“สหัสวัต คุ้มคง” จี้ปฏิรูปโครงการประกันสังคมปิดช่องพวกปรสิต ชี้ไม่เห็นความโปร่งใส เอาเปรียบลูกจ้างนายจ้าง บังคับ 24 ล้านคนจ่ายแต่ไม่เปิดเผยเอาไปลงทุนอะไรบ้าง ถามบริหารแบบนี้อีก 20 ปีไม่เจ๊งก็แปลก
วันที่ 31 พ.ค. 2568 เมื่อเวลา 11.19 น. นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ว่ากระทรวงแรงงานได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2569 จำนวน 68,069 ล้านบาท โดยเป็นงบของสำนักงานประกันสังคมสูงถึง 61,666 ล้านบาทหรือคิดเป็น 90% โดยงบจำนวนมากเหล่านี้มาจากงบอุดหนุนที่ต้องเก็บเงินจาก 3 ฝ่ายคือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐ แม้ดูเหมือนจะมากแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะจ่ายสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนในอนาคต ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่ากองทุนประกันสังคมจะเจ๊งภายใน 20 ถึง 25 ปี แปลง่ายๆ ว่าเบาะรองของสังคมกำลังจะล่มสลายเรากำลังอยู่ในวิกฤตที่อีก 30 ปี คนไทยจะเจ็บป่วย ตกงานหรือหยุดทำงานไม่ได้ เพราะหากหยุดทำงานจะล้มโดยไม่มีโอกาสลุก และในวิกฤตอย่างนี้ที่คนจะไม่มีกิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกลับหาทางออกให้กับพวกเราว่า แก่กว่านี้ค่อยเกษียณหากใครอยากได้เงินใช้ตอนเกษียณให้จ่ายเงินเพิ่มมา
นายสหัสวัต ยังเปิดเผยว่าตั้งแต่ปี 2534 ถึง 2559 รัฐบาลค้างจ่ายเงินสมทบประกันสังคมสูงถึง 101,358 ล้านบาทและมีการสะสมเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ที่ส่วนหนึ่งมาจากสาเหตุนำงบไปพัฒนาจังหวัดที่ถูกนำไปใช้เอาหน้าให้กับ สส. บางคนที่เอาไปสร้างสะพาน ถนน โดยที่ผู้ส่งเงินสมทบประกันสังคมเป็นผู้เสียประโยชน์ และปัจจุบันรัฐบาลติดหนี้ประกันสังคมอยู่ที่ประมาณ 56,000 ล้านบาทหากมีการนำเงินไปลงทุนหรือคิดเป็นกำไร 3% ต่อปีเป็นเวลา 8 ปีจะได้กำไรมากถึง 30,477 ล้านบาท หากรัฐบาลมีความจริงใจจะทำให้กองทุนนี้มีระยะเวลายาวขึ้นต้องทำแผนการใช้หนี้ออกมาได้อย่างจริงจังได้แล้ว ว่าจะใช้ดอกได้กี่ปีและจ่ายดอกได้กี่ปี หยุดเอาเปรียบลูกจ้างนายจ้าง ที่ค้างจ่ายไม่พอยังไม่จ่ายค่าปรับอีก
...
“ก่อนท่านจะให้ผู้ประกันตนแบกเพิ่ม ท่านลองถามดูว่าตอนนี้มีผู้ประกันตนที่ไหนเขาเชื่อมั่นในกองทุนนี้บ้างสิ่งที่เห็นในแต่ละวันคือความไม่โปร่งใส ที่คนออกมาบ่นเต็มไปหมดว่าไม่อยากส่งประกันสังคมแล้ว ก็แน่สิท่านเอาเงินเขาไปใช้ขนาดนี้ ใครจะอยากจ่ายและยิ่งจะมาเก็บเงินเขาเพิ่ม ยิ่งไม่มีคนอยากจ่าย”
นายสหัสวัต ยังยกตัวอย่างการลงทุนในตึกสกาย 9 ที่บอร์ดประกันสังคมยังไม่ทราบว่ามีการลงทุนในตึกนี้กฎระเบียบต่างๆ มันเปิดช่องให้ตั้งอนุกรรมการจากที่ไหนก็ไม่ทราบมาลงทุนซื้อของที่ราคาสูงถึง 7,000 ล้านบาท ที่บอกว่าคุ้มค่าแต่พอถึงเวลาจริงกลับไม่ตามเป้ารายได้และไม่พอกับค่าบริหารตึก
“ปกติเวลาเราซื้อกองทุนเอกชน เราต้องรู้ว่าเขาจะบริหารยังไง ก่อการลงทุนยังไง แต่นี่คือการลงทุนของคน 24 ล้านคนที่ถูกบังคับให้จ่ายทุกเดือน แต่กลับไม่มีการเปิดเผยอะไรเลย ไม่รู้ว่าเอาเงินไปลงทุนที่ไหนบ้างและความไม่โปร่งใสส่งผลต่อความไม่มีประสิทธิภาพ สะท้อนออกมาผ่านผลตอบแทนการลงทุน ที่เติบโตเฉลี่ยปีละเพียง 3% ที่เทียบกับประเทศอื่นๆ ที่เขาโตถึง 5% การห่างกัน 2% ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะต่างกันนับหมื่น นับแสนล้านบาท”
นายสหัสวัต ยังกล่าวอีกว่า บอร์ดแพทย์ที่คิดสิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ คิดบนพื้นฐานอะไร ทำไมอนุมัติให้ทำฟันได้แค่ 900 บาทต่อปี มีใครในบอร์ดแพทย์ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งเราไม่เคยรู้เลย ทั้งที่มีการอนุมัติเรื่องสิทธิ์รักษาทางการแพทย์ปีละ 70,000 ล้านบาท อีกทั้ง เรื่องบันทึกการประชุมของบอร์ดแพทย์ในคณะกรรมการประกันสังคมเราไม่เคยทราบเลยว่ามีการพูดคุยถึงเรื่องผลประโยชน์ของผู้ประกันตนหรือไม่ หรือวันๆ คุยแต่เรื่องจะแบ่งผลประโยชน์อย่างไร จึงขอให้ทำให้โปร่งใสเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำก่อน
นายสหัสวัต ยังย้ำอีกว่าเรื่องแจกปฏิทินประกันสังคมปีละ 50 ล้านบาท ที่ผู้ประกันตนไม่เคยได้ และการซื้อรถหรู ราคา 4-5 ล้านบาทไปใช้เป็นรถประจำตำแหน่ง และยังเอาไปแต่งเป็นเบาะนวดอีก 3 แสนกว่าบาท เพื่อความสะดวกสบายของคนนั่ง ที่มีการเปลี่ยนรถแบบนี้ทุก 2 ปีที่ใช้เงินผู้ประกันตนเหมือนเงินตัวเอง พอรถหมดประจำการก็เอาไปบริจาควัด ทั้งที่เจ้าอาวาสวัดยังไม่ทราบว่ามีการบริจาคเข้าวัด การบริหารแบบนี้ไม่เจ๊งก็แปลก ขณะที่สายด่วนประกันสังคม 1506 มักโทรไม่ติด สุดท้ายผู้ประกันตนต้องไปสำนักงานประกันสังคมจังหวัด เพิ่มภาระคนหน้างาน ผู้ประกันตนก็ไม่สะดวกสบาย ทั้งที่จ่ายเงินปีละถึง 100 ล้านบาท
ตนเองจึงยืนยันว่าจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างระบบประกันสังคมทั้งระบบ เพราะนี่คือช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่เปิดให้นักการเมืองฉ้อฉลและข้าราชการน้ำเสียรวมหัวกันคอรัปชั่นสูบกินเงินของผู้ประกันตน จึงจำเป็นต้องยกเครื่องพ.ร.บ.ประกันสังคมที่เป็นตัวกำหนดโครงสร้างอำนาจของผู้ประกันตน โดยจำเป็นต้องยึดโยงกับนายจ้างและผู้ประกันตนให้มากที่สุดผ่านการเลือกตั้ง ให้เจ้าของเงินส่วนใหญ่มีสิทธิ์มีเสียง ผู้บริหารต้องมาจาก 3 ฝ่ายอย่างแท้จริง ไม่ใช่ฝ่ายรัฐที่จ่ายน้อยที่สุดแต่มีอำนาจสูงสุด เราต้องสร้างกลไกให้สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา ปิดโอกาสปิดช่องไม่ให้พวกปรสิตมาโกงกินพวกเรา