“สุชาติ ชมกลิ่น” โชว์พลัง นัดก๊วน สส.รวมไทยสร้างชาติ กินข้าวเที่ยงโรงแรมหรูกลางกรุง จับตาพาย้ายร่วมงาน “พรรคโอกาสใหม่” ด้าน “เอกนัฏ” ปลุกใจอย่าหวั่นไหวเลือดไหล เลือกตั้งรอบหน้ามีพรรคอยู่
วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังมีกระแสข่าวกลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กำลังเตรียมนำ สส.ในกลุ่มย้ายออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปอยู่กับพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่ชื่อ “พรรคโอกาสใหม่” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า และช่วงหลังนายสุชาติ ให้สัมภาษณ์ส่งสัญญาณตามที่มีกระแสข่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 นายสุชาติ ได้นัดแกนนำและ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ทานอาหารกลางวันหารือทางการเมืองกัน ที่โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ กทม. โดยพบว่าในวงดังกล่าวมีแกนนำและ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติร่วม 20 คน ก่อนที่ช่วงบ่ายเดินทางกลับร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569
...
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แกนนำและ สส. ที่ปรากฏในภาพร่วมรับประทานอาหารกับนายสุชาติ อาทิ
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ
นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ
นายเกรียงยศ สุดลาภา สส.บัญชีรายชื่อ
นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ สส.บัญชีรายชื่อ
นายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา เขต 2
นายวัชระ ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส เขต 1
นายพิพิธ รัตนรักษ์ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 2
นายพันธ์ศักดิ์ บุญแทน สส.สุราษฎร์ธานี เขต 4
นายปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฎร์ธานี เขต 5
นายถนอมพงษ์ หลีกภัย สส.ตรัง เขต 1
น.ส.กุลวลี นพอบรมดี สส.ราชบุรี เขต 1
นางธิวัลรัตน์ อังกินันท์ สส.เพชรบุรี เขต 1
จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3
นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส.ชลบุรี เขต 4
ขณะเดียวกัน หลังมีกระแสข่าวว่า สส.กลุ่มของนายสุชาติ จะย้ายออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พบว่าในการประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวในที่ประชุมพรรค หลังจากนายสุชาติให้สัมภาษณ์สื่อว่าอาจจะย้ายออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ตอนหนึ่งว่า “ขอให้พวกเราอย่าหวั่นไหว ให้มั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติยังไปได้ อย่างไรการเลือกตั้งรอบหน้า ยังมีพรรคอยู่ เรายังไปรอด”