อภิปรายร่างงบประมาณ 2569 “ไอซ์ รักชนก” สส.พรรคประชาชน จัดหนักปมทุจริตคอร์รัปชัน ถูกสอนโตไปไม่โกง แต่โตมาไม่ใช่ ชี้เหตุผลที่ไม่โหวตเห็นชอบ พร้อมแซวกลางสภาฯ กลับบ้านกันหมดแล้ว ไม่มีคนประท้วงเลย

เมื่อเวลา 20.44 น. วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 การปฏิรูปงบประมาณกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและคอร์รัปชัน ใน 3 หัวข้อคือ การจัดการปัญหาคอร์รัปชัน คือนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ, การหาส่วนต่างจากงบประมาณ และข้อเสนอในการปฏิรูปกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและลดคอร์รัปชัน

น.ส.รักชนก อภิปรายว่า ข้อมูลจากองค์การต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย (ACT) พบว่า มูลค่าการคอร์รัปชันในภาครัฐสูงถึง 500,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่อยู่ที่การจัดซื้อจัดจ้าง 300,000 ล้านบาทต่อปี รองลงมาคือการรับส่วย สินบน ทั้งนี้ เสือตัวที่ 5 ที่ประเทศไทยอยากเป็น สุดท้ายก็เป็นไม่ได้ แต่เรื่องดัชนีคอร์รัปชัน ประเทศใกล้จะติด 1 ใน 5 ของเอเชียแล้ว ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 6

...

“ประเทศไทยไม่เคยมีรัฐบาลที่มีเจตจำนงในการจัดการปัญหาทุจริตและทุจริตคอร์รัปชัน ย้อนหลัง 20 ปีไป ดัชนีทุจริตเราไม่เคยลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลย สะท้อนปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย นายกรัฐมนตรีเมื่อกี้ท่านบอกว่าต้องติดอันดับ 1 ใน 45 และได้คะแนน 56 ตั้งเป้าแบบนี้ท่านรู้หรือเปล่าที่อ่านมา เราตั้งกันมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ทุกวันนี้ท่านก็ลองดูดัชนีคอร์รัปชันเอาเองก็แล้วกัน เทียบกับสิงคโปร์คอร์รัปชันเขาต่ำมาก ดาวค้างฟ้ายืนหนึ่งในเรื่องความโปร่งใสในเรื่องคอร์รัปชัน เขาถึงได้รับความไว้วางใจจากทั่วโลก ให้กลายเป็นฮับทางด้านการเงิน ซึ่งเราเทียบเขาไม่ได้ มันไม่ติดฝุ่นไปแล้ว ส่วนเวียดนามก็ดีขึ้นกว่าไทยแล้วในปัจจุบัน”

ในประเด็นการหาส่วนต่างจากงบประมาณ เราสูญเสียไปกับ 5 กลุ่ม คือ รายการที่ไม่จำเป็น, ของแพงเกินจำเป็น, การล็อกสเปก, ฮั้วประมูล และแก้ไขสัญญา พร้อมยกตัวอย่างเช่น ปฏิทินประกันสังคม, ตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เราสามารถปรับปรุงกระบวนการเพื่อลดการทุจริตได้ เราสามารถป้องกันการเกิดขึ้นได้

น.ส.รักชนก กล่าวต่อไปถึงการปฏิรูปกระบวนการงบประมาณเพื่อป้องกันปัญหาทุจริตและลดคอร์รัปชัน ด้วย 4 ขั้นตอน คือ กระบวนการเตรียมคำของบประมาณ, กระบวนการพิจารณางบประมาณ, กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และการสอบทาน พร้อมแนะว่ารัฐบาลต้องกำหนดกรอบ หากใช้งบประมาณไม่ได้ดังที่ทำคำขอ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงต้องเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมทั้งเสนอให้เปิดงบประมาณให้ประชาชนและภาคประชาสังคมเห็นตั้งแต่ต้นปี

ขณะเดียวกัน การเสนอให้มีการถ่ายทอดสดกรรมาธิการงบประมาณ มีมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล และพรรคประชาชนในปัจจุบัน แต่ไม่เคยสำเร็จ ซึ่งไม่เป็นไรตนจะเสนอต่อไปทุกปี อีกทั้งมองว่าถ้า สส. ได้เอกสารแบบไหน ประชาชนต้องสามารถโหลดเอกสารแบบนั้นเพื่อไปร่วมกันตรวจสอบได้ รวมถึงวงคณะอนุกรรมาธิการก็ควรจะถ่ายทอดสดการประชุมด้วย พร้อมกล่าวแซวช่วงหนึ่งถึงบางพรรคการเมือง ว่า “ดิฉันเอามาจากหน้าข่าว ไม่ได้ตั้งใจจะพาดพิงพรรคไหนจริงๆ กลับบ้านกันไปหมดแล้วเนาะ เลยไม่มีใครประท้วง สบายดิฉันเลย ดิฉันต่อเลย”

ก่อนจะกล่าวต่อไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นของอย่างเดียวกันแต่ราคากลับต่างกันในต่างหน่วยงาน พร้อมเสนอว่าควรมีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อทำ Red Flag โครงการเสี่ยงฮั้วประมูล ล็อกสเปก โครงการที่ข้าราชการ นักการเมืองมีเอี่ยว และต้องเปิดเผยสัญญาหลังการจัดซื้อจัดจ้างด้วย รัฐบาลต้องบังคับให้หน่วยงานเปิดเผยข้อมูล รวมไปถึงต้องปฏิรูป สตง. และสำนักงบประมาณ

พร้อมยืนยันว่าตนเองเป็น สส.มา 2 ปี การทุจริตคอร์รัปชันป้องกันได้ เชื่อว่าประชาชนในประเทศนี้ไม่มีใครที่ชอบเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน เพราะรู้ว่าเป็นสิ่งที่เลวร้ายและถ่วงความเจริญก้าวหน้าของประเทศไทย เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับให้เกิดขึ้นได้ในประเทศนี้ อีกทั้งตั้งแต่เด็กเคยถูกสอนหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ “โตไปไม่โกง” แต่เมื่อโตมาถึงได้รู้ว่าคนที่พยายามเสี้ยมสอนเด็กนั่นแหละที่โกงกันฉิบหาย คอร์รัปชันกันทุกระดับ

“ถามว่าประเทศไทยเราวันหนึ่งจะจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชันได้จริงๆ ไหม คำตอบคือทำได้ แต่มันต้องเป็นรัฐบาลที่มีเจตจำนงที่มาทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนจริงๆ แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้มันไม่ได้วิเศษวิโส หรือวิลิศมาหราอะไรเลย มันไม่ได้ไกลเกินสมองของรัฐมนตรีทั้งหมดที่นั่งอยู่ในสภาฯ แห่งนี้จะคิดได้ พวกเขารู้ทุกอย่างทำไมไม่จัดการ ก็เพราะว่าถ้าจัดการแล้วจะกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้อย่างไร จะหาประโยชน์เข้าพวกพ้องตัวเองได้อย่างไร

คนที่ดิฉันอยากสื่อสารมากที่สุดคือพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่อยู่ทางบ้านดิฉันกล้าพูดว่าถ้าพรรคประชาชนมีอำนาจ พวกเราทำได้ค่ะ พวกเราจะสร้างระบบงบประมาณที่ทำให้ภาษีทุกบาททุกสตางค์ของท่านถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า ถูกใช้ไปเพื่อพัฒนา ทุกชีวิตประเทศนี้ให้มีโอกาสได้เข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง และก่อนที่เราจะลดคอร์รัปชันได้ เราต้องมีรัฐบาลที่มันจริงจังก่อน ดังนั้นดิฉันจึงไม่สามารถที่จะโหวตรับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ นอกจากว่าพวกเราจะต้องล้างบางพวกทุจริตคอร์รัปชันออกไปก่อนให้หมดประเทศ” โดย น.ส.รักชนก จบการอภิปรายไปในเวลา 21.17 น.

ชมถ่ายทอดสดประชุมสภาฯ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2569

(ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี)