ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง “อุปกิต ปาจรียางกูร” อดีต สว. เจ้าตัวลั่น ทุกข์ทรมานใจมานาน 3 ปีในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ วันนี้ได้รับความเป็นธรรม คืนฉายา “สว.ทรงเอ” ให้ “รังสิมันต์ โรม”

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องพิจารณาคดี 710 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีดำ ย.1445/2566 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นจำเลยในความผิดฐาน

1. เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันโดยการกระทำมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป

2. ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน

3. เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน

4. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันฟอกเงิน

5. เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อจะทำความผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

6. มีส่วนร่วมกระทำการใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรง

...

กรณีผู้กล่าวหาว่าเข้าไปมีส่วนร่วมในการสมคบกันค้ายาเสพติดกับ นายทุน มินหลัด โดยระหว่างการพิจารณาคดีนายอุปกิตได้ประกันโดยวางหลักทรัพย์ 10 ล้านบาท

ศาลพิเคราะห์ว่าพนักงานสอบสวนที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาที่ค้ายาเสพติดและโอนเงินผ่าน 22 บัญชี แต่จากพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฏว่า นายอุปกิต มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวในการสมคบกันเพื่อค้ายาเสพติด แม้จะมีแชตที่คุยกับ นายทุน มินหลัด ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด คดี ย.1249/2565 ที่ศาลยกฟ้องไปพร้อมกับพวก 5 รายก่อนหน้านี้ โดยแชตดังกล่าวเป็นเพียงการพูดคุยการโอนเงินชำระค่าไฟฟ้ามูลค่า 30 ล้านบาทที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ซื้อไฟฟ้าจากไทย โดยชำระให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่สาย การพูดคุยเป็นการทวงเงินในการชำระค่าไฟฟ้าท่าขี้เหล็กเพียงเท่านั้น ในขณะที่กลุ่มผู้ค้ายามีการโอนเงินเพียงครั้งละ 500,000 - 1,000,000 บาท โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีการปิดชายแดนจากโควิด 19 จึงต้องใช้บัญชีส่วนตัวของนายทุน มินหลัด โอนเงินสู่การไฟฟ้าแม่สาย

โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยได้สมคบกับบุคคลภายในและภายนอกประเทศกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด และไม่มีหลักฐานที่สมคบกันฟอกเงิน พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

ต่อมา นายอุปกิต ให้สัมภาษณ์ว่า ทีมทนายความสามารถโต้แย้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมดก็ตั้งศาลพิพากษายกฟ้อง ทางด้านกฎหมายตนได้รับความเป็นธรรม คนผิดจากการถูกกล่าวหาทำให้ตนทุกข์ทรมานใจมานาน 3 ปี ในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ การอภิปรายของ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นำพยานหลักฐานเท็จทั้งหมดมาพูดต่อพยานหลักฐานการสืบสวนของ พ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ มาจัดการตน ประชาชนสามารถเห็นได้ว่าแม้กระทั่งผู้สมัครผู้ที่เกี่ยวข้องกับพรรคเขาเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจริง มีเรื่องละเมิดทางเพศ มีอิทธิพล มาอ้างว่าทำการเมืองใหม่ แต่จริงๆ แล้วแย่มาก

เมื่อผลคำพิพากษายกฟ้องในวันนี้ ตนจะขอใช้สิทธิทางกฎหมายเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมคืนมา จะขอยื่นฟ้องแน่นอน ตนรู้จักกับ นายทุน มินหลัด และครอบครัวของเขามาเป็นเวลา 20 ปี เพราะเนื่องจากตนไปทำธุรกิจที่เมียนมา แต่ต่อมาได้ขายกิจการทั้งหมดไปก่อนที่จะมาเป็น สว. ปัจจุบันก็ไม่ได้ติดต่อกับทาง นายทุน มินหลัด สุดท้ายนี้ตนขอคืนฉายาคำว่า สว.ทรงเอ คืนให้แก่นายรังสิมันต์ โรม กลับคืนไป.