“บิ๊กอ้วน” ยันไม่ปลดแม่ทัพภาค 2 บอกทำงานตามหน้าที่ดีอยู่แล้ว ย้ำ ขอเลือกทางสูญเสียน้อยที่สุด ไม่ได้ทำตามอำเภอใจ จวกรูป “ฮุนเซน” ลูบหัวใช้ AI ปั่นกระแส พรุ่งนี้ลงพื้นที่ แง้มได้ฤกษ์ถกเจบีซี ที่กรุงพนมเปญ 14 มิ.ย.นี้
วันที่ 3 มิถุนายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทยกัมพูชา ว่า กองทัพ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงต่างประเทศ พูดคุยกันมาตลอด ตั้งแต่ระดับรัฐมนตรี อีกทั้งเรื่องนี้เกี่ยวพันกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งอำนาจสูงสุดในการเสนอที่จะปิดด่านหรือไม่อยู่ที่ สมช. กรณีนี้อาจมีความเข้าใจผิดกัน เพราะเราได้พูดคุยกันแล้วว่ามาตรการปิดด่านถือเป็นอีกมาตรการหนึ่งที่จะนำมาใช้ เราจะเริ่มต้นจากเบาไปหาหนัก และคิดว่าหนทางที่ดีที่สุด เรายึดมั่นในเอ็มโอยู 2543 ซึ่งถือเป็นข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้ว มีหลักฐานชัดเจนว่าคุยอะไรกันมาอย่างไร เราคิดว่าการเจรจาเป็นหนทางที่เริ่มต้นที่ดีที่สุด เปิดช่องทางการทูตให้คุยกัน
นายภูมิธรรม กล่าวต่อไปว่า ในขณะที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ มีเหตุการณ์และความตึงเครียดเกิดขึ้น ต้องทำหน้าที่ในการเตรียมกำลัง หากเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น ก็ต้องปกป้องอธิปไตยของประเทศให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของกองทัพภาคที่ 2 ก็ยังอยู่ในกรอบ ต้องเห็นใจกองทัพภาคที่ 2
“ทหารไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้วเพราะมีหน้าที่ แต่สิ่งต่างๆ ที่ทำมาก็คิดว่าจะค่อยๆ ยกระดับ ซึ่งจะนำไปสู่การเจรจาคิดว่า อะไรที่นำไปสู่ความรุนแรงขึ้น ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรตามอำเภอใจหรือตามความรู้สึกของเรา ผมไม่อยากเห็น อย่านำเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมืองเพื่อเอาชนะกัน วันนี้ต้องมารวมพลังและช่วยกันดู และทหารกับเราก็ไม่มีปัญหากัน”
...
นายภูมิธรรม เผยอีกว่า ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ตนเตรียมเดินทางลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน อยากให้เข้าใจ คนเชียร์ คนตัดสินใจที่จะให้เกิดสงครามอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แม้ทหารของเราจะเข้มแข็งกล้าหาญ และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ เราต้องคำนึงความเหมาะสมและความจำเป็นถึงที่สุดที่จะนำไปสู่ความรุนแรง ชีวิตของประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงทหารที่ปฏิบัติหน้าที่และเฝ้าระวัง อย่าไปอะไรเลย เรารู้อยู่แล้วว่าทั่วโลกมีความขัดแย้ง เขาก็เน้นเรื่องการสร้างสันติสุข หาทางออกด้วยการเจรจา การนำไปสู่ความรุนแรง อยากให้ขอเป็นสิ่งสุดท้าย ขณะนี้ต้องจำกัดพื้นที่ ลดความขัดแย้ง เป็นสิ่งที่ดีที่ควรจะทำ
“เรื่องอธิปไตยของประเทศ ไม่ต้องห่วง รัฐบาลยึดมั่นในเขตแดนและอธิปไตยของประเทศเต็มที่ ไม่มีปัญหา สำคัญคนในประเทศต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่เอาประเทศมาเป็นเงื่อนไข ไม่เกิดความรุนแรง ในขณะที่เรากำลังเจรจาแสดงท่าที ต่อสาธารณชนและต่อสายตาทั่วโลก ยืนยันว่าไม่มีการปลด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เราจะไปปลดท่านทำไม เพราะท่านทำงานตามหน้าที่อย่างดีอยู่แล้ว แล้วยังมีรูปสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาลูบหัวผม ไปดูให้ดีว่าเป็นการใช้ AI ทำ ความพยายามยั่วยุ ไม่เกิดความรุนแรง มีการดำเนินการทุกวิถีทาง เราต้องรอบรู้”
ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม เผยด้วยว่า ไม่อยากให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์แล้วก่อให้เกิดความเข้าใจผิดมากขึ้นไปอีก การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ไทย-กัมพูชา มีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน แสดงท่าทีแข็งกร้าวด้วยถ้อยคำรุนแรงผ่านการโพสต์ ข้อความในโซเชียลมีเดีย ก็ไม่เป็นอะไร ไม่มีผลทางกฎหมายระหว่างประเทศ เขาจะพูดอะไรก็เป็นเรื่องของเขา เราก็พูดในเรื่องของ อยากให้ประชาชนมั่นใจ เรายึดถือผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศ เราทำงานสอดประสานกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และ สมช. เราพร้อมที่จะปกป้องประเทศและผลประโยชน์ของเรา แต่ขอเลือกหนทางที่สูญเสียน้อยที่สุด.