“รวมไทยสร้างชาติ” ยกเครื่องกฎขับพ้นพรรค ห้ามฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น-ทำแตกแยก หาก กก.บห.มีมติ ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เริ่มใช้ 29 พ.ค. ที่ผ่านมา


วันที่ 2 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้แจ้งที่ประชุมใหญ่พรรคประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 มีมติแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มเติม โดยให้ยกเลิกความในข้อ 53 ของข้อบังคับพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ศ. 2563 และให้ใช้ข้อความสาระสำคัญ ดังนี้

สมาชิกภาพของสมาชิกพรรค สิ้นสุดลงเมื่อผู้นั้นขาดจากการเป็นสมาชิกพรรค ในกรณีคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีมติให้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพราะกระทำผิดวินัยหรือมาตรฐานทางจริยธรรมหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบต่อพรรคการเมือง กระทำความผิดกฎหมายร้ายแรง หรือมีเหตุร้ายแรงอื่น รวมถึงฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่นหรือสนับสนุนผู้สมัครในตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ที่ไม่ใช่ของพรรคการเมือง และกระทำการใดที่ทำให้เกิดความแตกแยกหรือความไม่เป็นเอกภาพในพรรคการเมือง หรือการบริหารพรรคการเมือง รวมทั้งสนับสนุนหรือส่งเสริมการกระทำเช่นว่านั้น

ขณะที่คณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน 9 คน ประกอบด้วย

1. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค
2. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค
3. นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง
4. นายวิทยา แก้วภราดัย
5. นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์
6. นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร
7. นายชื่นชอบ คงอุดม
8. นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ
9. นายเกรียงยศ สุดลาภา

...

ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่เป็นฝั่งนายพีระพันธุ์ ขณะที่รัฐธรรมนูญปี 2560 กรณี สส. ถูกขับพ้นพรรคการเมือง รีบดำเนินการย้ายเข้าพรรคใหม่ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่พรรคมีมติ สส.คนนั้นจะยังมีสถานะเป็น สส.ต่อไป ทั้ง สส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ.