“ชาดา ไทยเศรษฐ์” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่น ถ้าทำให้ไม่ได้ก็ลงมา เปลี่ยนตัวเอาคนอื่นไปนั่งแทน คนทำได้มีเยอะแยะ

เมื่อเวลา 13.14 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ร่วมอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) โดยเริ่มด้วยการชื่นชมว่าฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาการอภิปรายขึ้นมาก จากนั้นเข้าสู่การอภิปรายในส่วนของงบลงทุน 7 แสนล้านบาท ซึ่งมีคนกล่าวว่าช่องว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้ห่างขึ้นทุกวัน ซึ่งห่างแน่นอน พร้อมยกตัวอย่างว่า งบลงทุน 7 แสนล้านบาท เป็นงบก่อสร้างประมาณ 4.75 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบก่อสร้างไม่เหมือนอดีต เพราะใน 4.75 แสนล้านบาท ไปสู่ธนาคารแล้ว 5% งบลงทุนของประเทศธนาคารเอาไปเกือบ 10% จึงฝากไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเข้ามาดู เพราะเป็นการเอาเปรียบพี่น้องประชาชน ค้ำประกันสัญญา 2.5% ต่อปี เท่ากับ 5% ในงบลงทุนทั้งหมด แล้วยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่าย 15% ในจำนวนนี้ธนาคารเอาก่อนเลย 3% ค่าธรรมเนียมต่างหาก 4.75 แสนล้านบาท ถ้า 15% ก็ 6 หมื่นล้านบาท เงินในส่วนของการก่อสร้างไปสู่ชั้นกลางกับข้างบน ปัจจุบันแรงงานก็เป็นต่างด้าว จึงทำให้เกิดช่องว่างคนจนกับคนรวยมากขึ้น

นายชาดา กล่าวต่อไปว่า เพราะงบของรัฐบาลที่ผ่านๆ มาหลายสิบปี รัฐบาลชุดไหนก็โครงสร้างงบประมาณเหมือนกันหมด นี่คือสิ่งที่เป็นปัญหากับประเทศ กลุ่มทุนก็เอาไปเสียมาก แบงก์ก็เอาไปเสียเยอะแยะ ไม่มีคำว่าขาดทุน เรื่องนี้ต้องมาคิดดูให้ดี ที่สำคัญการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่แค่โครงการการก่อสร้างอย่างเดียว ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง ฝากรัฐบาลทำให้มันไปถึง

...

“ผมเองเมื่อก่อนไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของนโยบายพรรคเพื่อไทย แต่ปัจจุบันนี้ผมเห็นด้วยครับ ฝากท่านประธานถึงท่านนายกรัฐมนตรี ต้องแจกครับ เงินมี ใครที่อยู่ข้างบน แจกไม่ได้ลงมา เอาคนอื่นขึ้นไปนั่ง ผมเรียนด้วยความเคารพ พูดอย่างนี้จริงๆ ถ้าไม่มีปัญหาทำให้นายกฯ ได้ ลงมา คนอื่นมีเยอะแยะที่เขาทำได้ ประเทศไทยเงินมีเยอะ ตรงไหนที่มันติดขัดก็แก้ซะ ถ้าท่านไม่จัดการเรื่องดิจิทัลให้เรียบร้อย อย่าไปแจกใกล้ๆ เลือกตั้งครับ ผมบอกอย่าว่าแต่ 10,000 เลย 20,000 ก็แจกได้ ถ้าไม่แจกเขามาครับแน่นายกฯ เท้ง”

อีกทั้งวันนี้ การกระตุ้นเศรษฐกิจต้องหลากหลายกว่าในอดีต การใช้เงินต้องไปทั่วถึงทุกกลุ่ม งบประมาณแผ่นดินเปรียบเสมือนถังใหญ่ที่รัฐบาลเก็บปลาจากพี่น้องประชาชนแล้วเอามาใส่ถัง ในถังจะมีรูดูดออกไปในหลายอาชีพ จึงต้องไปให้ทั่วถึงและเป็นธรรม เพื่อไม่ให้มีความเหลื่อมล้ำ

ขณะเดียวกัน นายชาดา ยังกล่าวต่อไปถึงเรื่อง PM 2.5 ว่า เกษตรกรในจังหวัดของตนเป็นจำเลยมาตลอด กทม. ไม่มีอ้อย ไม่มีข้าว แต่ PM 2.5 เยอะ ถ้ารัฐบาลจริงใจจะแก้ปัญหา พร้อมฝากรถหลวงทุกคันให้ใช้ไฟฟ้า รัฐเปลี่ยนไม่ได้หรือ หน่วยงานของรัฐที่ปล่อยคาร์บอนคือบรรดารถหลวงทั้งหลาย และรัฐบาลต้องเปิดให้มีสถานีเติมไฟฟ้าให้มากขึ้นในต่างจังหวัดด้วย จะช่วยประหยัดงบอีกมากมาย

ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อม นายชาดากล่าวว่า ขอเรียกว่าคุณพ่อ สทนช. (สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ) เพราะว่าทำยิ่งใหญ่เหลือเกิน สส.พรรคประชาชนอภิปรายได้ถูกต้อง คนคุมก็ปวดหัว เพราะไม่ใช่แค่งานวิชาการวางมาสเตอร์แพลน แต่กลับกลายเป็นเจ้าของงบประมาณ จะให้ตัวนี้ ไม่ให้ตัวนี้ ต้องอยู่ใน Thai Water Plan เมื่อไม่กี่วันเกิดฝนตกใหญ่ในจังหวัดอุทัยธานี ในอดีตน้ำท่วมจะมาจากแม่น้ำหรือน้ำป่า แต่วันนี้ที่น้ำท่วมมากเป็นพิเศษมาจากฝนเกาะกลุ่มนิ่งๆ นานๆ บางคนอายุ 60 กว่าปียังไม่เคยเจอ เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ท่วมแล้วอยู่นาน จึงอยากฝากถึงรัฐบาลให้เตรียมป้องกันให้ดี ก่อนจบการอภิปรายในเวลา 13.23 น.

(ภาพ : เอกลักษณ์ ไม่น้อย)