“นันทนา” ฟ้องประชาชน แพ้โหวตเบรกตั้งองค์กรอิสระ ลั่นพยายามทำเต็มที่แล้วได้เท่านี้ ด้าน “ทนายอั๋น” ประกาศเดินหน้ายื่น ป.ป.ช.สอบจริยธรรม สว.ที่ลงมติโหวตคว่ำ ท้า สว.เสียงข้างมากไปให้สุด เพราะขาข้างหนึ่งติดคุกไปแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 30 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. แถลงหลังที่ประชุมวุฒิสภามีมติคว่ำญัตติชะลอการพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต., ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ไม่ว่า สว.เสียงข้างน้อยจะอภิปรายด้วยหลักการ เหตุผลที่ใด ก็แพ้เสียง 125 ส.ว. แม้สังคมไม่ต้องการให้ ส.ว.ลงมติเพื่อที่จะดำเนินการเลือกองค์กรอิสระในวันนี้ซึ่งมีถึง 7 ตำแหน่ง แต่ สว.เสียงข้างมากก็ไม่เห็นหัวประชาชน ยังเดินหน้าเลือกองค์กรอิสระ ฝืนความรู้สึกประชาชน และทำให้กระบวนการองค์กรอิสระบิดเบี้ยวไปเพราะเป็นประโยชน์ทับซ้อน จึงขอแสดงความเสียใจและขอฟ้องประชาชนว่า การทำหน้าที่ของ สว.เสียงข้างมากเหมาะสมหรือไม่
ขณะที่ น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. กล่าวว่า ในนาม สว.เสียงข้างน้อย 30 คน เราพยายามทำเต็มที่แล้ว เพื่อขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน 1-2 เดือน แต่สุดท้ายก็ได้เท่านี้ ขั้นตอนต่อไปประชาชนจะต้องพิจารณาเอาเอง
“ทนายอั๋น” ปูดถึงคิว “เจ้าพ่อเขากระโดง”
ขณะที่นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบจริยธรรม สว.ที่ลงมติกรณีนี้ว่า มีจริยธรรมในการลงมติหรือไม่ และผลที่กระทำไปชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องการขัดกันของผลประโยชน์ตามกฎหมาย และในสัปดาห์หน้า ตนจะยื่นต่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ตามมาตรา 113 ของรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายจะยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงขอให้ สว. ข้างมากไปให้สุด ขาข้างหนึ่งติดคุกไปแล้ว “วันนี้ กกต. ดีเอสไอ ออกมาเรียกในล็อตที่ 5 แฝงและล็อตที่ 6 ผมบอกว่าเป็นเจ้ใหญ่เมืองอำนาจ ล็อตที่ 7 บรรดาลูกเทพทั้งหลาย และล็อต 8 เจ้าพ่อเขากระโดงโดนแน่” ทนายอั๋น กล่าว
...
อ้อมแอ้ม สว.เสียงข้างน้อยไร้เอกภาพ
เมื่อถามว่า สว.เสียงข้างน้อยมีจำนวน 40 คน แต่ทำไมจึงไม่ร่วมลงชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ น.ส.นันทนา กล่าวว่า กระบวนการวันนี้เป็นแค่การชะลอ การลงมติ ไม่ได้มีผลไปกล่าวโทษ หรือส่งผลกระทบต่อผู้ที่ทำหน้าที่ แต่ญัตติที่ตนเสนอไปที่ต้องการ สว. 20 คนคือ 1 ใน 10 เป็นเรื่องตามมาตรา 82 คือการถอดถอนก่อน แล้วจึงขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นยาแรงกระทบต่อผู้ที่ร่วมลงชื่อ จึงมีผู้ร่วมลงชื่อน้อย เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่า สว.เสียงข้างน้อย 37 คนที่ลงมติเห็นชอบให้ชะลอการเลือกองค์กรอิสระจะอยู่รอดปลอดภัย น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าวว่า ไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้เราเสี่ยงค่อนข้างสูง เขาอาฆาตมาดร้ายเราแล้ว ส่วนการทำงานต่อไปของ สว.เสียงข้างน้อยค่อนข้างยากลำบาก โดนกันหมดทุกฝ่ายทำงานลำบาก
วันนี้เลิกกลัว ขอแจงสังคม
“เมื่อฟังการอภิปรายในห้องประชุม ผมก็น้ำตาไหล สงสารตัวเอง สงสารประชาชน วันนี้จึงตัดสินใจลงมาชี้แจงกับประชาชนว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้ผมไม่กลัวแล้ว แต่ขอยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยกลัว วันนี้ความกลัวเปลี่ยนเป็นความกล้าแล้ว อย่าขู่มาก ผมเป็นอดีตทหาร หากเจอขู่มากแล้วจะกล้า กล้าแล้วบ้าบิ่นด้วย หลายคนก็เป็นเพื่อนกันมา แต่วันนี้เขาบอกว่าไม่อยากพูดกับผม ไม่อยากมองหน้า แต่ก็ไม่เป็นอะไร ผมมองหน้าประชาชนได้ มองหน้าสื่อมวลชนได้ ไม่ละอายใจ แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ถ้าทำงานไม่ได้ ไม่สนุก อย่างมากก็กลับไปอยู่บ้านเลี้ยงหลาน วันนี้อายุ 64 ปีแล้ว” น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าว