กองทัพอากาศกางแผนซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F คาดเข้า ครม. ภายใน 15 ก.ค. แล้วลงนามจัดซื้อในเดือน ส.ค. แย้มแพ็กเกจหลักได้จรวด Meteor ถ่ายทอดดาต้าลิ้งก์อย่างไร้ข้อจำกัด
วันที่ 4 มิถุนายน 2568 พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดเผยว่า โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่กรพเพนจะเริ่มจัดหาที่ 4 เครื่องก่อน ใช้งบ 5 ปี คือ 2568-2572 ข้อเสนอหลัก หรือ เมนแพ็กเกจ คือเครื่องบิน E (1 ที่นั่ง) 3 เครื่อง และเครื่องบิน F (2 ที่นั่ง) 1 เครื่อง พร้อมระบบรองรับ รวมทั้งระบบปฏิบัติการสงครามอิเล็กทรอนิกส์ สามารถใช้อาวุธอากาศสู่อากาศระยะไกลกว่าสายตาแบบ Meteor รวมถึงอาวุธอื่นๆ และระบบสนับสนุนอุปกรณ์ภาคพื้นและอะไหล่ ขณะเดียวกันยังรวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และนักบิน
ขณะที่ พล.อ.อ.คิดควร สดับ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ย้ำถึงนโยบายชดเชยการนำเข้า รวม 14 รายการ ว่า มีทั้งข้อเสนอชดเชยทางตรง 7 รายการ เช่น Link T เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีอย่างอิสระ สามารถขยายผลร่วมปฏิบัติการกับเหล่าทัพอื่นได้โดยไม่มีข้อจำกัด และการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน ส่วนข้อเสนอทางอ้อมอีก 7 รายการ เช่น การส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาทางไซเบอร์
ส่วน พล.อ.ต.พูนศักดิ์ ปิยะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กองทัพอากาศ ชี้แจงขั้นตอนการจัดซื้อหลังจากนี้ ว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยวิธีการรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยกองทัพอากาศจะเสนอเรื่องให้กองทัพไทย วางแผนภายในต้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดว่ากองทัพไทยจะเสนอเรื่องให้กับกระทรวงกลาโหมได้กลางเดือนมิถุนายน โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการส่งร่างสัญญาให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงต่างประเทศ เพื่อพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในกลางเดือนมิถุนายนเช่นกัน
...
ขณะเดียวกัน จะส่งเรื่องให้สำนักงบประมาณ เพื่อตรวจสอบ ได้งบประมาณภายในเดือนมิถุนายน และกระทรวงกลาโหม จะส่งเรื่องต่อ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเข้าสู่ ครม. ภายใน 15 กรกฎาคม 68 โดยภายหลังเห็นชอบให้กองทัพอากาศดำเนินการ และลงนามในสัญญา ซึ่งคาดว่าจะลงนามได้ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เรียนเชิญนายกรัฐมนตรีเยือนประเทศสวีเดนอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการลงนามความร่วมมือและเป็นพันธมิตรของ 2 ประเทศต่อไป