“โรม” น้อมรับคำวิจารณ์ หลังพรรคประชาชน เห็นชอบเปลี่ยนชื่อ “พระคลังข้างที่” ยอมรับในพรรคมีความเห็นแย้ง แต่เสียงส่วนใหญ่มองโหวตแบบนี้อาจจะดีที่สุด ปัดโยงคดี 44 สส. ชี้ บางพรรคประนีประนอมกว่านี้ยังไม่รอด

วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์รัฐสภา ถึงการลงมติเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ที่มีสาระสำคัญคือการเปลี่ยนชื่อสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เป็นพระคลังข้างที่ ว่า ในแง่เนื้อหาสาระ มุมมองของพรรคประชาชน ต่อเรื่องพระคลังข้างที่ ก็เป็นไปตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้อภิปรายไปแล้ว เราก็น้อมรับในเสียงวิจารณ์ของพี่น้องประชาชน และยืนยันว่าพรรคประชาชนเป็นพรรคมวลชน ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์เราได้ และเราเองก็ต้องนำเนื้อหาที่ประชาชนวิจารณ์นำไปพิจารณาทบทวนตัวเองเรื่องการทำหน้าที่ต่อไป

นายรังสิมันต์ ระบุต่อไปว่า เรื่องของพระคลังข้างที่ จะดูเฉพาะการลงมติเมื่อวานไม่ได้ ต้องดูตั้งแต่ปี 2560-2561 ถ้าหากมีการเสนอเรื่องการปรับปรุงประสิทธิภาพที่อาจจะลบข้อครหา หรือคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ได้ ทางเราก็ยินดีอยู่แล้ว แต่ในข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่าอย่างที่ นายณัฐพงษ์ อภิปราย ดีที่สุดก็คือโหวตเห็นด้วย แต่ก็ย้ำว่าพร้อมน้อมรับคำวิจารณ์ของประชาชน

ส่วนกรณีที่สื่อบางสำนักรายงานว่ามีการถกเถียงระหว่าง สส. ในพรรคประชาชนว่าจะลงมติอย่างไร นายรังสิมันต์ ระบุว่า ทุกพรรคการเมืองก็ต้องมีการประชุม สส. และต้องมีข้อยุติ ในหลายเรื่องก็มีความเห็นต่างกัน ต่อให้เป็นพรรคการเมืองเดียวกัน ก็ต้องมีการถกเถียง บางครั้งเราอาจจะไม่เห็นด้วยเหมือนกันทั้งหมด แต่ ณ จังหวะนี้ สถานการณ์นี้ การตัดสินใจลงมติอย่างใดอย่างหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดก็ได้ ดังนั้นเมื่อเรามีข้อยุติในพรรค มีสมาชิกบางคนไม่เห็นด้วย สุดท้ายต้องหาข้อยุติ

...

สำหรับการตัดสินใจหนนี้จะเกี่ยวข้องกับทางรอดทางการเมืองของพรรคประชาชนหรือไม่ นายรังสิมันต์ มองว่า เรื่องทางรอดทางการเมืองไม่ได้อยู่ที่เรา และไม่คิดว่าคดี 44 สส. จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย ถ้ามีธงทางการเมืองมาแล้ว เราก็ตระหนักว่า รอด-ไม่รอด ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องกฎหมาย ต่อให้มีท่าทีประนีประนอมก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เรารอดหรือไม่รอด เรามีตัวอย่างพรรคการเมืองจำนวนมากที่ประนีประนอมแล้วก็ไม่รอด แต่จากที่ได้แลกเปลี่ยนกันในพรรคเราพิจารณาแล้วว่าด้วยเนื้อหาสาระอย่างนี้ควรจะตัดสินใจอย่างไร มันไม่ใช่การตัดสินใจย้อนกลับไปปี 2560-2561 แต่มันเป็นการตัดสินใจเฉพาะหน้าในวันนี้ เสียงส่วนใหญ่ของพรรคประชาชนมองว่าการโหวตเห็นชอบก็เหมาะสมแล้ว

ขณะที่ข้อสังเกตว่ามี สส.พรรคประชาชนบางคนไม่ได้ร่วมลงมติ ขณะที่ นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ก็ได้โพสต์แสดงจุดยืนหลังจากการลงมตินั้น นายรังสิมันต์ เผยว่า กฎหมายดังกล่าวคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมา ไม่ใช่นโยบายของพรรค ต้องยอมรับว่าเมื่อพิจารณากฎหมายของ ครม. ก็มีความเป็นไปได้ที่ สส.บางท่านอาจจะติดภารกิจ ติดประชุมกรรมาธิการ หรือมีภารกิจต่างประเทศ ดังนั้นตนคงไม่สามารถตอบแทนนางสาวชลธิชาได้ แต่ด้วยความที่กฎหมายนี้เป็นของ ครม. มาตรฐานก็จะเหมือนกับกฎหมายอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าหากไปตรวจสอบย้อนหลัง ก็คงจะมี สส.บางคนเข้าหรือบางคนก็ไม่เข้า และในฉบับนี้ไม่ได้มีแค่พรรคประชาชน ยังมีพรรคการเมืองอื่นที่ สส.อาจจะน้อยกว่าพรรคประชาชนเล็กน้อยไม่เข้าประชุมเช่นกัน ดังนั้น อย่าไปมองเรื่องนัยขนาดนั้น.