“พิเชษฐ์” ของขึ้น แจงยิบจากบัลลังก์ประธาน ปมคำของบประมาณปรับปรุงสภาฯ 8,000 ล้าน ต้องทำให้สมศักดิ์ศรีฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ ท้า “ไอติม พริษฐ์” เก่งจริงก็ตรวจสอบหน่วยงานอื่นด้วย ฉุน รื้อรั้วบ้านตัวเองทำไม
เวลา 21.17 น. วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงภายหลัง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน โดยช่วงหนึ่งพูดถึงเรื่องที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เปิดคำของบประมาณในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีสมาชิกพาดพิงถึงงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนายพริษฐ์ ได้จุดกระแสงบประมาณของสภาฯ ทำให้เสมือนว่าในสภาฯ มีการโกงกินคอร์รัปชัน เป็นข่าวในสื่อหลายวัน วันนี้ต้องขอถือว่าโอกาสขอชี้แจง เพราะไม่เช่นนั้นสภาฯ จะเสียหาย
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้งบประมาณยังไม่ได้ผ่านสภาฯ เลย จะอนุมัติหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการวิสามัญที่เราจะตั้งขึ้นมา อยากเรียนประชาชนว่าเสาหลักของประเทศมีฝ่ายบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติ ในส่วนของรัฐสภา ทำคำของงบประมาณแบ่งสภาผู้แทนราษฎร 6,000 กว่าล้านบาท และวุฒิสภา 2,000 กว่าล้านบาท รวมแล้วแค่ 8,000 ล้านบาท เราเพิ่งตรวจรัฐสภารับเมื่อกลางปี 2567 ใช้ฟรีมา 5 ปี โดยไม่มีการปรับปรุงซ่อมแซมเพราะไม่ได้รับการส่งมอบ เมื่อรับการส่งมอบแล้วต้องบำรุงรักษา จึงต้องตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการในส่วนที่ขาดอยู่ เช่น ที่จอดรถ เราประชุมงบประมาณ 4 วัน ที่จอดรถไม่พอ ซึ่งพื้นที่ใช้สอยของสภาฯ 400,000 ตารางเมตร ถ้าจะใช้สมดุลต้องมีที่จอดรถ 7,000 คัน วันนี้เรามี 3,000 คัน ผิดกฎหมาย ที่ไม่ทำตอนนั้นเพราะงบประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่ถูกตัดเหลือ 12,000 ล้านบาท ทำให้เกิดสภาฯ ขึ้นมาก่อน แล้วหาทางแต่งเติมขึ้นมา เมื่อรับมอบแล้วต้องหาทางดูแลให้สมบูรณ์แบบ ให้สมศักดิ์ศรีฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศ
...
ส่วนเรื่องศาลาแก้วที่ต้องปรับปรุง นายพิเชษฐ์ ระบุว่า ไปดูเลยศาลาแก้ว 2 หลังมีน้ำล้อมรอบ ตะไคร่ขึ้นเต็มเลย ไม่มีใครเหยียบย่างเข้าไปเพราะใช้ประโยชน์ไม่ได้ อีกเหตุที่ต้องปรับปรุงเพราะจะมีอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 มาตั้งในต้นปี 2569 ต้องทำให้สมดุล ศาลาแก้วเริ่มพุพังและร้อน ต้องปรับปรุงให้ใช้ประโยชน์ให้ได้ อีกทั้งจะใช้ต้อนรับแขก ตรวจสอบเลย วันนี้งบประมาณยังไม่ได้รับ ถ้าทำแล้วตรวจสอบได้ นี่บ้านของเราเอง ส่วนห้องประชุมงบประมาณก็จำเป็นต้องปรับปรุง ห้องฉายหนังก็ต้องทำ ถามตั้งคำถามว่ามันล้ำหน้า ทันสมัยไม่ได้หรือ ตรวจสอบได้เลยใครจะตรวจสอบ ถ้างบประมาณผ่านยินดีให้ตรวจสอบเต็มที่
“ท่านพริษฐ์ครับ ถ้าท่านเก่งจริงท่านตรวจสอบงบประมาณของกระทรวงต่างๆ สิครับ 20,000 หน้าท่านตรวจสอบไปเลย นี่บ้านของเราเอง มีงบฯ แค่ 8,000 ล้าน จะมารื้อรั้วบ้านทำไม แน่จริงไปตรวจสอบกระทรวง ทบวง กรม ที่เป็นแสนๆ ล้าน ต้องขออนุญาต ที่ท่านพาดพิงนะครับ สภาฯ เสียหาย ก็ชี้แจงพี่น้องประชาชนให้เข้าใจ”
จากนั้น น.ส.รักชนก ขอใช้สิทธิ์พาดพิง ว่า ในการอภิปรายตนยังไม่ได้พูดว่ามีการทุจริตเลย แต่บอกว่าเป็นมิติใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เราต้องรอให้มีการทุจริตหรือโกงกินเกิดขึ้นก่อน แต่นี่เราสามารถจับผิดได้ตั้งแต่งบประมาณยังไม่ถูกใช้ ยืนยันไม่ใช่การกล่าวหา ส่วนงบประมาณที่จอดรถเราทราบกันแล้ว 4,600 ล้านบาท ยังดีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่อนุมัติมา แต่คำถามคือเราทำผิดกฎหมาย ทำไมไม่หาคนทำผิดกฎหมายมาลงโทษและจับติดคุก แต่ทำไมเราต้องเอางบประมาณของประชาชนไปโปะเพื่อให้เรื่องที่ผิดกลายเป็นถูก โดยคนทำผิดยังไม่ถูกลงโทษเลย ขณะที่ห้องกรรมาธิการงบประมาณ มองว่าไม่ต้องใช้งบประมาณถึง 100 ล้านบาทในการจัดการ มองว่ายังสามารถใช้แบบเดิมได้
“ดิฉันเห็นด้วยกับประธานค่ะว่านี่มันคือบ้านของเรา ดิฉันเลยอายค่ะ อายที่สภาฯ มีงบประมาณเหล่านี้ และพ่อแม่พี่น้องประชาชนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่ามันไม่สมเหตุสมผล แล้วดิฉันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าตัวดิฉันหรือว่าเพื่อน สส.พรรคประชาชน จะมีอานุภาพมากพอเข้าไปตัดงบประมาณที่เรารู้สึกว่ามันไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้ได้หรือเปล่า ดิฉันก็เลยต้องพูดถึงค่ะ และส่วนที่สำคัญที่สุด สุดท้ายแล้วมันดีไหมคะที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนได้เห็นงบประมาณว่าขอไปทำอะไรก่อนที่มันจะใช้ ถ้าพ่อแม่พี่น้องประชาชนชอบดิฉันก็ฝากชม และก็ฝากกดดันรัฐบาลด้วยค่ะ ว่านอกจากงบประมาณรัฐสภาแล้ว เราอยากเห็นงบประมาณของกระทรวงอื่นๆ ที่อยู่ในชั้นคำของบประมาณด้วย”
นายพิเชษฐ์ กล่าวอีกครั้งว่า “งบประมาณ 2569 ของสภาผู้แทนราษฎร ผมยืนยันพร้อมที่จะให้ท่านตรวจสอบ เราต้องทำ จำเป็นต้องทำ ตรวจสอบได้ทุกเวลา เหตุผลมันมี ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองนะครับ ทำเพื่ออนาคตนิติบัญญัติ”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงหนึ่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นหารือว่าได้ยินเสียงคนเปิดคลิป โดยขอให้ปิดเพราะเสียงจะสะท้อนทำให้เกิดความรบกวนต่อการอภิปราย ต่อมา นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “ขออภัยด้วยนะครับ เสียงที่รบกวนผมเองครับที่เป็นคนเปิด เผอิญเสียงที่ท่านประธาน ที่พวกเราอภิปรายนั้น ด้วยความเคารพ ผมฟังไม่ชัด ผมเคยร้องไปที่เลขาธิการสภาฯ แล้วเรื่องระบบเสียง ผมก็เลยฟังวิทยุ เสียงไปรบกวนต้องขออภัยด้วยครับ” จากนั้นจึงต่อด้วยการอภิปรายของ นายไชยา พรหมาในเวลา 21.29 น.
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการอภิปรายมากว่า 7 ชั่วโมงแล้วนั้น นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม สักพักการประชุมในเวลา 23.07 น. โดยจะเริ่มอภิปรายต่อในวันที่ 29 พฤษภาคม 2569 เวลา 09.00 น.
ชมถ่ายทอดสดประชุมสภาฯ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569
(ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี)