“พิเชษฐ์” อดพาทัวร์สภาฯ หลัง “พริษฐ์-ภัณฑิล” 2 สส.พรรคประชาชน ติดงานอภิปราย-ปฏิเสธนัดหมาย ชี้ 8,000 ล้านแค่งบฯ เล็กๆ เทียบกับกระทรวงอื่นมันน้อยมาก ลั่น ต้องแจงเพราะสภาฯ เสียหาย
เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เปิดเผยระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่าได้นัด นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน มาร่วมเดินตรวจสอบอาคารรัฐสภาในเวลา 10.00 น. เพื่อทำความเข้าใจถึงปัญหาและเหตุผลในการของบปรับปรุงอาคารรัฐสภา แต่เมื่อให้สัมภาษณ์เสร็จก็ได้รับแจ้งจากเลขาฯ ว่านายภัณฑิลปฏิเสธนัดหมายดังกล่าว
นายพิเชษฐ์ จึงให้สัมภาษณ์ต่อไปถึงการนัดหมายสื่อและ สส.พรรคประชาชน เพื่อเดินทัวร์รัฐสภา ว่า หลังจากที่ตนได้มีการเชิญ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แต่นายพริษฐ์ บอกว่าไม่ว่าง ติดอภิปราย ส่วนนายภัณฑิล รับปากไว้ว่าจะมา แต่ล่าสุดแจ้งว่าไม่มาแล้ว จึงต้องยกเลิกภารกิจเดินชมอาคารรัฐสภา ทั้งนี้ ตนพร้อมที่จะตอบข้อซักถามหากทั้ง 2 คนพร้อม จะยื่นตามช่องทางใดก็ยื่นไป แต่อยากให้มาดูว่าสภาฯ ทำไมต้องใช้งบประมาณ ไม่ต้องเอาการเมืองมายุ่ง ตนยินดีให้ตรวจสอบทุกประเด็น รออยู่ ให้ท่านทั้ง 2 มาเดินดูงบประมาณของรัฐสภา
เมื่อถามว่าการที่ 2 สส.พรรคประชาชน ไม่มาตามนัดสะท้อนอะไรหรือไม่ นายพิเชษฐ์ ตอบว่าตนไม่ทราบ แต่คนเราต้องขึ้นอยู่กับความจริง งบประมาณสภาฯ กว่าจะผ่านขึ้นมาอยู่ในงบประมาณปี 2569 ถูกตัดหลายขั้นตอน สุทธิออกมาเท่านี้ “เราต้องดูแลสภาฯ ให้ดูดีสมเกียรติ สมกับเป็นสถาบันนิติบัญญัติของประเทศ ยืนยันว่ารับทุกเรื่องที่ร้องเรียนมา นี่คืองบฯ เล็กๆ 8,000 ล้านบาทของสภาฯ”
...
ผู้สื่อข่าวถามต่อ ทำไม 8,000 ล้านบาทถึงใช้ว่าเป็นงบเล็กๆ นายพิเชษฐ์ ระบุว่า หน่วยงานของนิติบัญญัติเป็นเสาหลักของประเทศเสาหนึ่ง เราได้งบประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท เทียบกับกระทรวง ทบวง กรม อื่นๆ มันน้อยมาก สำหรับการเผยแพร่ประชาธิปไตย สำหรับสถาบันที่ประชาชนเลือกมา ตนคิดว่ามันควรจะพร้อมกว่านี้ เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน งบฯ ต่างๆ เพื่อความมั่นคง เพื่ออนาคตของฝ่ายนิติบัญญัติ
ขณะที่หากในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณเรียกไปชี้แจงกรณีดังกล่าวจะไปหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอชี้แจง เพราะสภาฯ ไม่เหมือนกระทรวง ทบวง กรม ไม่มีรัฐมนตรี แล้วใครจะมาชี้แจงแทน เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงาน ไม่สามารถที่จะมาตอบโต้ได้ ถ้าตนไม่ชี้แจงสภาฯ ก็เสียหาย วงสภาฯ ก็เสียหาย คุณกล่าวหาแค่ฝ่ายเดียว ซึ่งคุณก็ไม่เข้าใจ ออกสื่อไปทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติเสียหาย ตนในฐานะที่เป็นผู้บริหารตรงนี้ ก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสมาชิกเท่าที่จะทำได้
“ถ้าไม่พูดสภาฯ เสียหาย แล้วจะไปต่อที่ไหน จะลงไปอยู่ข้างล่างก็ในฐานะสมาชิก มันไม่มีที่จะพูดคุย ไม่เป็นไรจะไปยื่นที่ไหนก็ไป ผมพร้อมจะไปตอบทุกที่”
ในช่วงท้าย นายพิเชษฐ์ ยืนยันว่าไม่มีปัญหาและยินดีให้ตรวจสอบทุกจุด ซึ่งงบประมาณของสภาฯ ที่ได้รับการจัดสรรแค่ 8,000 ล้านบาท หาก กมธ.งบประมาณ เห็นว่าราคาสูงเกินไปหรือไม่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับ กมธ. ที่จะปรับลด ซึ่งตนมีหน้าที่ดูแลและบริหารรัฐสภา ย้ำว่าไม่ห่วง มีความบริสุทธิ์ใจ ทำเพื่อประชาชน หากจะยื่นตรวจสอบอะไรก็สามารถทำได้.