“รองนายกฯ ภูมิธรรม” เยี่ยมทหารชายแดนช่องบก ให้กำลังใจกำลังพลแนวหน้า รัฐบาลเน้นเจรจา ป้องกันบานปลาย ย้ำ กองทัพ-การเมืองไม่มีปัญหา พร้อมหนุนป้องกันการลุกล้ำ ลั่นไม่ให้ใครละเมิดอธิปไตยไทยเด็ดขาด

วันที่ 4 เมื่อเวลา 16.30 น. จ.อุบลราชธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดน และรับฟังการบรรยายสรุปการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังสุรนารี เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนหลังเกิดกรณีการปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชาที่ช่องบก และตรวจเยี่ยมสร้างขวัญและกำลังใจ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ต้อนรับ ว่า จริงๆ แล้วได้รับรายงานสถานการณ์มาโดยตลอด แต่การลงพื้นที่วันนี้ตั้งใจไปให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น และตั้งใจไปดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่าข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดก็ไม่ใช่ มันเป็นของเก่า ซึ่งข่าวที่ออกมาขณะนี้มันบั่นทอน ตนอยากให้พวกเราเอาใจใส่เป็นพิเศษ อย่างเราฟังมาเรื่องกับระเบิด ก็พบว่าไม่ใช่ แต่คงไม่ใช่สาระสำคัญ สำคัญคือ มาเยี่ยมเยียนตามจุดต่างๆ ว่านโยบายที่รัฐบาลคิดและสิ่งที่เราทำมาตลอด ก็ขอให้ยืนหยัดและยึดมั่นตรงนี้ ใช้กำลังทหารในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ที่ผ่านมาเรารับรู้มาโดยตลอด ตั้งแต่มีการเผาศาลาแล้วเราก็เข้าใจมีการพูดคุยกัน

นายภูมิธรรม กล่าวว่า อันนี้ก็ให้ความมั่นใจว่าถ้ามีอะไร ต้องการใช้งบประมาณในการที่จะทำอะไรต่างๆ ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น อันนี้พูดไปถึงในระยะยาวเราก็ยินดี เพราะในเรื่องอธิปไตยของประเทศเราก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน แต่กำลังบอกท่านทั้งหลายว่า เราเห็นชอบกันตั้งแต่ต้นว่าระยะเวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่เป็นสิ่งที่โลกเขาอยากเห็น และเราก็ยังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่มันเกิดขึ้นในแต่ละจุดเราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เราอยากคุยในจุดที่มีปัญหา เขาจะขยายไปปราสาทโน้นปราสาทนี้ แต่เราบอกว่าเราไม่ตามไป เราต้องการคุยจุดที่เกิดเหตุ มันมีอะไร เป็นข้อตกลง ก็จะคุยกันประมาณนี้

...

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้นเราตกลงกันแล้วว่า เราจะคุยด้วยกันตลอดไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่แบบว่าทหารจะแข็งแรงจะไปนู่นไปนี่ แต่เราไปขัดขวาง มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะมันยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนด้วย แต่ถ้ามีสิ่งบอกเหตุที่ต้องยกระดับมาตรการ เราก็พร้อมอยู่แล้วและสิ่งที่วางไว้ในทุกจุดก็ไม่มีปัญหาอะไร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่าสิ่งที่ท่านทำมีความสมบูรณ์ไม่มีข้อบกพร่อง ท่านทำหน้าที่ตามหน้าที่ของทหารหาญที่จะต้องปกป้องอธิปไตย ซึ่งที่ผ่านมาทหารของเราก็มีวินัยดีมาก ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญต้องระมัดระวังเพราะว่าถ้าใช้อารมณ์ขึ้นมา มันอาจเกิดความผิดพลาดบานปลายได้ ก็เลยบอกว่าเห็นใจและขอให้ใช้ความอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด

“เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด เท่าที่จะทำได้ ส่วนจะยกระดับอย่างไรนี่ ผู้ใหญ่ทั้งแม่ทัพ ผบ.ทบ รัฐมนตรีช่วย และตน รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศจะต้องคุยกัน” ถ้ามีอะไรเกินเลยฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งก็จะได้ดำเนินการโดยทันทีทันใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะฝากประชาชนถึงข่าวต่างๆ อย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยากฝากพี่น้องประชาชนว่าในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเข้าสู่ความขัดแย้งในระหว่างประเทศ สิ่งสำคัญที่มากที่สุดก็คือต้องใช้สติ และต้องดูข้อมูลต่างๆ อย่างเลือกสรร อย่างตนในชีวิตตนไม่เคยเจอสมเด็จฮุนเซน แต่มีรูปผมกราบไหว้ ลูบหัวผม อันนี้มันแย่มาก หลายเรื่องต้องใช้สติ เพราะมีคนต้องการให้เกิดความขัดแย้ง

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอยืนยันอย่างมั่นใจและเข้มแข็งว่า รัฐบาลรักษาอธิปไตยของประเทศ เป็นสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญอย่างแน่นอน อย่างที่นายกฯ บอกเพลงชาติไทยเรามีอยู่ คนไทยเรารักษาสันติ แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาข้ามอธิปไตยของเราเหมือนกัน กองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหา เราเห็นเหมือนกันและอยากเรียนท่านว่า กองทัพทหารหาญ ฝ่ายนโยบายรวมถึงพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่เรารักชาติ เราไม่ให้ใครมาละเมิดอธิปไตยเราเด็ดขาด ขอให้ท่านมั่นใจได้ ในการต่อสู้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือในประเทศมันต้องเป็นหนึ่งเดียว ถ้าประเทศไม่เป็นหนึ่งเดียวก็อ่อนแอ ซึ่งตนพูดกับกำลังพลพูดกับกองทัพไปแล้วว่าไม่ต้องกลัวรัฐบาลเป็นกองหนุนให้