“ปณิธาน” แนะใช้กลไกสภาความมั่นคงแห่งชาติประชุมฉุกเฉิน ตัดสินปัญหาไทย-กัมพูชา เตือนรัฐบาลไทยประเมินให้ดีหลังกัมพูชาขู่ฟ้องศาลโลก ชี้ควรปิดด่านชายแดนบางจุดเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ แต่อย่าให้กระทบการค้าขายชายแดน
วันที่ 2 มิ.ย. 2568 รศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการอิสระด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ว่า อยากเสนอให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ นัดประชุมฉุกเฉินเพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกรณีความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา เพราะหากรอการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา หรือ (JBC) อาจไม่ได้คำตอบหรือแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที พร้อมมองว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าหากพึ่งศาลโลกจะได้เปรียบไทย จึงพยายามจะใช้ศาลโลกในการตัดสินข้อพิพาทนี้
“สุดสัปดาห์ที่แล้วมีการประชุมนานาชาติด้านความมั่นคงของภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด ที่ประเทศสิงคโปร์ ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้เวทีนี้ในการเรียกร้องให้นานาชาติเห็นใจที่ทหารของเขาถูกยิงเสียชีวิต เราเองกลับถูกโดดเดี่ยวมากกว่าที่คิดเสียด้วยซ้ำ ต้องระวัง ต้องประเมินให้ดี” รศ. ดร.ปณิธาน กล่าว
ส่วนคำถามที่ว่าเมื่อผู้นำ 2 ประเทศสนิทกันแต่ทำไมยังเกิดปัญหาแบบนี้ รศ. ดร.ปณิธาน ยอมรับว่าเรื่องนี้ขัดความรู้สึกประชาชนว่าในเมื่อผู้นำประเทศสนิทกันทำไมถึงยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม้ว่าฝั่งผู้นำประเทศจะพยายามบอกว่าเป็นเพราะสนิทกันจึงทำให้สถานการณ์ไม่บานปลายไปไกลกว่านี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้เบาใจได้ระดับหนึ่งว่า ทั้งสองฝ่ายคงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย แต่ก็เชื่อว่าน่าจะพิจารณาว่าสมควรจะปิดด่านบางจุดหรือไม่ เพื่อไม่ให้กระทบผู้ประกอบการไทย เพราะขณะนี้ประชาชนที่ค้าขายตามชายแดนไทย-กัมพูชาก็เริ่มลดระดับการค้าขายตามแนวชายแดนเนื่องจากห่วงในเรื่องของความปลอดภัย
...
ซึ่ง รศ. ดร.ปณิธาน แนะนำฝ่ายไทยด้วยว่าสุดท้ายควรเสนอข้อตกลงใหม่ ๆ ให้กับทางการกัมพูชาด้วย เพราะที่ผ่านมา ไทย-มาเลเซียสามารถแบ่งปันผลประโยชน์จากพื้นที่ทับซ้อน ดูดก๊าซจนจะหมดบ่อแล้ว แต่ทำไมกับกัมพูชายังไม่สามารถเดินหน้าเจรจาจัดสรรผลประโยชน์ในเรื่องก๊าซธรรมชาติกันได้เลย