“เซีย จำปาทอง” ถล่ม รมว.แรงงาน เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำแบบเต่าย่อง บอกจะปรับเป็น 400 บาท ถึง 8 ครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ ซัดไม่ใส่ใจความปลอดภัยผู้ใช้แรงงาน นำงบสร้างความปลอดภัยไปสร้างตึก ส่วนงบพัฒนาทักษะแรงงานไปซื้อคอมพิวเตอร์ใช้ในสำนักงาน

วันที่ 31 พ.ค. 2568 นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ว่า ขณะนี้ปัญหาสินค้าแพงขึ้นทุกอย่าง แต่ค่าจ้างขั้นต่ำปรับขึ้นช้าเป็นเต่าย่อง ต่ำสุดอยู่ที่ 337 บาท ทั้งที่ รมว.แรงงานบอกจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ ถึง 8 ครั้ง ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่กระทรวงแรงงานกล้าของบประมาณเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น  แบบนี้ค่าจ้างขั้นต่ำจะขึ้นเป็น 600 บาท ในปี 2570 ได้อย่างไร

ขณะที่ความปลอดภัยผู้ใช้แรงงานมีจำนวนอุบัติเหตุของผู้ใช้แรงงานเพิ่มขึ้นทุกวัน ปี 2565 มีผู้ประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน 76,000 คน ปี 2566 เพิ่มเป็น 81,000 คน และปี 2567 มี 87,000 คน รวม 3 ปี มีแรงงานบาดเจ็บ 2.5 แสนคน ปีนี้ของบโครงการความปลอดภัยและชีวอนามัยประเทศไทย 100 ล้านบาท ดูเหมือนให้ความสำคัญความปลอดภัยป้องกันอุบัติเหตุการทำงาน แต่เป็นงบดำเนินการแค่ 31 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบสร้างตึก 50 ล้านบาท ส่วนที่เหลือไปซื้อลิฟต์กับรถอีก 5 คัน จะช่วยลดอุบัติเหตุอย่างไร

ขณะเดียวกัน ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้างได้ ข้อมูลกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ปี 2562-2567 มีลูกจ้างไม่ได้รับเงินตามคำสั่งเจ้าพนักงานตรวจแรงงาน 43,000 คน เป็นเงิน 2,800 ล้านบาท ปล่อยนายจ้างกินหรูอยู่สบาย แต่ปล่อยแรงงานถูกละเมิด จัดงบแบบน่าสังเวช

นายเซียกล่าวอีกว่า ส่วนงบพัฒนาทักษะแรงงานนอกระบบ 260 ล้านบาท ได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 160 ล้านบาท แต่เป็นโครงการเดิมๆ อบรมอาชีพแบบเบี้ยหัวแตก อบรมเสร็จก็แจกของ งบที่ได้เพิ่มขึ้น ไม่เอาไปพัฒนาฝีมือแรงงาน แต่ไปซื้อคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน 83 ล้านบาท พัฒนาระบบบริหารจัดการกลางด้วยปัญญาประดิษฐ์ 74 ล้านบาท ส่วนสวัสดิการผู้พิการ กฎหมายกำหนดให้หน่วยงานรัฐที่มีผู้ปฏิบัติงาน 100 คนขึ้นไป รับคนพิการเข้าทำงานในอัตรา 100 คน ต่อ 1 คน แต่หน่วยงานรัฐไม่ทำตามกฎหมาย ปี 2567 หน่วยงานรัฐจ้างงานคนพิการเพียง 3,600 คน จากสัดส่วนที่ต้องรับคนพิการ 18,000 ตำแหน่ง จัดงบโครงการส่งเสริมคนพิการทำงานในหน่วยงานภาครัฐแค่ 3.6 แสนบาท เท่ากับจ้างคนพิการได้ 2 คน หรือโครงการส่งเสริมสวัสดิการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเกษียณอย่างมีคุณภาพของประชากรวัยแรงงาน ได้งบ 2 ล้านบาท ก็เอาไปจัดอบรม นำแรงงานมานั่งฟังเทศนา เกษียณแล้วจะทำตัวอย่างไร ไม่ให้เป็นภาระครอบครัว ไม่แน่ใจใครควรไปอบรมระหว่างคนทำงานปากกัดตีนถีบหรือรัฐบาลที่จัดงบไม่มีน้ำยา

...