่สังคมเกี่ยวกับคำว่า “กาสิโน” ว่าไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด พร้อมชี้ว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจควรพิจารณาอย่างเป็นจริง ไม่ใช่ในแง่เพ้อฝัน

จากนั้น นายเลา ก๊ก เกิง หัวหน้าฝ่ายทรัพย์สินทางปัญญา กีฬา และเกม จาก Rajah & Tann Singapore ได้บรรยายในช่วงสุดท้ายก่อนจบภาคเช้า โดยเน้นว่า การดำเนินการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ต้องมีมาตรการป้องกันความเสี่ยง เช่นเดียวกับในสิงคโปร์ ที่มีการจำกัดวงเงินในบัญชีผู้เล่น ตรวจสอบอายุและคุณสมบัติ เพื่อรักษาความปลอดภัย รัฐบาลไทยควรนำแนวทางนี้มาใช้ แทนที่จะห้ามกิจกรรมทั้งหมด แต่ควรควบคุมและออกมาตรการป้องกันผลกระทบ

ไม่เชื่อรายได้เข้าไทยตามที่คุย

ในช่วงสุดท้ายของงานเป็นการตอบคำถามจากผู้ร่วมเสวนา ดร.ณรงค์ชัย ใหญ่สว่าง นักวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์ แสดงความเห็นว่า แม้ตัวเลขเศรษฐกิจจะเติบโตขึ้นภายหลังการมีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเงินที่ได้อาจไม่มากเท่าที่นำเสนอไว้ จึงเป็นกังวลว่า ข้อมูลที่ภาครัฐและเอกชนแถลงอาจไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง ซึ่งประเด็นนี้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวเห็นด้วย พร้อมระบุว่าตนมีความกังวล เนื่องจากเมื่อวันพุธที่ 4 มิถุนายน ได้ฟังแถลงข่าวของรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ซึ่งนำโดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะมีเงินลงทุนจำนวนมาก แต่วันนี้ทางฝั่งเอกชนชี้ชัดว่า ตัวเลขเหล่านั้นจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อคนไทยสามารถเล่นพนันได้ด้วย ขณะที่รัฐบาลกำหนดคุณสมบัติว่าผู้เล่นต้องมีเงินออมขั้นต่ำ 50 ล้านบาท เท่ากับเป็นการปิดประตูคนไทยไปแล้ว นายพริษฐ์จึงตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการบัญญัติในกฎหมายพอเป็นพิธีหรือไม่ ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่า ในเวทีนี้ไม่มีตัวแทนจากคณะกรรมการนโยบายหรือตัวแทนจากฝั่งรัฐบาลแม้แต่คนเดียว นั่นทำให้ทิศทางของการเสวนาในครั้งนี้ไม่สามารถตอบข้อสงสัยหรือพิจารณาปัจจัยที่ครอบคลุมในทุกมิติ

“พริษฐ์”ห่วงผลกระทบทางสังคม

ในช่วงบ่ายได้จัดเป็นเวทีอภิปรายร่วมกันถึงประเด็นต่าง ๆ ของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ท่ามกลางวงเสวนาที่สมาชิกส่วนใหญ่ล้วนสนับสนุนโครงการนี้เพราะมองจากมุมการลงทุนและเศรษฐกิจเป็นหลัก จะมีเพียงนายพริษฐ์ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่น่ากังวลในฐานะนักการเมืองอยู่หลายประเด็น โดยมองว่ารัฐบาลกำหนดผลประโยชน์ไม่ชัดเจนพอ ไม่มีมาตรการป้องกันผลกระทบทางสังคม และการสื่อสารที่เป็นไปได้ยากเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนในสังคมไทย และไม่ได้อยู่ในนโยบายในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

ส่วนเรื่องของความเป็นไปได้ที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะประสบความสำเร็จ เน้นว่ารัฐบาลควรแยกระหว่าง pre-study ในส่วนธุรกิจกับส่วนของประเทศในภาพใหญ่ แม้จะมีงานวิจัยจำนวนมากที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สามารถสร้างกำไรมหาศาล แต่น่าตกใจและเป็นที่ตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ได้เอาข้อมูลดังกล่าวมาใช้อธิบายให้ประชาชนฟังเท่าที่ควร พร้อมถามทิ้งท้ายถึงความเห็นของ Operator ถึงความพึงพอใจต่อการทำให้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถูกกฎหมายของไทย เนื่องจากงานแถลงของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย. 2568) ยังไม่ได้อยู่ในตัวกฎหมาย และเราใช้วิธีการออกกฎหมายใหม่ ไม่ได้แก้กฎหมายเดิมที่เกี่ยวข้องกับการพนันที่แตกต่างจากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการตั้งคำถามว่าเราติดกระดุมเม็ดแรกผิดหรือไม่

ชี้โมเดลสิงค์โปร์ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม นายเควิน เคลย์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายแบรนด์, ประเทศไทย Galaxy Entertainment Group กล่าวว่า ตนได้ทราบว่ารัฐบาลมีแผนที่จะขยายการลงทุนในสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานไว้แล้ว และมาตรการควบคุมเพื่อรองรับโครงการดังกล่าวไว้แล้ว รวมถึงการที่บอกว่าจะใช้โมเดลแบบสิงคโปร์ซึ่งตนมองว่าเป็นแบบที่ดีที่สุด ประกอบกับความเป็นไปได้ทางกำไรที่เห็นได้ชัดจึงมีความมั่นใจในรัฐบาล ถึงตอนนี้จะเป็นหลักการกว้าง ๆ ก็อยากให้ประเทศไทยได้ให้โอกาสตัวเองก่อน เพราะเราประเมินและปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้

สวน “ไทย”เทียบ”สิงคโปร์”ไม่ได้

นอกจากนี้นายพริษฐ์ได้กล่าวเสริมเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่อาจเป็นราคาที่ต้องจ่ายเมื่อได้นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเข้ามา และเรื่องการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวซึ่งถ้าเป็นกลุ่มเดิมแล้วมาเที่ยวในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แทนที่จะไปในสถานที่ท่องเที่ยวเดิม จะทำให้รายได้สถานที่เหล่านั้นลดลงและมากระจุกอยู่ที่ในเมืองที่มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่ สอดคล้องกับที่มีนักข่าวถามเรื่องปัญหาความเหลื่อมล้ำที่อาจเกิดจากการสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่กระจุกความเจริญอยู่ไม่กี่ที่ ในขณะที่เหล่าผู้ลงทุนมองว่าเป็นประโยชน์และโอกาสต่อคนไทย ทั้งเรื่องการจ้างงาน และ SME

ท้ายสุดนายพริษฐ์มองว่าตลอดทั้งวัน เวทีเสวนาได้เปรียบเทียบไทยกับสิงคโปร์มากที่สุด ซึ่งในความเป็นจริงมันอาจเทียบได้ยากจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ค่าเงินและอัตราการคอร์รัปชัน การที่เอกชนสนใจลงทุนก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่รัฐบาลคิดจะดีเสมอไป ย้ำว่ารัฐบาลต้องสร้างความสมดุลในของการดึงดูดการลงทุนและผลประโยชน์ของประชาชนให้ดี