สส.พรรคเพื่อไทย มอบ “นายกฯ อิ๊งค์” ตัดสินใจปรับ ครม. หรือไม่ ย้ำไม่อยากทำให้หนักใจ เชื่อไม่มีใครแทรกแซงการตัดสินใจของนายกฯ ด้าน “สุดารัตน์” มองเรื่องดีหากเพื่อไทยได้กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย เชื่อหากตกลงกับภูมิใจไทยได้ ทุกอย่างไม่มีปัญหา
วันที่ 2 มิ.ย. 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน สส. พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงการสลับกระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลว่า เรื่องดังกล่าว สส. พรรคเพื่อไทยไม่ได้พูดคุยกัน เพราะหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เสร็จสิ้น สส. แต่ละคนต่างเดินทางลงพื้นที่ของตัวเอง และ สส. พรรคเพื่อไทยมีความคิดเห็นและแนวทางเดียวกันที่จะให้ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและหัวหน้ารัฐบาล เป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้ เพราะทำงานใกล้ชิดกับทั้งรัฐมนตรี และ สส. ของพรรคเพื่อไทย ย่อมรู้ดีว่าใครควรได้ทำงานแบบไหน และจากการสอบถามเพื่อน ๆ ที่เป็นรัฐมนตรีต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ทราบเรื่องนี้ ให้เป็นการตัดสินใจของ น.ส. แพทองธาร สมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนไม่มีใครเข้าไปพูดคุยหรือวิ่งเต้นอะไรกับ น.ส. แพทองธาร เพราะไม่อยากทำให้หนักใจ และสมาชิกพรรคทุกคนยินดีทำตามการตัดสินใจของ น.ส. แพทองธาร เพราะถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะมีคนวิ่งเต้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในเรื่องนี้หรือไม่ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า เชื่อว่าไม่มีใครแทรกแซงการตัดสินใจของ น.ส. แพทองธารได้ เพราะท่านมีความเด็ดเดี่ยว มีวิจารณญาณเป็นผู้นำที่เข้มแข็งไม่มีใครมาออกใบสั่งนายกฯ ได้
มอง พท. ได้ มท. เป็นผลดี
ด้าน น.ส. สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส. อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่าอาจจะมีการสลับกระทรวง โดยนำกระทรวงมหาดไทยกลับมาอยู่ในการกำกับดูแลของพรรคเพื่อไทย ว่า ต้องมีข้อดีอยู่แล้วที่ทางพรรคเพื่อไทยจะได้ดูแลกระทรวงใด ๆ เพราะ สส. สามารถสะท้อนปัญหาได้และทำอะไรได้มากขึ้น ดีกว่าเป็นของคนอื่นอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มองว่าหากได้กระทรวงมหาดไทยมาอยู่ในกำกับดูแลของพรรคเพื่อไทยจะเป็นผลดีใช่หรือไม่ น.ส. สุดารัตน์ กล่าวว่า “แน่นอนค่ะ” ส่วนจะมีผลต่อการเลือกตั้งในปี 2570 หรือไม่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ผลงาน หากพรรค พท. ทำผลงานดีประชาชนก็ตัดสินเอง เมื่อถามว่า สส. ของพรรคได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ น.ส. สุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่เราเจอหน้ากันก็จะมีการพูดคุยกัน จะได้กระทรวงไหนก็เป็นผลประโยชน์หนึ่งของผู้แทนและ สส. ในพรรค จริง ๆ ถ้าได้เยอะ ทุกคนก็ต้องยินดีและยินยอม และอยากได้ เชื่อว่า หากตกลงกันได้ด้วยดี ทุกอย่างก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
...
“อนุสรณ์” เร่งโฟกัสสร้างผลงาน
ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีดุสิตโพลออกมาเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นว่าคนกำลังหมดหวังและเบื่อหน่ายกับการเมืองมากขึ้นว่า ถ้าไปดูในรายละเอียดของผลโพล วิเคราะห์กันว่า เหตุที่ประชาชนตอบว่าเบื่อหน่ายมาจาก 3 เรื่องคือกรณีข่าวการฮั้ว สว. เรื่องที่สองคือเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข่าวในเรื่องนี้ก็ยืนยันตรงกันว่า เสถียรภาพของรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาอะไร สะท้อนผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่มีผลโหวตออกมาอย่างท่วมท้น และสามในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ถ้าสังเกตการตอบของรัฐมนตรีได้เห็นในทิศทางการบริหารจัดทำงบในปีนี้ แต่ผลโพลที่ออกมา ประชาชนรู้สึกสะท้อนออกมาเช่นนี้ รัฐบาลก็ต้องน้อมรับและรับฟัง และต้องโฟกัสการสร้างผลงานให้มากขึ้น คงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา และต้องปรับให้สอดรับกับสถานการณ์ เชื่อว่าเมื่อมีมาตรการออกมาแล้วนั้น ภาพรวมในผลงานของรัฐบาลก็จะดีขึ้น