“นายกฯ อิ๊งค์” ยันจัดสรรงบประมาณปี 2569 ตรงปกกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมน้อมรับทุกข้อเสนอแนะของ “ทักษิณ” แต่ยังไม่คิดโยกงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมาใช้ปราบยาเสพติดตอนนี้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 28 พ.ค. 2568 ที่รัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เดินทางเข้าร่วมการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่าย 2569 โดยมีรองนายกฯ และ รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. คมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว. การท่องเที่ยวและกีฬา รอให้การต้อนรับ โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์กรณี สส. ฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์ว่าการจัดทำงบประมาณไม่ตรงกับสถานการณ์ของประเทศที่ต้องเร่งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า งบประมาณทั้งหมดจะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโต ที่สำคัญงบประมาณดังกล่าวผ่านการทบทวนจากหลายหน่วยงาน ใครที่มีข้อท้วงติงอย่างงบดิจิทัลวอลเล็ตเราก็รับฟังความคิดเห็นไปหมดแล้ว คิดว่างบประมาณที่จะพิจารณานี้จะเป็นส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโตคิดว่าตรงเป้า

...

เมื่อถามว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่างบประมาณที่แต่ละกระทรวงจัดสรรตรงเป้า โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจที่จะสามารถรองรับเศรษฐกิจโลก อย่างเรื่องภาษีสหรัฐได้ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ตรงเป้าค่ะ ก่อนหน้านี้เราได้ลองจัดไว้ดูรอบหนึ่งก่อนแล้วก่อนมีเรื่องกำแพงภาษี เราจัดวางไว้เรื่อยๆ อยู่แล้ว พอมีเรื่องภาษีเข้ามาเราก็ปรับเปลี่ยน และเรารับฟังความคิดเห็นทั้งหมด อันนี้เป็นส่วนในการกระตุ้นและช่วยเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งภาครัฐและเอกชน ฉะนั้นมันตรงเป้าอยู่แล้ว

งบปราบยาเสพติดมีอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เสนอความเห็นให้โยกงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ออกมาใช้แก้ไขปัญหายาเสพติด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าในงบประมาณมีเรื่องของยาเสพติดอยู่แล้ว เป็นวาระแห่งชาติเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ แล้วก็รับฟังความคิดเห็น เมื่อถามว่า งบ 1.57 แสนล้านบาท ควรใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ จึงควรเอางบกลางมาแก้ปัญหายาเสพติดดีกว่าหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มันมีการแบ่งงบไปอยู่แล้ว อะไรที่จำเป็นเร่งด่วนก็จะใช้งบกลาง แต่อันไหนที่อยู่ในงบได้ก็อยู่ในงบไปแล้วซึ่งค่อนข้างที่จะครอบคลุมทุกหัวข้ออยู่แล้วด้วย

ยินดี “พ่อ”ช่วยลงพื้นที่

เมื่อถามว่า นายทักษิณ จะขอลงพื้นที่พบปะประชาชน ได้มีการคุยกันบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า  ไม่ว่าจะเป็นเอกชน หรือใครก็ตาม หากจะช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ เราก็ยินดีร่วมมือกัน จะมาคุยกับรัฐบาลก็ได้ “เรายินดี บังเอิญว่านายทักษิณ เป็นคุณพ่อ ก็อาจจะมีการคอมเมนต์ได้ใกล้ชิด แต่ถ้าท่านจะไปลงพื้นที่ก็เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว ตามสะดวกใครก็ตามที่คิดจะช่วยประเทศชาติ ยินดีเสมอ” นายกรัฐมนตรี กล่าวและว่า ตนก็มาจากภาคเอกชน วันนี้เป็นรัฐบาล รับฟังอยู่แล้ว บางทีไปฟังนักธุรกิจพูดให้ความเห็น สวิตช์อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็หยิบมาใช้เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เมื่อถามอีกว่า เห็นด้วยหรือไม่ที่นายทักษิณ ให้โยกงบ นายกฯ กล่าวว่า “คงยังไม่ได้โยกตอนนี้ ยังไงเดี๋ยวให้ฝ่ายรัฐบาลมาช่วยกันดูเรื่องงานบริหาร แต่ทุกคอมเมนต์ที่เป็นประโยชน์ก็รับฟังไว้ เราต้องอยู่บนหน้าเดียวกัน ว่าเราจะช่วยกันพัฒนาประเทศ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งบี้กันเอง ใจเย็นๆ แล้วก็ช่วยกันว่าอันไหนมีประโยชน์สูงสุด เดี๋ยวเรามาทำด้วยกัน”

ลั่นพรรคร่วมรัฐบาลไม่แตกแยก

นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์กรณี กระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยว่า ทุกพรรคการเมืองมีความเห็นไม่ตรงกันจริงในหลายเรื่อง แต่ไม่ได้แตกกัน ไม่ได้งัดกัน อย่างที่ตนบอกว่าการเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นคู่แบบไหนก็ตามถ้าเราได้ขัดกันแล้วปรับความเข้าใจกันได้ก็คิดว่าจะเข้าใจกันมากขึ้น อันนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ เมื่อถามถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาระบุรัฐบาลจะอยู่จนจบสมัย ไม่ต้องเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี หมายความว่าอย่างไร มีประเด็นการเปลี่ยนตัวนายกฯ เกิดขึ้นมาหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “สัญญาณจากสื่อมวลชนหรือเปล่า ว่าจะให้เปลี่ยนตัวนายกฯ อย่าเพิ่งเบื่อกันสิคะ”