“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” เผย ไม่มีสัญญาณปรับ ครม. ปัดพรรคเพื่อไทยขอคืนเก้าอี้มหาดไทย ทักทาย “อนุทิน” ตลอดแต่ไม่มีคุยเรื่องนี้ มอง คนปล่อยโผอาจเห็นความสามารถตัวบุคคล ไม่รู้ “นฤมล” โผล่นั่ง รมช.คลัง ขออย่าคิดว่าจะกระทบงานตน

วันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรี ถึงขั้นมีการปรับเปลี่ยนกระทรวง โดยระบุว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณใด ๆ ทุกวันนี้คณะรัฐมนตรีก็ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนการปรับอย่างไรนั้นก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนการพิจารณาตนเชื่อว่าจะใช้ความเหมาะสมในการบริหารราชการเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้เราก็มีปัญหารุมเร้าอยู่หลายเรื่อง ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว

ส่วนกระแสข่าวที่พรรคเพื่อไทยจะขอคืนกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทยกลับมานั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่า ไม่มีหรอกครับ ในมุมคณะรัฐมนตรีที่พบปะกันอยู่เรื่อย ๆ รวมถึงการที่ตนได้พบกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวันประชุม ก็ได้ทักทาย ซึ่งก็ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ไม่มีเรื่องปรับเปลี่ยนกระทรวงมาพูดคุยกันเลย ซึ่งตนก็คิดว่าเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนอาจจะไปได้ยินมา แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าข้อสรุปคืออย่างไร โดยย้ำว่า รายงานข่าวก็คือรายงานข่าว คนให้ข่าวก็ใช้คำว่าแหล่งข่าว ไม่รู้เป็นใครไม่เห็นตัว ยืนยันไม่ได้

ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่าการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้จะไม่กระทบถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์ ระบุว่า ไม่มี เราทำงานกันอย่างราบรื่นอยู่แล้ว มีหลักจิตเดียวกันคือประชาชนและการขับเคลื่อนประเทศ สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าอยู่ตรงไหนก็ทำหน้าที่ตรงนั้นให้ดีที่สุด ไม่ได้เป็นเรื่องขัดแย้งอะไร

...

ส่วนเป้าประสงค์ของคนปล่อยข่าวโผ ครม. นั้น ตนมองว่า คนที่ให้ข่าวไม่ได้ให้แค่ครั้งเดียว กลุ่มเดียว เพราะตามข่าวมีกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีไป 10 กว่ารอบแล้ว แต่ก็เข้าใจว่า คนปล่อยอาจจะมองไปถึงความสามารถในการทำงานของแต่ละท่าน แต่สุดท้ายก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนรายชื่อที่ออกมาตนคิดว่าสุดท้ายก็ต้องถูกบ้างเพราะว่ามี 10 โผที่ออกมา ยังไงก็ต้องถูกซักอัน

ส่วนกระแสข่าวที่ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรายชื่ออยู่ในโผรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังนั้น นายจุลพันธ์ ระบุว่าไม่ทราบ อย่าไปคิดว่ามีการกระทบตำแหน่งหน้าที่การงานของตน