“จุลพันธ์” รมช.คลัง ยอมรับ หากไม่มีกาสิโน จะไม่มีใครยอมลงทุนโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยัน เม็ดเงินลงทุน 100,000 ล้านบาท จากเอกชน 100% จ่อเข้าสภาฯ วาระแรกหลังเปิดสมัยประชุม
วันที่ 4 มิถุนายน 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรอบเวลาในการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ว่า จะเร่งพิจารณาในวาระแรกให้ทันการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่จะเปิดสมัยประชุมในเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาศึกษา คาดว่าต้องใช้เวลาเป็นปี เพราะร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ มีกฎหมายที่ซับซ้อน จึงต้องตั้งคณะทำงานศึกษาทั้งเรื่องสถานที่ และความเหมาะสม
ตอนนี้เหลือเวลา 2 ปี หากเป็นไปได้จะทำให้เสร็จในปีนี้ พร้อมยืนยันว่าจะต้องเร่งเสนอกฎหมายให้ผ่านในอายุรัฐบาลนี้ ถ้าหากถูกปัดตกจะต้องกลับมาเริ่มใหม่ทั้งหมด เชื่อว่าระยะเวลาเพียงพอ ถ้าสุดท้ายสภาฯ ไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องของสภาฯ จะยอมรับว่าไม่ผ่าน แต่เชื่อว่าถ้าทำความเข้าใจร่วมกันได้ กลไกสภาฯ คือการรับฟัง รัฐบาลเองรับฟังมาตลอด ส่วนฝ่ายที่ค้านขอให้ถอยบ้างเพื่อให้ขับเคลื่อนได้ เพื่อทำให้กฎหมายเกิดประโยชน์กับประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส และครอบคลุมทุกมิติ โดยขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และเตรียมจัดทำ TOR สำหรับการเปิดประมูลในอนาคต
...
ส่วนเสียงโหวตในสภาฯ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ค่อนข้างมั่นใจ เพราะรัฐบาลมีเสียงข้างมาก ส่วนคนที่ยังไม่เข้าใจ ตนสามารถชี้แจงได้ และยืนยันว่ากาสิโนไม่มอมเมาประชาชน เพราะมีโมเดลชัด มีระบบชัดเจน อีกทั้งนักลงทุนเองไม่ต้องการมอมเมา เพราะต้องการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
สำหรับข้อกังวล นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส และครอบคลุมทุกมิติ โดยขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และเตรียมจัดทำ TOR สำหรับการเปิดประมูลในอนาคต กังวลในกลไกกำกับดูแล การร่างกฎหมายขึ้นมาจะต้องกำกับด้วยกฎหมายการเงิน ยืนยันว่าเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องการดึงนายทุนระดับบนเท่านั้น มีการกำกับดูแลเข้มงวด ไม่ให้มีประเด็นเรื่องการฟอกเงิน มั่นใจว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะทุกประเทศแข่งขันในการดึงดูดการท่องเที่ยว ตอนนี้ทุกที่แข่งขันสร้างพื้นที่ Man-Made Destination เชื่อว่าจะดึงดูดเม็ดเงินมาจากทั่วโลก เป็นการดูดเม็ดเงินสีเทาที่เล่นตามชายแดนเข้าระบบ ภายใต้การดูแลที่เข้มงวด
ทางด้านคำถามว่าทำไมไม่ทำธุรกิจอื่นที่ไม่มีกาสิโน นายจุลพันธ์ ตอบว่า “เป็นโมเดลธุรกิจ ถ้าตัดธุรกิจกาสิโนออก จะไม่ทำให้เกิดการลงทุนอื่นตามมา เช่น สนามกีฬา คอนเสิร์ต เพราะการลงทุนต้องการคนมาเที่ยว หากไม่มีกาสิโน จะไม่มีใครมาลงทุน เป็นสิ่งที่ผูกกัน”
นายจุลพันธ์ ยังได้กล่าวถึงเรื่องสถานที่สร้าง ว่า รัฐบาลเป็นผู้กำหนดพื้นที่ให้เอกชน สอดคล้องกับเอกชนไม่ต้องการแข่งขันในด้านสถานที่ ต้องการแข่งขันที่เป็นธรรม มีการจำกัดจำนวนนักลงทุน จะไม่ให้เป็นแบบเพื่อนบ้าน จะมีแต่นักลงทุนรายใหญ่ นอกจากนี้ ในเรื่องโอกาสแข่งขันในอาเซียน นายจุลพันธ์ ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีจุดใดที่ด้อยกว่าอาเซียน ทั้งการท่องเที่ยว วัฒนธรรม โครงสร้างพื้นฐาน การลงทุน เชื่อว่าประเทศไทยแข่งขันได้ การพบผู้ประกอบการ 2 ราย ซึ่งมีความสนใจพร้อมเข้ามาแข่งขันอย่างเป็นธรรม ถ้าทำได้ใน 2 ปี ไทยจะใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และมาเก๊า จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน ส่วนเม็ดเงินลงทุน 100,000 ล้านบาทนั้น เป็นการลงทุนโดยเอกชน 100%
อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ ยังย้ำด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ผ่านการทำประชาพิจารณ์ 3 ครั้ง ประชาชนเห็นด้วย 80% และจะเข้าสู่กลไกรัฐสภา หากจะให้ทำมากกว่านั้นก็ทำไม่ได้ ขอให้เป็นไปตามองค์ประกอบของกฎหมายไทย.